สรุปสถานการณ์อุทกภัย ประจำวันที่ 28 ต.ค.53

 

         กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่ 1028 ตุลาคม 2553 มีพื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัด 292 อำเภอ 2,103 ตำบล 16,779 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน  1,221,760 ครัวเรือน 3,764,883 คน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว และนครนายก ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 27 จังหวัด 238 อำเภอ 1,757 ตำบล 14,509 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,089,615 ครัวเรือน 3,292,377 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าได้รับความเสียหาย 3,468,204 ไร่  ผู้เสียชีวิต 58 ราย  เส้นทางจราจรไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 17 สาย ใน 7 จังหวัด  ดังนี้

สรุปสถานการณ์อุทกภัย ประจำวันที่ 28 ต.ค.53

 

         ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่

 

         นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ 73 ตำบล  643 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 82,034 ครัวเรือน  185,431 คน  ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตาคลี  ลาดยาว  หนองบัว  ท่าตะโก  ไพศาลี  บรรพตพิสัย โกรกพระ  เก้าเลี้ยว และพยุหคีรี

 

         กำแพงเพชร น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ  84 ตำบล 721 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 57,125 ครัวเรือน 134,594 คน ได้แก่ อำเภอเมืองกำแพงเพชร คลองลาน ขาณุวรลักษบุรี โกสัมพีนคร ปางศิลาทอง ไทรงาม บึงสามัคคี ทรายทองวัฒนา พรานกระต่าย และคลองขลุง

 

         อุทัยธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 21 ตำบล 79 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,800 ครัวเรือน 15,200 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอุทัยธานี ทัพทัน หนองขาหย่าง หนองฉาง และสว่างอารมณ์

 

         พิษณุโลก ระดับน้ำในแม่น้ำ ลำคลองมีระดับสูงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อำเภอกระทุ่ม 7 ตำบล 31 หมู่บ้าน

 

         ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่

 

         นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 32  อำเภอ  277 ตำบล  3,015 หมู่บ้าน  ราษฎรเดือดร้อน 223,402 ครัวเรือน 780,080 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 815,189 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 1,395,933,824 บาท ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา สูงเนิน ขามทะเลสอ  โนนแดง  คง เสิงสาง  หนองบุญมาก จักรราช เทพารักษ์  ด่านขุนทด บ้านเหลื่อม  โนนสูง โชคชัย พิมาย โนนไทย ห้วยแถลง  ปากช่อง สีคิ้ว ปักธงชัย ขามสะแกแสง เฉลิมพระเกียรติ พระทองคำ บัวใหญ่ ครบุรี บัวลาย เมืองยาง สีดา ชุมพวง วังน้ำเขียว ลำทะเมนชัย แก้งสนามนาง และประทาย

 

         ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 16  อำเภอ  113 ตำบล  1,305 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 63,610 ครัวเรือน 185,742 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เนินสง่า จัตุรัส  บ้านเขว้า แก้งคร้อ หนองบัวแดง หนองบัวระเหว คอนสวรรค์ ซับใหญ่ คอนสาร ภักดีชุมพล เทพสถิติ และบ้านแท่น

 

         ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 15 อำเภอ 84 ตำบล 578 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 45,950 ครัวเรือน 204,066 คน ได้แก่ อำเภอภูสิงห์ ขุนหาญ ขุขันธ์ กันทรลักษณ์ เบญจลักษณ์ โนนคูณ ปรางค์กู่ น้ำเกลี้ยง อุทุมพรพิสัย วังหิน ราษีไศล รัตนะ กันทรารมย์ไพรบึง และศิลาลาด

 

         สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 9  อำเภอ 45 ตำบล 252 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 32,342  ครัวเรือน  117,354 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ บัวเชด ศรีขรภูมิ ศรีณรงค์ ชุมพลบุรี กาบเชิง ท่าตูม และรัตนบุรี

 

         บุรีรัมย์  น้ำท่วมในพื้นที่ 19 อำเภอ 125 ตำบล 1,258 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 32,39 ครัวเรือน 152,847 คน ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง สตึก ปะคำ บ้านกรวด ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ ละหานทราย นางรอง หนองหงส์ ชำนิ กระสัง ลำปลายมาศ พลับพลาชัย บ้านใหม่ไชยพจน์ โนนสุวรรณ พุธไธสง หนองกี่ คูเมือง  และแคนดง

 

         ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ 45 ตำบล 469 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 25,216 ครัวเรือน 120,052 คน ได้แก่ อำเภอแวงใหญ่ แวงน้อย ชนบท บ้านแฮด มัญจาคีรี โคกโพธิ์ไชย โนนศิลา  ภูผาม่าน  ชุมแพ และหนองเรือ  

 

         กาฬสินธุ์ น้ำในแม่น้ำชีและลำน้ำป่าวเอ่อล้นท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล 85 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอกมลาไสย ร่องคำ และฆ้องชัย

 

         มหาสารคาม น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 61 ตำบล 799 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 46,343 ครัวเรือน 148,945 คน ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม โกสุมพิสัย กุดรัง เชียงยืน กันทรวิชัย นาเชือก และบรบือ

 

         อุบลราชธานี น้ำในแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ 2 เทศบาล 25 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 843 ครัวเรือน 2,941 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ

 

         หนองบัวลำภู น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสัง และศรีบุญเรือง

 

สรุปสถานการณ์อุทกภัย ประจำวันที่ 28 ต.ค.53

         ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่

 

         ชัยนาท น้ำท่วมพื้นที่ 7  อำเภอ 40 ตำบล  342 หมู่บ้าน  ราษฎรเดือดร้อน  16,940  ครัวเรือน  44,987 คน  ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท เนินขาม  หันคา วัดสิงห์ หนองมะโมง มโนรมย์ และ

สรรพยา

 

         สิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ 9 ตำบล 55 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,888 ครัวเรือน 23,664 คน

 

         อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 56 ตำบล 300

หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,344 ครัวเรือน 25,346 คน  ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง ป่าโมก ไชโย วิเศษชัยชาญ โพธิ์ทอง สามโก้ และแสวงหา

 

         สุพรรณบุรี น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 61 ตำบล 304 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 44,300 ครัวเรือน 121,436 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี บางปลาม้า สองพี่น้อง สามชุก หนองหญ้าไซ  และเดิมบางนางบวช

 

         พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 16 อำเภอ  183  ตำบล  1,275 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน  101,363  ครัวเรือน  328,625 คน ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา บางไทร  มหาราช  ผักไห่  บางบาล เสนา บางปะอิน ภาชี อุทัย วังน้อย ท่าเรือ บางปะหัน นครหลวง บ้านแพรก บัวหลวง และบางซ้าย

 

         ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ  122  ตำบล 1,060 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 145,095 ครัวเรือน 333,061 คน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองม่วง สระโบสถ์ ลำสนธิ พัฒนานิคม ท่าหลวง โคกสำโรง โคกเจริญ และชัยบาดาล ยังคงมีสถานการณ์วิกฤตใน 3 อำเภอที่ติดคลองชัยนาท-ป่าสัก ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี บ้านหมี่ และท่าวุ้ง

 

         สระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ  108 ตำบล 834 หมู่บ้าน  ราษฎรเดือดร้อน 58,640 ครัวเรือน 165,830 คน  พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 93,218 ไร่  ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี บ้านหมอ  พระพุทธบาท มวกเหล็ก  แก่งคอย  วังม่วง  เสาไห้ เฉลิมพระเกียรติ ดอนพุด หนองแซง หนองแค วิหารแดง และหนองโดน

 

         นนทบุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 54 ตำบล 128 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 15,027 ครัวเรือน 71,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด บางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง และไทรน้อย

 

         ปทุมธานี  น้ำเจ้าพระยาเอ่อล่นเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 50 ตำบล 144 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,197 ครัวเรือน 26,394 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี สามโคก ลาดหลุมแก้ว ธัญบุรี ลำลูกกา คลองหลวง และหนองเสือ  

 

         นครปฐม แม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 42 ตำบล 256 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 8,267 ครัวเรือน 27,349 คนได้แก่ อำเภอเมืองนครปฐม บางเลน สามพราน  นครชัยศรี กำแพงแสน และพุทธมณฑล

 

         ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่

 

         ฉะเชิงเทรา น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 22 ตำบล 95 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,738 ครัวเรือน 4,299 คน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา บางน้ำเปรี้ยว และบางเคล้า ส่วนพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มการเกษตร 4  ได้แก่ อำเภอบ้านโพธิ์ แปลงยาว คลองเขื่อน และท่าตะเกียบ

 

         ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ  46 ตำบล 290 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,008 ครัวเรือน 31,094 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี นาดี กบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ ประจันตคาม และบ้านสร้าง

 

         สมุทรปราการ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 14 ตำบล 107 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 14,750 ครัวเรือน 41,100 คน ได้แก่ อำเภอบางเสาธง บางพลี และบางบ่อ

 

         สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบน 1,310 ลำ ถุงยังชีพ 234,149 ชุด เต๊นท์ที่พักอาศัย 1,600 หลัง รถผลิตน้ำดื่ม 17 คัน น้ำดื่ม 127,888 ขวด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 320 เครื่อง รถกู้ภัยทุกชนิด 565 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 7 คัน กระสอบทราย 3,047,748 ใบ ยารักษาโรค 17,897 ชุด เครื่องนุ่งห่ม 700 ชุด รถสุขา/สุขาเคลื่อนที่ 7,031 หลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ 1,624 คน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

 

         สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

 

 

 

 

 

 

ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

 

 

 

 

Update : 28-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

Shares:
QR Code :
QR Code