สร้างคนให้มี “สุข” สู่ผลผลิตสูงสุดขององค์กร

Happy Workplace หัวใจสำคัญของการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรที่จะขับเคลื่อนงานให้เกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากการพัฒนาคน ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของชิ้นงาน ไม่มีคน งานก็ไม่เกิด


มอบรางวัลแก่องค์กรที่รักษามาตรฐานความเป็นองค์กรสุขภาวะ 8+1 องค์กร


การมอบรางวัลแก่องค์กรที่รักษามาตรฐานความเป็นองค์กรสุขภาวะ 8+1 องค์กร


ขณะที่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไทยจะก้าวร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะมีการไหลของคนเข้าสู่ระบบระหว่างประเทศมากขึ้น แน่นอนว่าการเตรียมคนให้มีความพร้อมรองรับการเปิดประเทศจึงนับเป็นวาระสำคัญที่จะไม่คำนึงเสียไม่ได้


ในงานมหกรรม Happy Work PlaceForum : 5 Apps to Happy workplace 3.0 จัดโดยความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้พัฒนา 5 เครื่องมือสร้างความสุขเพื่อเตรียมคนรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยเครื่องมือดังกล่าว ประกอบด้วย 1.Happy Model หรือต้นแบบจำลององค์กรสุขภาวะ2.Happy  WorkplaceIndex หรือเครื่องมือวัดความสุขระดับองค์กร  3.Happinometer หรือเครื่องมือวัดสุขภาวะระดับบุคคล 4.Happy workplace ROI หรือเครื่องมือวัดผลตอบแทนทางธุรกิจ และ 5.Happy 8 Menu หรือกล่องแห่งความสุข 8 ประการ


ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นปีที่ 2 นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง โดยมีผู้เข้าร่วมงานเกือบ 2 พันคน ซึ่ง สสส.ทำเรื่อง Happy Work Placeมา 4 ปีแล้ว โดยพัฒนาแนวคิดให้องค์กร บริษัท ห้างร้านมองเรื่ององค์กรแห่งความสุข ดูแลคน โดยใช้แนวคิดว่า หากคุณอยากได้ผลงานและผลสำเร็จที่ดีต้องลงทุนเรื่องคน ต้องสร้างคน ต้องทำให้คนมีความสุข ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบว่าหลายองค์กรที่เข้าร่วม Happy Work Place  กับเรา มีผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างชัดเจน เช่น บริษัท ไลออน (ประเทศไทย) จำกัด มีอัตราการเติบโตของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนหนึ่งวัดจากการที่พนักงานลาออกน้อยลง เป็นต้น ขณะเดียวกันในปีนี้ หน่วยงานราชการที่สำคัญ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. กรมส่งเสริมสวัสดิการ กระทรวงแรงงาน ก็เริ่มที่จะเข้ามาร่วมกับเรามากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดี


ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชด์ ผู้จัดการ สสส.สำหรับการพัฒนา 5 เครื่องมือสร้างความสุขสำคัญนั้น ทพ.กฤษดา บอกว่า นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง ที่ในปีนี้ค่อนข้างสมบูรณ์มาก โดยมีการจัดทำคู่มือทั้ง 5 ไว้ให้สำหรับบริษัทที่มีความสนใจสามารถเข้ามาสมัครร่วมเป็น   Happy Work Place และดาวน์โหลดโปรแกรมดังกล่าวนี้ไปใช้บริหารจัดการพัฒนาภายในองค์กร ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือ Happy workplace ROI หรือเครื่องมือวัดผลตอบแทนทางธุรกิจ บริษัทสามารถกรอกข้อมูลของบริษัทเพื่อวัดผลตอบแทนทางธุรกิจจากการลงทุนพัฒนาคนได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อนำไปพัฒนาองค์กรในอนาคต โดยเครื่องมือสำคัญทั้ง 5 นี้สามารถทำได้ในทุกระดับองค์กร ซึ่งขณะนี้มีองค์กรทั้งระดับกลางและใหญ่ที่เข้าร่วมพัฒนาใช้กับเรา


“แต่ละองค์กรจะมีจุดเด่นแตกต่างกัน บางองค์กรทำให้เป็นองค์กรแห่งการทำดี บางองค์กรบอกทำบริษัทให้เหมือนบ้าน เช่น บางบริษัทจะย้ายคนท้องให้ไปทำในแผนกที่ไม่มีความเครียดมาก และเดือนที่ 7-8 ก็จะให้หยุดงานเพื่อไปดูแลตนเองและเตรียมคลอดแล้ว ก็พบว่าได้ใจพนักงานอย่างมาก หรือโรงงานบางแห่งก็เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพพนักงาน ลดปัญหาการดื่มสุรา การออกกำลังกาย เช่น ตัวอย่างเรื่องออกกำลังกายส่งเสริมเรื่องการวิ่ง เกิดแนวคิดว่าจะตั้งเป้าให้พนักงานทุกคนวิ่งได้ถึง 8.5 กิโลเมตร ก็เริ่มมีการแข่งขันและออกมาวิ่งในโรงงาน ทำให้คนป่วยน้อยลงแบบนี้เป็นต้น” 


สำหรับการเปิดเศรษฐกิจประชาคมอาเซียนนับเป็นสิ่งสำคัญที่ไทยจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยในเรื่องนี้ ทพ.กฤษดาอธิบายว่า การเปิดเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน  คือการเปิดตลาดแรงงานฝีมือ อนาคตไทยต้องเจออย่างแน่นอนว่า แรงงานฝีมือจากต่างประเทศจะเข้ามาจำนวนมาก ความแตกต่างทางวัฒนธรรม วิธีคิดก็จะมีเพิ่มขึ้น ดังนั้นอนาคตต้องเตรียมรองรับเรื่องนี้ไว้ โดยเฉพาะบริษัท องค์กรต่างๆ ต้องมีการเตรียมบริหารงานบุคคลให้ดี หรือการดูแลพนักงานของตนเองให้มีความเข้มแข็ง และมีพัฒนาการที่ดีสำหรับการแข่งขันในอนาคต


นอกจากนี้ภายในงานยังมีการมอบรางวัลแก่องค์กรที่รักษามาตรฐานความเป็นองค์กรสุขภาวะ 8+1 องค์กร ตัวอย่างเช่นบริษัทเวสเทิร์นดิจิตอล ประเทศไทย จำกัด ดำเนินงานผลิตสินค้าประเภทจัดเก็บข้อมูล (Data Storage) รายใหญ่ของโลก และเป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนาและผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟรวมทั้งโซลิสสเครทไดร์ฟ (Solid State Drives) สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายในและภายนอกทั้งแบบพกพา รวมทั้งแหล่งเก็บข้อมูลส่วนกลาง (Shared Storage)  อีกหนึ่งองค์กรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจากเมื่อปลายปีที่แล้ว และสามารถพลิกฟื้นกลับสู่ความสำเร็จในระยะเวลาเพียง 46 วัน บอกเล่าถึงการกลับมาขององค์กรอีกครั้งหนึ่ง โดย ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฏ รองประธานบริษัทเวสเทิร์นดิจิตอลฯ  กล่าวว่า บริษัททำเรื่อง Happy Work Placeร่วมกับ สสส.มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว เมื่อบริษัทประสบภาวะอุทกภัย ก็ได้มีการจัดทำแผนฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โดยผลประสบความสำเร็จนี้เกิดจากคนในเวสเทิร์นดิจิตอลที่ได้ทุ่มเท ไม่ยอมแพ้ โดยทุกคนมีเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้การฟื้นฟูประสบความสำเร็จได้อย่างดีเยี่ยม


ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฏ รองประธานบริษัทเวสเทิร์นดิจิตอลฯ


ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฏ รองประธานบริษัทเวสเทิร์นดิจิตอลฯ  


“จากการวิเคราะห์เราพบว่า สิ่งที่สะสมมาในช่วง 2-3 ปีมานี้เพราะคนของเรามีความมุ่งมั่นและทุ่มเท และเราสร้างฐานให้คนข้างล่างมีความสุข และเกิดความรักองค์กรและพยายามทำทุกอย่างเพื่อองค์กร ดังนั้นเมื่อองค์กรมีฐานแห่งความสุขที่ดี ทำให้การสื่อสารหรือการบอกถึงเป้าหมายการพยายามที่จะกำหนดสิ่งต่างๆ ในการฟื้นฟูทำทำได้ง่ายขึ้นและทำด้วยจิตวิญญาณของพนักงานอย่างแท้จริง เราในฐานะผู้บริหารก็วาดวิสัยทัศน์ขององค์กร และพอคนในองค์กรเห็นก็พยายามผลักดันเพียงแค่ 46 วันเราก็กลับสู่ภาวะปกติ”ดร.สัมพันธ์กล่าว


ดร.สัมพันธ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมว่าทุกคนในโลกรู้อยู่แล้วว่าศักยภาพของคนทำให้เกิดสิ่งดีๆ มากมาย ขณะเดียวกันศักยภาพที่ไม่ดีก็ทำให้องค์กรหรือสังคมย่ำแย่ไปไม่น้อย ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะแข็งเรื่องเทคโนโลยีหรือเครื่องไม้เครื่องมือก็สามารถสู้กันได้หมด แต่คนที่จะชนะคือกลุ่มในสังคมที่มีคนที่ดี และคนที่เข้าใจ คนที่มีความรัก และคนที่มีความสุข”


 


 


เรื่องโดย : สุนันทา สุขสุมิตร Team content www.thaihealth.or.th


 

Shares:
QR Code :
QR Code