สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนไทย ในสังคมเสื่อมโทรมอบายมุข

สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนไทย ในสังคมเสื่อมโทรมอบายมุข

ร่วมสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนไทย ด้วยการปลูกฝังค่านิยมแห่งคุณธรรมและความดี ในขณะที่สังคมเสื่อมโทรมจากอบายมุข เหล้า-บุหรี่

เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายหน่วยงานด้านการศึกษาได้มีการจัดงานเพื่อพัฒนาทักษะ ส่งเสริมความรู้ความสามารถแก่ผู้เรียน มีเวทีเกิดการแสดงออกในทางที่ถูกต้องเหมาะสม หนึ่งในนั้นก็คืองาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ณ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 61 ภายในงานมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการส่งเสริมให้เด็กเยาวชนเกิดการพัฒนาและต่อยอดความคิดเพื่อนำไปใช้ในอนาคต

ถือเป็นการพัฒนาตนเองและสังคมได้เป็นอย่างดี เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เป็นเวทีให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกถึงศักยภาพ สุนทรีภาพ และความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาการเรียนการสอน โดยเน้นที่การสร้างระบบความคิดให้กับผู้เรียน เพื่อให้สอดคล้องและก้าวทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 

ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง จัดงานแข่งขันและคัดเลือกตัวแทนในส่วนภูมิภาค เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเด็กไทยในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภายใต้กิจกรรมและหลักเกณฑ์การประกวดที่ชัดเจนและมีมาตรฐานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน คือ กิจกรรมที่เกี่ยวกับโครงการคุณธรรม หรือโครงงานความดี เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ เด็กและเยาวชนสามารถก้าวทันโลก และเกิดการเรียนรู้ทั้งภายในและนอกห้องเรียน ช่วยให้การพัฒนาทักษะ ฝึกการใช้ความรู้ที่ได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งไม่เพียงแค่เรียนในภาคทฤษฎีแค่นั้น แต่ในภาคปฏิบัติจะทำให้ได้เห็นผลจริง พิสูจน์ได้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล

สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนไทย ในสังคมเสื่อมโทรมอบายมุขอีกทั้งยังได้สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมการทำความดีมีคุณธรรมแบบเชิงรุก โดยให้ผู้เรียนที่เป็นเด็กและเยาวชนเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านเทคนิควิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน (project approach) โดยประเด็นที่เลือกทำโครงงานนั้นเกิดขึ้นมาจากความสนใจและความคิดริเริ่มของผู้เรียนเอง เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติงานจริง ด้วยความพากเพียรพยายามอย่างจดจ่อต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร (ต้องทำงานจริงไม่น้อยกว่าสองเดือน) ในลักษณะวิจัยปฏิบัติการ (action research) นำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านความเสื่อมทางศีลธรรม และส่งเสริมการบ่มเพาะความดีมีคุณธรรมอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นระบบ รวมทั้งการขยายความมีส่วนร่วมไปสู่บุคคลต่างๆ ในสถานศึกษาและชุมชนของตนเองหรือชุมชนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 ในครั้งนี้ได้มีการเกิดขึ้นของนวัตกรรมที่น่าสนใจและได้ถูกนำมาถ่ายทอดเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมชมในงาน ทั้งโรงเรียน ครูอาจารย์ เพื่อศึกษาและนำนวัตกรรมที่ได้ไปปรับประยุกต์ใช้กับโรงเรียนของตนเองได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างพระ โรงเรียน ชุมชนร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ที่ได้ร่วมสร้างเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน โดยหนุนเสริมให้มีโรงเรียนปลอดเหล้าขึ้น เพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเหล้า รวมทั้งบุหรี่และยาเสพติดภายในโรงเรียน

ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขมากที่สุดในโรงเรียน และในครั้งนี้ได้มีการสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไข เพื่อเป็นต้นแบบด้านการจัดการแก้ไขปัญหาเหล้าบุหรี่ให้แก่โรงเรียนอื่นๆ ได้หลักสำคัญของการพัฒนาโครงงานคุณธรรมเพื่อให้มีกระบวนการเรียนรู้ที่ดีและสมบูรณ์ของโครงงานคุณธรรม จะต้องเริ่มต้นจากการเป็นกัลยาณมิตรต่อกันก่อน

โดยมีองค์ประกอบโครงสร้างและความสัมพันธ์ภายในกลุ่มให้สามารถดึงด้านบวกของแต่ละคนออกมาหากันให้ได้มากที่สุด ทำให้เกิดการใฝ่ดี คิดดี และทำดีร่วมกันออกมาได้อย่างเต็มที่ตามศักยภาพของแต่ละคน เกิดการซึมซับความดีพร้อมๆ กับมีการเรียนรู้หรือมีกระบวนการทางปัญญาเกิดขึ้นตลอดสาย ตั้งแต่การระดมความคิด การสังเกตสำรวจสภาพปัญหา ปัญญาตระหนักรู้ในสถานการณ์หรือสภาพปัญหาและสืบหาถึงสาเหตุ ปัญญาค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพิ่มเติม รวบรวมและประมวลข้อมูล การคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ ปัญญาคิดรึเริ่มสร้างสรรค์ การทำความคิดให้ชัดและเป็นระบบ การร่างโครงงาน

ซึ่งกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการคุณธรรมนี้ เป็นกระบวนการที่พัฒนาและปรับประยุกต์มาจากกระบวนการเรียนรู้วิถีพุทธ จึงทำให้กระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาคุณธรรมของผู้เรียนเกิดขึ้นควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี

สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนไทย ในสังคมเสื่อมโทรมอบายมุข โรงเรียนเวียงมอกวิทยา จังหวัดลำปาง เป็นโรงเรียนหนึ่งที่มีประสบการณ์เข้าร่วมโครงงานคุณธรรมตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการทำงานที่มีการส่งต่อกระบวนการระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องนับว่าเป็นหัวใจหรือแก่นของการแก้ปัญหาเหล้า บุหรี่ในโรงเรียน เพราะเรามักจะพบจุดอ่อนการทำโครงการหรือโครงงานว่าเมื่อจบระยะเวลาการทำโครงการหรือโครงงาน หรือรุ่นพี่จบไปงานนั้นก็จบตามไปด้วย

เด็กๆ โรงเรียนเวียงมอกวิทยาจึงได้มีการสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่น่าสนใจในเรื่องการเชื่อมต่อการพัฒนาและความยั่งยืนของการงานที่สามารถแก้ปัญหาได้จริง มิใช่เป็นเพียงการประกวดเพื่อรับรางวัล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของการร่วมกันสร้างสรรค์โครงงานแห่งความดี ทำให้เกิดเรื่องราวและบทเรียนหลากหลายที่น่าสนใจ กลายเป็นบทเรียนเบื้องต้นสู่การออกแบบการเรียนรู้ของโครงงานคุณธรรมตามฐานของสภาพพื้นที่ ความสนใจ และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ นักเรียนและครูที่ปรึกษาโครงงานอื่นในการทำความดีเพื่อความดีผ่านโครงงานคุณธรรมต่อไป

การแก้ปัญหาเรื่องเหล้าบุหรี่ของนักเรียนมัธยมโรงเรียนเวียงมอกวิทยา จังหวัดลำปาง อันเนื่องมาจากการทำโครงงานคุณธรรมเยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง เป็นการทำงานบนพื้นฐานความรัก ปรารถนาดี ใช้หลักการเพื่อนดูแลเพื่อนด้วยกัน เพื่อให้มีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง อยากเห็นความสุขของเพื่อน และมีความคิดที่ว่าถ้าปล่อยให้เพื่อนของเขาเป็นแบบนี้ต่อไป คือการเดินไปสู่หายนะ ยิ่งนานก็ยิ่งแก้ไขได้ยาก ครอบครัวของเพื่อนก็จะทุกข์เช่นกัน ชุมชนที่เคยอยู่กันอย่างอบอุ่นก็จะกลับกลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรมเต็มไปด้วยอบายมุขตามมาอีกก็เป็นได้ จากพื้นฐานความรัก ปรารถนาดีต่อเพื่อน

ประกอบกับความรักปรารถนาดีที่ครูใหญ่และครู มีต่อศิษย์ เมื่อ 3 ฝ่ายเห็นความรักปรารถนาดี เป็นสิ่งยิ่งใหญ่เหนืออื่นใด 3 ฝ่ายจึงหาทางออกที่เจือด้วยความรัก แก้ปัญหาอย่างนุ่มนวลเนียน ไม่หักหาญ ก้าวร้าว ข่มขู่ ไม่บังคับด้วยกฎระเบียบให้เกิดความกลัวอย่างเดียว และในที่สุดก็เป็นแสงสว่างก็ค่อยๆ ชัดขึ้นได้ 

ครูประนอม ดอนแก้ว หรือครูนอม ครูที่ปรึกษาโครงการ จากโรงเรียนเวียงมอกวิทยา กล่าวว่า เด็กทุกคนมีอะไรในตัวที่เด่นอยู่แล้ว แต่ว่ามีโอกาสแค่ไหนที่เด็กจะได้ดันตัวเองขึ้นมา เราอยากจะเอากิจกรรมตรงนี้เป็นพื้นที่สร้างให้เด็กๆ ดึงความสามารถของตน เองออกมา แล้วโครงงานนี้เด็กจะได้รวมตัวกันคิดและสามารถทำได้ ไม่ไกลเกินความสามารถของเขา ชุมชนของเขา โรงเรียนของเขา เพื่อแก้ปัญหาใกล้ๆ ตัว แต่เป็นปัญหาที่ลามไปสู่ชุมชน ซึ่งโครงงานคุณธรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์ คำท้าทายที่ว่า

“เด็กไทยไม่ใฝ่ดี ละอายการทำดี ทำงานเป็นทีมไม่เป็น คิดวิเคราะห์ไม่ได้” โดยการสร้างเงื่อนไขให้เขาใช้ปัญหาจริงที่ต้องเผชิญอยู่ทุกวัน ไม่ว่าในโรงเรียน ครอบครัวหรือชุมชน นำมาตรวจสอบ วิเคราะห์ วางแผน แสวงหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เป็นโอกาสให้เด็กๆ

สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนไทย ในสังคมเสื่อมโทรมอบายมุขเชื่อมโยงเข้าสู่ตนเอง เป็นเรื่องในชีวิตจริง เป็นประเด็นปัญหาจริงในชีวิต ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วม เกี่ยวข้องสัมพันธ์อยู่ สิ่งสำคัญคือเน้นการนำปัญหาในชีวิตจริงมาเรียนรู้ผ่านการทำโครงงาน อันจะเป็นการเรียนรู้และพัฒนาทักษะชีวิตด้วยวิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์ หรือด้วยกระบวนการทางปัญญา

นางสาวดวงมณี คำวงศ์กา ชั้น ม.5 และนายอนิวรรต กาวิละพรรณ ชั้น ม.6 เพื่อนกัลยาณมิตรที่คอยช่วยเหลือเพื่อนด้วยกันให้พ้นจากการติดเหล้าและบุหรี่จนเกือบทำให้เรียนไม่จบ

ดวงมณีเล่าให้ฟังว่า ตนเองเริ่มทำโครงงานตั้งแต่ปี 2550 – ปัจจุบัน เกิดผลอย่างเห็นชัดโดยความร่วมมือจากคณะครูที่ปรึกษา พระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล้าและบุหรี่ภายในโรงเรียน รวมถึงลดพื้นที่กลุ่มเสี่ยงภายในโรงเรียนและชุมชน และดึงกลุ่มเสี่ยงเข้ามาเป็นแกนนำเพื่อช่วยงานและเป็นวิทยากรที่เห็นตัวอย่างชัดเจน จนเกิดเป็นต้นแบบในการทำงานลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เน้นการทำงานค่ายโครงงานคุณธรรม เพื่อได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

ดวงมณี เล่าต่อไปว่า กระบวนการทำงานจะมีกลุ่ม “สายลับสีขาว” เป็นกลุ่มผู้ที่สอดส่องพฤติกรรมของนักเรียนภายในโรงเรียน พวกเขาจะแฝงตัวอยู่ในกลุ่มนักเรียนโดยไม่มีใครรู้ เพื่อรายงานพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงว่าพบใครดื่มเหล้า สูบบุหรี่ในโรงเรียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแกนนำที่เรียกว่า ผู้ก่อการดีกัลยาณมิตร ที่ปฏิบัติหน้าที่แบบลับๆ โดยจะอยู่ทุกหนแห่งทั้งในและนอกโรงเรียน อาจจะเป็นเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกันกับเรา หรือรุ่นพี่ รุ่นน้องของเราก็ได้ แต่ที่สำคัญสายลับสีขาวคือเพื่อนที่รักและหวังดีกับทุกๆ คน

จากโครงงานคุณธรรมที่โรงเรียนเวียงมอกวิทยา ได้จัดทำขึ้นภายในโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีการสร้างเครือข่ายคุณธรรมเกิดขึ้นมาและได้มีการขยายฐานเครือข่ายประมาณ 6 แห่งแล้ว โดยทำกิจกรรมรณรงค์เรื่องเหล้า บุหรี่ เพื่อขยายไปยังโรงเรียนต่างๆ จนเกิดแกนนำมากขึ้น โดยเน้นความสำเร็จไปที่การสานเครือข่ายความดีอย่างต่อเนื่องและเกิดการขยายผลของโรงเรียนเครือข่ายความดีนี้ ต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรงเรียนในตำบลและอำเภอใกล้เคียง

เครือข่ายคุณธรรมนี้ถูกเรียกว่า “เครือข่ายแม่ไก่กับลูกเจี๊ยบ” ใช้หลักการ คือ รุ่นพี่จะเข้าไปคอยดูแลรุ่นน้องที่อยู่ในระดับประถมศึกษาในเขตตำบลใกล้เคียง มีการทำกระบวนการกลุ่มเพื่อหาแกนนำขึ้นมาช่วยเผยแพร่และถ่ายทอดข้อมูลต่างๆ อาทิ เรื่องโทษของเหล้า บุหรี่ โดยมีการปลูกฝังความดีเพื่อให้รุ่นน้องที่เข้ามาร่วมโครงการ มีภูมิคุ้มกันติดตัว และไม่ตกเป็นทาสของอบายมุข สิ่งที่สำคัญคือเน้นการสร้างความรักความอบอุ่นระหว่างคนในครอบครัว

โรงเรียนบ้านปางอ้า จ.ลำปาง ถือเป็นโรงเรียนเครือข่ายความดีแห่งแรกในระดับประถมศึกษาที่มีการใช้กระบวนการพี่สอนน้อง โดย พี่ๆ แกนนำจากโรงเรียนเวียงมอกซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขบวนการแม่ไก่ ส่วนแกนนำโรงเรียนปางอ้าเป็นขบวนการลูกเจี๊ยบ วิธีการ คือ พี่ๆ ขบวนการแม่ไก่จะคอยสอนการบ้านให้น้องๆแล้วมีการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมต่างๆ รวมถึงสอนการทำโครงงานแบบง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องเหล้าและบุหรี่ เพื่อเป็นการปลูกฝังและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ มีการให้เด็กเข้ามามองปัญหาเรื่องเล้าบุหรี่ แล้วคิดออกมาว่าโทษของมันมีอะไรบ้าง ถ้ามีปัญหาเหล่านี้ในบ้านจะแก้อย่างไร มีการออกมานำเสนอ โดยใช้หลักอริยสัจ 4 มาอธิบาย ผสมไปกับกิจกรรมนันทนาการ

สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนไทย ในสังคมเสื่อมโทรมอบายมุขเด็กหญิงกัลยารัตน์ อาวาส ชั้น ป.3 แกนนำขบวนการลูกเจี๊ยบ โรงเรียนบ้านปางอ้า จ.ลำปาง เล่าให้ฟังอย่างตั้งใจว่า ขบวนการลูกเจี๊ยบมีที่มาจากการที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการรักดีไม่ดื่ม ไม่โดดเดี่ยว และร่วมกับโรงเรียนเวียงมอกที่เข้ามาจัดกิจกรรมต่างๆ ให้ โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กประถม กิจกรรมที่ผ่านมาจะมีการให้เขียนความรู้สึกของนักเรียนว่ารู้สึกยังไงเมื่อเห็นคนดื่มเหล้าสูบบุหรี่ แล้วก็ไปบอกพ่อแม่ อีกทั้งยังเน้นให้นักเรียนตระหนักถึงโทษของเหล้าบุหรี่ ผ่านการทำกิจกรรมที่โรงเรียนในวันพระ และชวนผู้ปกครองไปทำกิจกรรมที่วัดและวันหยุดนักขัตฤกษ์ร่วมกัน มีการสอนนวดให้เด็กๆเพื่อไปนวดให้พ่อแม่ แล้วค่อยๆ ชวนให้เลิกด้วยคำพูดตามที่เด็กๆคิดขึ้นมาเอง ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าพวกเราก็ทำได้ พ่อแม่ดื่มลดลงบางทีอาจเลิกไม่ได้แต่ก็เห็นถึงความพยายามและการขอร้องของลูกๆ

ครูสมรักษ์ ทิวงศ์ษา ครูที่ปรึกษาโครงงาน โรงเรียนบ้านปางอ้า จ.ลำปาง กล่าวว่า ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการลูกเจี๊ยบ พบว่า เด็กนักเรียนรู้สึกดีใจและรู้สึกดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ ความรู้สึกเด็กดีขึ้น กล้าแสดงออกและเพิ่มความมั่นใจให้เด็กมากขึ้น เพราะเค้าจะซึมเศร้า มีอาการเครียดเวลาที่เห็นพ่อแม่ดื่มเหล้า ทะเลาะกัน ส่งผลไปถึงความรู้สึกของเด็กอย่างมาก ประสิทธิภาพในการเรียนและการอยู่กับเพื่อนก็จะลดลง ไม่เฮฮา สนุกสนาน แต่พอเข้าร่วมโครงการนี้ เด็กนักเรียนอยากเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงาน อยากให้พ่อแม่เลิกดื่มเหล้า ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ให้เด็กเขียนข้อความ ความรู้สึกของตนเอง

ที่ผ่านมาผู้ปกครองก็เริ่มมีพฤติกรรมดื่มเหล้าสูบบุหรี่ลดลง ถือว่าโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อหลายๆ ฝ่าย และจะพยายามพัฒนาโครงงานเพื่อเสริมประสบการณ์ที่ดีให้แก่เด็กมากขึ้นต่อไป จริงอยู่ที่ใครหลายคนอาจคิดว่าการแก้ปัญหาสังคมที่พบกันอยู่ในประเทศไทย เช่น ปัญหาการพนัน ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาการติดสุรา การติดยาเสพติด ฯลฯ ต้องเป็นการทำงานจากผู้มีประสบการณ์ผู้มีวิชาการ ใช้หลักจิตวิทยาชั้นสูงจึงแก้ปัญหา หรือลดปัญหาได้ ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะประสบการณ์มาก ย่อมเห็นแนวทางการแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวเป็นเพียงภาพลวง แต่ก็ไม่ควรลืมว่าปัญหาที่หาทางออกโดยผู้ที่อยู่ในวังวนของปัญหา เห็นปัญหา เห็นที่มา เห็นการดำเนินของปัญหาอย่างละเอียดจะสามารถหาแนวทางแก้ปัญหาที่แนบเนียนไม่น้อยไปกว่ากัน

โครงงานคุณธรรมจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เด็กเยาวชนในสังคมเกิดการรับรู้ เข้าใจ ผ่านกระบวนการคิดร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน และเพื่อทำให้สังคมอยู่ด้วยกันอย่างมีสติ มีคุณภาพ เกิดความสร้างสรรค์และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความรักให้แก่กัน ผ่านรูปแบบในการดำรงชีวิตประจำวันที่ไม่ปะปนหรือยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขที่จะนำไปสู่ความเสื่อม แต่จะเป็นการร่วมสร้างฐานความดีเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันและต่อยอดความดีออกไปจนเกิดประโยชน์ร่วมกันมากที่สุด

ที่มา: สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า

 

Shares:
QR Code :
QR Code