สสส.จับมือตำรวจลำพูนลดสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สิน
มุ่งเน้นเยาวชนตระหนักถึงความปลอดภัยและเคารพกฎจราจร
สนง.ตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ สสส.จัด “โครงการกวดขันวินัยจราจรและลดอุบัติเหตุ” เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิต นำร่องเลือกจังหวัดลำพูนเป็นต้นแบบบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะและลดปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. ระบุว่าจากการรณรงค์อย่างจริงจังในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทำให้อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่อแสนคนลดลงจาก 21 เหลือเพียง 19 ซึ่งยังนับว่าสูงเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นซึ่งมีเพียง 8 เท่านั้น ทุกฝ่ายจึงต้องหาทางลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้มากกว่านี้
“ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุคือ คน รถ ถนนและสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหา 3 องค์ประกอบนี้ต้องใช้ผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ เข้ามาร่วมกันดูแล ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนที่ทำงานทางด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ขับขี่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ตุบนท้องถนน” ดร.สุปรีดา กล่าว
“โครงการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนและกวดขันวินัยจราจร” เป็นโครงการของสถานีตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ที่ประสบความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนนด้วยการนำหลัก 6 es มาใช้โดยเน้นไปที่การบังคับการใช้กฎหมายและการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานอื่นฯ
พ.ต.ท.อนุวัตร คำสาร สารวัตรจราจร สภ.อ.เมืองลำพูนกล่าวว่า จากการติดตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุพบว่าเกิดจากขับรถเร็ว แซงไม่ปลอดภัย การตัดหน้า เมาแล้วขับ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นจากคน แสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่มีความประมาท “การแก้ปัญหาจึงเน้นไปที่ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และการเคารพกฎจราจร ส่วนการให้ความรู้นั้นก็มุ่งเน้นไปที่เยาวชนโดยเข้าไปบรรยายในโรงเรียนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อ เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญในเรื่องนี้”
การบังคับใช้กฎหมายควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้คนในสังคมตระหนักและเห็นความสำคัญของการเคารพกฎหมายและกฎจราจร ทำให้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจำนวนผู้กระทำผิดกฎจราจรก็ลดลงเช่นกัน
โดยตัวเลขของผู้ไม่สวมหมวกนิรภัยที่พบในช่วงไตรมาสที่ 1 เดือน ต.ค.-ธ.ค.50 กว่า 6,675 ราย ลดลงเหลือเพียง 4,529 ราย เมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาสที่ 3 เดือน เม.ย.-มิ.ย.51 นอกจากนี้ตัวเลขของผู้ขับขี่ขณะเมาสุราก็ลดลงจาก 123 ราย เหลือเพียง 7 ราย และจำนวนของผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตก็ลดลงจาก 6,482 เหลือเพียง 3,066 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
update 08-12-51