สนง.ควบคุมโรคเชียงใหม่เตือนระวังช่วงเปิดเทอมโรค’มือ เท้า ปาก’ระบาด
นายแพทย์วิทยา หลิวเสรี ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ กล่าวว่า โรคที่มักเกิดในช่วงเปิดเรียนโดยเฉพาะ ในสถานรับเลี้ยงเด็ก คือ โรคมือ เท้า ปาก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด ในกลุ่มเอนเตอโร เช่น ไวรัสคอกซากี เอ ไวรัสคอกซากี บี ไวรัสเอคโฆ่ และไวรัสเอนเตอโร 71 โดยเฉพาะไวรัสเอนเตอโร 71 เป็นไวรัส ที่มักตรวจพบมากในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น น้ำท่วมปอดเฉียบพลัน ภาวะสมอง อักเสบ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เป็นสาเหตุ ของการเสียชีวิตได้
โดยส่วนใหญ่มักพบในกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ในสถานที่มีความแออัด เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การติดต่อของโรคนั้น เกิดจากเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายทางปาก ผ่านเยื่อบุ คอหอยและเพิ่มจำนวนที่ต่อมน้ำเหลืองในลำไส้ หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระแสเลือดไปตามอวัยวะต่างๆ และจะถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ โดยอาจตรวจพบเชื้อในอุจจาระของผู้ติดเชื้อนาน 6-8 สัปดาห์ หลังจากรับเชื้อจะมีระยะฟักตัวนานประมาณ 3-5 วัน ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย โดยมีอาการไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีอาการเจ็บปาก กลืนน้ำลายไม่ได้ มีตุ่มแดง อักเสบในบริเวณปาก ต่อมาจะมีตุ่มที่มือ เท้า หรือก้น อาการจะทุเลาและหายได้เองภายใน 7-10 วัน
แต่หากมีไข้สูง ซึม ไม่ยอมรับประทานอาหารและดื่มน้ำ อาเจียนบ่อย หอบ แขนขา อ่อนแรง อาจเกิดภาวะสมอง หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
นายแพทย์วิทยากล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ปกครองควรแนะนำให้บุตรหลานและ ผู้เลี้ยงดูเด็กให้รักษาความสะอาด หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายและก่อนรับประทานอาหาร รวมทั้ง หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน หมั่นดูแลรักษาสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ หากพบเด็กป่วย ให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดเรียนเพื่อรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ ระหว่างนี้ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า