สธ. เผยอาหารทะเลระยองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
กระทรวงสาธารณสุข แจงผลตรวจสอบหาสารปนเปื้อนจากตัวอย่างอาหารทะเล 8 ชนิด ย่านตลาดเพและตลาดตำบลแกลง จ.ระยอง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เตรียมตรวจสอบซ้ำ 15 ส.ค.นี้ เผยผลตรวจสอบสารอนุพันธ์ของเบนซีนในปัสสาวะของผู้ปฏิบัติภารกิจขจัดคราบน้ำมันอ่าวพร้าวเกินค่ามาตรฐาน 1 ราย
นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อน ได้แก่ สารโพลีไซคลิคอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน หรือสารพีเอเอช (pah: polycyclic aromatic hydrocarbon) และ โลหะปนเปื้อน 4 รายการ ได้แก่ ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู จากตัวอย่างอาหารทะเลย่านตลาดเพ และตลาดตำบลแกลง จ.ระยอง ว่า ผลการตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนในตัวอย่างอาหารทะเล ประเภทหอยแมลงภู่สด ปลาสด จำนวน 8 ตัวอย่าง จากตลาดเพ และตลาดตำบลแกลง จ.ระยอง ทุกรายการอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน บางตัวอย่างพบว่ามีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักบ้าง แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งถึงเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสารเหล่านี้สามารถพบได้ในธรรมชาติ และปนเปื้อนในอาหารได้อยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วลงทะเลก็ตาม โดยกระทรวงสาธารณะสุขจะส่งเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างอาหารทะเลประเภทเดิมจากตลาดเพ และตลาดตำบลแกลง จ.ระยอง เพื่อนำมาตรวจสอบสารปนเปื้อนอีกครั้งในวันที่ 15 ส.ค.นี้
นอกจากนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารบนเกาะเสม็ดประมาณ 70 ร้าน และร้านอาหารบริเวณหาดแม่รำพึง และตลาดเพ ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง พบว่าอาหารและสถานที่ได้มาตรฐาน เป็นตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนผลการตรวจวิเคราะห์หาสารอนุพันธ์ของเบนซีนในปัสสาวะ ที่มีชื่อว่า ที,ที มิวโคนิค แอซิด (t,t muconic acid in urine) ของผู้ปฏิบัติงานขจัดคราบน้ำมันบริเวณอ่าวพร้าวทุกคน และประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวตามระบบเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 30 ก.ค.56 จนถึงขณะนี้ รวม 1,594 คน ทราบผลการตรวจสอบแล้ว 603 คน โดยพบว่ามี 1 คน ที่มีค่าสารปนเปื้อนในปัสสาวะ 723 ไมโครกรัมต่อกรัม ซึ่งสูงกว่าค่าเฝ้าระวัง 500 ไมโครกรัมต่อกรัม โดยเป็นพนักงานเก็บทำลายคราบน้ำมันที่ชายหาดอ่าวพร้าว ซึ่งวันนี้ (7 ส.ค.) คณะแพทย์ได้ติดตามตัวมารับการตรวจสุขภาพ และเจาะเลือดดูการทำงานของไขกระดูก ตับ และไต เพื่อให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการวางแผนติดตามผลกระทบทางสุขภาพ จากการประเมินผู้รับบริการที่หน่วยปฐมพยาบาลด้านการแพทย์ ซึ่งให้บริการร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและ ปตท. จำนวน 617 ราย พบผู้ที่มีอาการเกี่ยวข้องกับการสูดไอระเหยของเบนซีนในน้ำมันดิบ ได้แก่ เป็นลม ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เจ็บคอ ผื่นคัน 228 ราย ไม่มีรายใดรุนแรง และยังคงตั้งหน่วยปฐมพยาบาลที่บริเวณอ่าวพร้าวทุกวัน
ขณะเดียวกัน ยังได้จัดระบบการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งประชาชนและผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เป็นคณะทำงานระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์ จากกรมควบคุมโรค ,รพ.นพรัตนราชธานี ,กรมแพทย์ทหารเรือ ,แพทย์ประจำปตท. ,รพ.มาบตาพุด ,รพ.ระยอง ,และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง โดยจะมีการติดตามผู้สัมผัสสารเบนซีนตามมาตรฐานติดต่อกัน 5 ปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ