สร้างสุขด้วยปัญญา “คืนคนดีสู่สังคม”

ทักษะและแนวคิดสุขแท้ด้วยปัญญา ที่ต้องคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตัวเอง ไม่พึ่งพิงความสุขทางวัตถุ เชื่อมั่นในความเพียรของตน ไม่หวังลาภลอยรอโชค และรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายธวัชชัย โตสิตระกูล กรรมการบริหารเครือข่ายพุทธิกา กล่าวว่า จากการที่เครือข่ายพุทธิกา ได้จัดทำ “โครงการสุขแท้ด้วยปัญญา” ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นั้น พบว่า โครงการในระยะที่ 4 ตั้งแต่ เดือน เม.ย. 2555 ได้สร้างทักษะและกระบวนการชุมชนที่สามารถลดช่องว่างที่มีในชุมชนได้ อาทิ ในภาคอีสานมีอัตราประชาชนวัยทำงานย้ายถิ่นสูง โครงการจึงเน้นการสร้างชุมชน เพื่อรองรับสถานการณ์ เช่น เกิดกิจกรรมแม่อาสาที่มีผู้สูงอายุในชุมชนอาสาดูแลเด็กและร่วมอบรมผ่านประวัติศาสตร์ชุมชน ขณะเดียวกันเกิดเครือข่ายเยาวชนร่วมดูแลผู้สูงอายุอีกทางหนึ่งหรือในพื้นที่เขตเมืองที่เกิดปัญหาเยาวชนติดเกมคอมพิวเตอร์ ชุมชนจึงร่วมสร้างกิจกรรม เพื่อดึงเยาวชนเหล่านั้นมาทำสิ่งที่สร้างสรรค์และ เกิดประโยชน์กับส่วนรวม ทั้งนี้ก่อนที่จะสิ้นสุดโครงการโดยเฉพาะในช่วงส่งท้ายเก่าก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ทางเครือข่ายพุทธิกาและ สสส. เปิดรับสมาชิกใหม่ๆ ให้มาเข้ามามีส่วนร่วมในการทำความดีให้แก่ชุมชนในช่วงปีใหม่นี้ด้วย

นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการต่อเนื่องที่ใช้เวลาพัฒนากิจกรรมมามากกว่า 2-3 ปี เช่น โครงการกลับสู่ต้นน้ำที่ให้เยาวชน 3 ศาสนาคือพุทธ คริสต์ อิสลาม แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องศาสนา โครงการสุขแท้แม้ฟอกไตที่ให้กระบวนการชุมชนเป็นพี่เลี้ยงผู้ป่วยโรคไต และโครงการวิถีชีวิตไตรสิกขา เด็กปัญญาทำได้ ซึ่งได้ร่วมพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่มีปัญหาทางสมอง พบว่า นอกจากกิจกรรมจะผสานเครือข่ายจิตอาสาในชุมชนมาร่วมกันได้แล้ว ยังได้สร้างบุคคลากรจิตอาสาหน้าใหม่ที่พร้อมเป็นต้นแบบในงานพัฒนามิติอื่น ๆ ทั้งนี้ในช่วงท้ายปีที่ 4 และระยะต่อไปโครงการจะพยายามนำแนวคิดสุขแท้ด้วยปัญญาไปขยายผล และประสานงานร่วมกับหน่วยสังคมที่มีอยู่มากกว่าเดิม ทั้งการนำไปพัฒนาเป็นหลักสูตรกิจกรรมในสถาบันศึกษา การร่วมกับองค์กรพัฒนาต่างๆ เพื่อประยุกต์หาเครื่องมือที่เหมาะสมในการขับเคลื่อนงานให้เกิดสังคมสุขแท้ด้วยปัญญาต่อไป

“ทักษะและแนวคิดสุขแท้ด้วยปัญญา ที่ต้องคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตัวเอง ไม่พึ่งพิงความสุขทางวัตถุ เชื่อมั่นในความเพียรของตน ไม่หวังลาภลอยรอโชค และรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล ไม่ได้จำกัดที่รูปแบบกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่าง 4-5 ปีที่ทำงานมา อธิบายได้ว่าแนวคิดนี้สามารถเข้าไปร่วมได้กับทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นในงานอาสา ในหลักสูตรการเรียน ในกระบวนการชุมชน โดยที่ทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อสร้างประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนต่อส่วนรวมและผู้ปฏิบัติก็มุ่งพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กัน” กรรมการบริหารเครือข่ายพุทธิกา กล่าว

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code