สนุกคลุกสวน เล่นให้ลูกรักโลก

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต 


สนุกคลุกสวน เล่นให้ลูกรักโลก thaihealth


ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ อากาศเย็นสบาย เด็กๆ ตัวเล็กๆ สนุกกับการเล่นกองทราย มุดอุโมงค์กว้าง กลิ้งลงมาจากเนินสูง บ้างถือถัง กะละมังวิ่งมาขนทราย บ้างซุ่มอยู่ในกระโจมใต้ต้นไม้ ลงทุ่งสำรวจแมลงและนับนก หยิบผักและดอกไม้นานาชนิดมาประกอบอาหาร ขณะที่พี่ตัวโตนำงานฝีมือจากเศษผ้าที่สร้างสรรค์เป็นตุ๊กตาสีสวยน่ารักมาวางขาย


บรรยากาศสบายๆ ในกิจกรรม "สนุกคลุกสวน" จัดโดย เขียว สวย หอม ชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา กลุ่มหมอต้นไม้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กองทุนสิ่งแวดล้อม ที่ศูนย์ฝึกไอคิโดเรนชินกัน จ.เชียงใหม่


ในงานมีกิจกรรม "เหลือขอ เหลือขาย" งานฝีมือของคนตัวเล็กที่นำมาจำหน่าย สมทบทุนสร้างลานเด็กเล่นหลังวัดจอมทอง จ.เชียงใหม่ อิ่มอร่อยกับเมนูแกงเลียง และไข่เจียวดอกไม้ การสาธิตและแบ่งปันสูตรน้ำฟักทองและน้ำเต้าหู้ออร์แกนิก จากฮักเวียงช็อป ร่วมด้วยงานเสวนาเรื่อง "เล่นให้ลูกรักโลก"


นางบุณฑริก สุขาบูรณ์ หรือ ครูดิ๊ก จากศูนย์การเรียนฟ้ากว้าง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในเด็กเล็กการเล่นคือการได้สัมผัส รู้จักตัวเอง เป็นวิธีการเดียวที่เขาใช้เรียนรู้โลก เราต้องรู้จักธรรมชาติของเด็กและยอมรับว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพ เรามีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนในสิ่งที่เขาเป็น โรงเรียนของเราเด็กวัยต่ำกว่า 7 ขวบ ไม่มีการสอนอ่านเขียน สิ่งที่เขาได้เรียนรู้คืออยู่กับผู้ใหญ่ผู้ดูแลและได้เล่นตามธรรมชาติที่อิสระ โดยเราไม่ไปแทรกแซงการเล่น พออายุ 7-14 ปี ร่างกายเขาสมบูรณ์พร้อมเรียนรู้อย่างจริงจัง จึงเริ่มการคิดเลข การเขียน ระเบียบวินัย การทำงานเหมือนกับเด็กโต แต่การเล่นอย่างมีความสุขยังมีความสำคัญ แต่เน้นจินตนาการ การอยู่ร่วมกับสังคม เพิ่มวินัยและอยู่ในกติกา


"เราให้เขาเล่นกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เพราะนั่นคือโลกที่แท้จริง เขาจะได้รู้จักน้ำ ต้นไม้ ใบหญ้า ก้อนหิน ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าปล่อยให้เขาไปตามธรรมชาติ ได้สัมผัสแตะต้องสิ่งที่เป็นความจริง เช่น ก้อนหิน ก้อนเล็กเบา ก้อนใหญ่หนัก เขาได้ลองสัมผัส เป็นการเตรียมความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ สนามเด็กเล่นนี้ตรงกับสิ่งที่เราอยากทำ มีทั้งการปีนป่าย มุดลอด เดินทรงตัว ให้เขารู้จักร่างกายของเขา เขาต้องล้มเพื่อจะได้เรียนรู้เรื่องความสมดุล รู้ว่าจะทำอย่างไรไม่ล้ม


เด็กอนุบาลไม้ท่อนหนึ่งเป็นได้ทั้งโทรศัพท์ เตารีด เป็นรถหรือเป็นอะไรก็ได้ แทบไม่มีของเล่นสำเร็จรูป เป็นจินตนาการของคนทำของเล่น ทุกอย่างเขาต้องใส่ลงไปเอง บางครั้งผู้ใหญ่ไปบล็อกจินตนาการของเด็ก สมัยก่อนเราเล่นตามดิน ทราย แต่โลกทุกวันนี้ขโมยสิ่งเหล่านั้นไป"


นายบรรจง สมบูรณ์ชัย คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อธิบายว่า เราทำสวนเพื่อศาสตร์เด็ก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหากมีผู้ใหญ่เข้าไปในสวนมักชี้นำ ตัดสินใจแทนเด็ก บางครั้งกำหนดการเล่นและมีของสำเร็จรูปมากเกินไป เราน่าจะขยับขยายแนวคิดเครื่องเล่นที่ทำเองได้ ซ่อมได้ เปลี่ยนมุมได้ หรือนำวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาดัดแปลง


"ต้องเปลี่ยนทัศนคติมุมมองว่า การเล่นคือเรียนรู้ ฝึกฝนความเข้าใจสิ่งรอบข้างมาเป็นครู ดิน หิน ทราย ไม้ หาได้ง่ายและเป็นสิ่งที่มีรอบตัว เรามีระบบนิเวศที่ดี มีสิ่งมีชีวิต เรายังมีต้นไม้ที่มีผล มีดอก ให้เรียนรู้สัมผัส จึงอยากขอพื้นที่เล็กๆ ให้ชุมชนได้มีพื้นที่สีเขียวให้คนเชียงใหม่ และเป็นพื้นที่ให้เด็กได้เรียนรู้" นายบรรจงกล่าว


สนุกคลุกสวน เล่นให้ลูกรักโลก thaihealthปิดท้ายที่ ดร.สมบัติ ตาปัญญา นักจิตวิทยาเด็ก ให้มุมมองว่า เด็กจะสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจขึ้นอยู่กับความรักความอบอุ่น การเอาใจใส่ดูแล อบรมสั่งสอนหรือให้แนวทางของพ่อแม่ สิ่งที่พวกเราห่วงและทำเรื่อง "วินัยเชิงบวก" สู่โรงเรียนและครอบครัว เพราะพ่อแม่และครูหลายคนคิดว่าลูกต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟัง ทำตามคำสั่ง พ่อแม่จึงใช้ทั้งการควบคุมบังคับและการลงโทษ สิ่งที่สำคัญมากสำหรับเด็กเล็กๆ คือความรู้สึกปลอดภัย ถ้าเขารู้สึกปลอดภัยเขาจะกล้าออกไปสำรวจโลก


ถ้าเด็กได้อยู่กับธรรมชาติจะได้รับการ กระตุ้นประสาทสัมผัสต่างๆ ถ้าอยู่แต่หน้าจอจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ชีวิตมันแห้งแล้ง หากความรักคือความผูกพัน ถ้าเราแคร์ธรรมชาติ สังคม ชุมชน แล้วรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ซึ่งต้องได้รับการ ปลูกฝังตั้งแต่เล็กจากพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเอาใจใส่ เมื่อโตขึ้นความรู้สึกเหล่านี้จะขยายสู่ชุมชนและสังคม ถ้าเราอยากให้ลูกรักโลกเราต้องให้ความผูกพันที่มั่นคงแก่เขา เมื่อโตขึ้นเขาจะรักคนเป็น เขาจะห่วงใยสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าเราละเลยทอดทิ้ง เขาก็จะไม่แคร์ใคร เมื่อมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นเขาจะเฉยๆ ไม่สนใจ


"ดังนั้นอยากให้ลูกแคร์เรา เราต้องแคร์ลูกตั้งแต่เล็กๆ มีความผูกพันที่มั่นคง เมื่อโตขึ้นเขาจะเข้าใจคนอื่นและแคร์สิ่งแวดล้อม ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ต้องทุ่มเทและลงทุนให้ลูก


ความรักความผูกพันเป็นรากฐานของการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่ดีในสังคม พ่อแม่เป็นตัวอย่างของลูก พ่อแม่ทำอย่างไรลูกก็ทำแบบนั้น และเราต้องเป็นผู้ใหญ่ใจดี ไม่จำกัดเฉพาะลูกของเรา ต้องรักลูกคนอื่นด้วย" ดร.สมบัติกล่าวทิ้งท้าย

Shares:
QR Code :
QR Code