สร้างทักษะให้เด็กไทย กลไกสร้างอนาคตของชาติ

 

สร้างทักษะให้เด็กไทย กลไกสร้างอนาคตของชาติ

 

“เด็กเอ๋ย เด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน หนึ่ง นับถือศาสนา สอง รักษาธรรมเนียมมั่น สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน………….” ได้ยินเพลงนี้ทีไร เป็นที่รู้กันดีว่าคงใกล้ถึงวันสำคัญของเด็กไทยกันแล้ว นั่นก็คือ “วันเด็กแห่งชาติ”วันที่เด็กๆ ทุกคนต่างมีรอยยิ้ม หากแต่พูดถึงเด็กไทยในปัจจุบันวันนี้ จากสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น ต้องขอบอกว่าเด็กไทยทั้งหลายกำลังตกอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงอย่างมาก…

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางฐานิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว บอกกับเราว่า ถ้าพูดถึงเด็กไทยในปัจจุบันเราบอกได้เลยว่า เด็กไทยกำลังประสบปัญหามีความอ่อนแอในเรื่องของทักษะการช่วยเหลือตนเอง ซึ่งถือเป็นทักษะเบื้องต้นที่เด็กทุกคนควรมี เช่น ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่การจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าก็ตาม ดังนั้น หากต้องการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ คงต้องมองไปในมิติของครอบครัว จากสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา หากครอบครัวไหนที่เตรียมความพร้อมให้กับลูกได้ดี เด็กคนนั้นก็จะผ่านพ้นวิกฤตในช่วงนั้นๆ ไปได้

“ครอบครัวจำเป็นต้องสอนทักษะในการจัดการปัญหาให้กับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโต เพื่อเขาจะได้แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง อย่างที่พบเจอที่ผ่านมา เช่น ในช่วงน้ำท่วม เด็กไม่สามารถจัดการกับปัญหาได้ เพียงแค่การนั่งในกะละมังลอยน้ำก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นทักษะเบื้องต้นจริงๆ หากเราทำให้เด็กเข้มแข็ง ช่วยเหลือตัวเองได้เร็วๆ เท่าไหร่ พ่อแม่ก็จะลดการสูญเสียและหายห่วงได้เร็วขึ้นเท่านั้น จึงอยากฝากทุกครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด เราต้องมีการเสริมความพร้อมให้เด็กตั้งแต่ต้น หากเด็กมีทักษะเร็ว เขาก็จะมีภูมิคุ้มกันชีวิตเร็วขึ้น อย่าเน้นให้เด็กเรียนหนังสือแต่ในตำรา การเรียนนอกตำราก็สำคัญเช่นกัน”ผจก.มูลนิธิเครือข่ายครอบครัวกล่าว

แต่ทั้งนี้ จากการสำรวจยังพบอีกว่า เด็กในเมืองกับเด็กตามชนบทก็มีความต่างกันในเรื่องของทักษะ โดย ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว บอกต่อว่า ในมุมของครอบครัวที่อยู่ตามชนบท เราจะเห็นถึงความแตกต่าง เนื่องจากเด็กตามชนบทจะสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากกว่าและเร็วกว่าเด็กในเมือง เช่น ครอบครัวที่บ้านอาศัยอยู่ใกล้ริมน้ำหรือคลอง เด็กก็จะมีทักษะในเรื่องของการอยู่กับน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งเขาจะเรียนรู้ไปตามสภาพแวดล้อมตั้งแต่เกิดมา แต่ก็อาจขาดทักษะในเรื่องอื่นๆ แทน ซึ่งทั้งหมดนี้ ผู้เป็นพ่อแม่ จำเป็นต้องเสริมองค์ความรู้ให้แก่ลูกในส่วนที่ขาดหายทดแทนกันไปด้วย

ปัญหาของเด็กไม่ใช่มีแค่เรื่องของการขาดทักษะเพียงอย่างเดียว แค่ยังคงมีด้านอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเด็กติดเกม ปัญหาท้องก่อนวัยเรียนและอื่นๆ เมื่อปัญหาทั้งหมดกำลังรุมเร้าเด็กและเยาวชนในทุกๆ ด้าน การแก้ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่ครอบครัวเพียงอย่างเดียว สังคม ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนเองก็ต้องมีส่วนร่วม และมีขอบเขต ในการดูแลเด็กและเยาวชนด้วย

“อยากให้ทุกฝ่ายมองว่าเด็กและเยาวชนเป็นลูกเป็นหลาน เป็นการดูแลร่วมกันทั้งประเทศ อยากให้คิดว่าลูกคุณดี มาคบลูกเรา ลูกคุณก็ดี ไม่ว่าลูกหลานใคร  อยากให้ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เพราะเด็กในวันนี้ก็คือผู้ ใหญ่ในอนาคต หากเขาเห็นแบบอย่างที่ดี เขาก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตได้”ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวกล่าว

สุดท้ายนี้นางฐานิชชาได้ฝากถึงผู้ปกครองและเด็กในวันเด็กปี 2555 ไว้ว่า ต่อจากนี้ อยากเห็นเด็กๆ มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เป็นคนดี ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งมากมาย แต่ขอให้มีน้ำใจช่วยเหลือกัน เพราะมันเป็นรากฐานปัจจัยภายในจิตใจ  นอกจากนี้อยากให้พ่อแม่ปลูกฝังเรื่องของการรักชาติให้แก่ลูก ไม่คดโกง ตรงไปตรงมา  และสุดท้าย ตัวผู้ใหญ่เองก็ต้องทำเป็นตัวอย่างให้ได้ เพื่อเด็กจะเห็นแบบอย่างที่ดีต่อไป

 

 

ที่มา : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code