สนช.โหวตปล่อยให้ควบคุมโฆษณา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อ่อนกว่าเดิม???”

ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจ

 

สนช.โหวตปล่อยให้ควบคุมโฆษณา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อ่อนกว่าเดิม???”            บทวิเคราะห์ผลที่ตามมาจากการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติโหวต วันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 เห็นชอบกับข้อเสนอของสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เสนอให้ห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม แต่ให้โฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่เป็นการปรากฏของภาพ สัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น

 

            มี 3 ประเด็นที่ต้องพิจารณา

 

            1. การโฆษณาแบบภาพลักษณ์คือไม่อวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ดื่ม เป็นสิ่งที่กระทำอยู่แล้วในปัจจุบันแต่กระทำได้ในช่วงหลังสี่ทุ่มถึงตีห้าเท่านั้น และสามารถสร้างความจงรักภักดีต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างได้ผล

 

            จากผลการวิจัยการศึกษาโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับความรู้สึกอยากทดลองดื่มและการจดจำตราสินค้าในเยาวชนปี 2550 โดย ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ พบว่า เด็กชั้นประถม และมัธยมต้น มัธยมปลาย และนักศึกษาที่ดูโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางโทรทัศน์ (ดังภาพตัวอย่างข้างต้น) เกิดความภักดีต่อตราสินค้าและได้รับอิทธิพลโดยไม่รู้ตัว เยาวชนทุกกลุ่มตีความในแง่บวกต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 10 ประการ คือ ช่วยคนรักษ์ธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีไทย ทำให้คนไทยมีน้ำใจต่อกัน สนับสนุนกีฬา สอนให้กล้าคิด ถ้าดื่มจะมีเพื่อน บริจาคช่วยภัยหนาว

 

            เยาวชนกลุ่มประถมยังไม่ดื่มแต่จะแนะนำให้พ่อแม่ดื่มตราที่ตนเองชอบ เช่น ช้างแจกผ้าห่มเป็นต้น ในแง่ของทัศนคติ พบว่าเยาวชนยิ่งอายุมากขึ้นจะมีทัศนคติในเชิงบวกต่อการดื่มมากขึ้น และสัมพันธ์กับการจำโฆษณาและตราสินค้าได้ สอดคล้องกับงานวิจัยในต่างประเทศ อ้างโดย นพ.สุริยดา ทรีปาตี กุมารแพทย์ โดยกล่าวว่าการโฆษณาทางบวก สามารถเปลี่ยนความสงสัยในสิ่งที่ไม่ดีลงได้ เปลี่ยนจากการรับรู้เป็นความเชื่อ เปลี่ยนจากความเชื่อเป็นความชื่นชอบ มีงานวิจัยเกี่ยวกับการโฆษณาเหล้า พบว่า สามารถเปลี่ยนจากความเชื่อว่าดื่มสุรา ผิดศีล 5 กลายเป็นความเชื่อว่าการดื่มสุราทำให้เป็นสุภาพบุรุษ

 

            2. การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางอ้อม ในลักษณะภาพโลโก้ สัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ บริษัทได้ผลมาก เนื่องจากผู้รับโฆษณารับรู้ได้ว่าเป็นโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

            3. ตามข้อเสนอของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล มีทั้งส่วนที่ควบคุมการโฆษณาเข้มกว่าปัจจุบัน คือ ทำให้ลดการโฆษณาภาพผลิตภัณฑ์ระหว่างเวลา 22-05 น. แต่ก็มีส่วนที่ควบคุมการโฆษณาอ่อนกว่าปัจจุบัน คือ การเพิ่มให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบภาพลักษณ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ข้อเสนอของกรรมาธิการที่ผนวกเข้ากับข้อเสนอของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล จะเข้มยิ่งขึ้น โดยจะทำให้ไม่สามารถโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรูปแบบระหว่างเวลา 05-24 น. และการโฆษณาช่วงเวลา 24-05 น. ไม่สามารถกระทำให้เห็นภาพผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ดังตารางข้างล่างนี้

 

            หากจะทำเพื่อสังคมและเยาวชนไทยอย่างแท้จริงแล้วขอวอนให้ สนช. โปรดพิจารณาข้อเสนอของกรรมาธิการบวกกับ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล จะทำให้การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบภาพลักษณ์กระทำได้เฉพาะหลังเที่ยงคืนจนถึงตีห้า เวลาอื่นๆ โฆษณาไม่ได้เลย ซึ่งจะทำให้การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มอมเมาเยาวชนของเราน้อยลงมาก

 

            สสส. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ www.thaihealth.or.th สอบถาม 0-22980500 ต่อ 1222

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

Update 25-07-51

Shares:
QR Code :
QR Code