สสส.จับมือ กทม.- แอล.พี.เอ็น. สร้างแกนนำสร้างสุขในชุมชนตึกสูง
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
สสส.จับมือ กทม.-แอล.พี.เอ็น. พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการชุมชนแนวตั้ง เปิดพฤติกรรมคนเมืองบนตึกสูง เครียด ขาดปฏิสัมพันธ์ เสี่ยงป่วยโรคตึกเป็นพิษ เดินหน้าสร้างแกนนำสร้างสุข ในชุมชนตึกสูง เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ยั่งยืน
นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยอาคารชุดใน กทม. พบว่า มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบตอนเช้ากลับค่ำส่งผลต่อสภาวะความเครียด ขาดปฏิสัมพันธ์ของผู้อยู่อาศัย ละเลยกฎการอยู่ร่วมกัน มีลักษณะครอบครัวเดี่ยวที่มีแนวโน้มเข้าสู่สังคมสูงอายุ ขาดการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและเสี่ยงต่อโรคตึกเป็นพิษ (SBS) ซึ่งมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองตา เนื่องจากระบบหมุนเวียนอากาศ ฝุ่นละอองและเชื้อโรคภายในตึก ดังนั้น สสส.จึงร่วมกับ กทม. และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หาโมเดลการบริหารจัดการชุมชนอาคารชุด และแนวทางสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยและใช้ชีวิตในอาคารชุด ทดลองนำร่องในพื้นที่ตึกสูง 5 ชุมชน พบว่าวิธีที่ได้ผลคือการหาแกนนำในพื้นที่มาขับเคลื่อน เช่น ผู้จัดการโครงการหรือนิติบุคคล โดยพัฒนาให้มีความรู้เรื่องสุขภาพที่ดีทั้ง 4 มิติ ได้แก่ กาย ใจ สังคม และปัญญา ทักษะการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ทักษะการฟังเพื่อจัดการความขัดแย้ง เรียนรู้การออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะและฝึกออกแบบกิจกรรมจริงในพื้นที่ 5 ชุมชนนำร่อง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย
ด้าน น.ส.สมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัทลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ เมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตัวอย่างการสร้างเสริมสุขภาพที่เกิดขึ้นในชุมชนอาคารชุด 5 พื้นที่ ซึ่งผู้อยู่อาศัยไม่ใช่แค่ผู้ร่วมกิจกรรมแต่เป็นผู้ร่วมจัดกิจกรรม เช่น กิจกรรมการฉีดวัคซีน การกำจัดแมลง ทำให้มีชุดความรู้ในการส่งเสริมสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในตึกสูงมากขึ้น และสิ่งที่ได้จากคนในชุมชนอาคารชุดคือ ความขัดแย้งลดลง ผู้จัดการชุมชนได้รับการยอมรับ ผู้อยู่อาศัยมีส่วนร่วมในมิติการตอบสนองเพิ่มขึ้น
ขณะที่ นางมยุรี เถาลัดดา หัวหน้ากลุ่มงานสาธารณสุขชุมชน สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า หากมีผู้ป่วยโรคระบาดเกิดขึ้นกับชุมชนแนวตั้ง กทม.ก็ไม่รู้ข้อมูลและไม่สามารถเข้าไปจัดการได้หากอาคารไม่เปิดพื้นที่ ความร่วมมือในการทำงานร่วมกับ สสส.และ ลุมพินีคอนโด ทำให้ได้องค์ความรู้ในการจัดการชุมชนน่าอยู่ของคนในตึกสูง โดย กทม.จะนำชุดความรู้ที่ได้นำร่องส่งต่อไปยังเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ เพราะหากจัดการในเมืองที่ยากอย่าง กทม.ได้แล้ว เมืองอื่นก็สามารถทำได้