สธ.ส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ฯ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสถานประกอบการ เนื่องในงานเฉลิมฉลองนมแม่โลก 2559 พร้อมเป็นประธานลงนามระหว่างกรมอนามัย สธ. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สภาการพยาบาล องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีสวัสดิการมุมนมแม่ และมีนโยบายที่อนุญาตให้พนักงานหญิงมีเวลาพักเพื่อบีบเก็บน้ำนมได้
นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า การดำเนินงานเรื่องนมแม่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพราะนมแม่มีทั้งคุณค่าอาหาร มีวิตามิน มีภูมิคุ้มกันต่างๆ จำนวนมาก ที่สำคัญยังมอบความอบอุ่นให้กับเด็กที่จะติดตัวไปจนโตอีกด้วย นอกจากนี้ ในการดูแลสุขภาพทุกกลุ่มวัยนั้น วัย 0-5 ขวบถือว่ามีความสำคัญที่สุดที่จะพัฒนาขึ้นมาให้เป็นคนไทยที่มีความแข็งแกร่งทั้งสุขภาพกายและใจ มีความรู้ เป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีแผนการพัฒนาในทุกด้านใน 20 ปี ซึ่งจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
"ปัญหาคือโอกาสการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในปัจจุบันค่อนข้างยาก เพราะแม่ต้องทำงานนอกบ้าน ขณะที่ที่ทำงานก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการบีบเก็บน้ำนม ทำให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือนของไทยค่อนข้างต่ำมากคือ 12.3% แต่จากการรณรงค์ของกรมอนามัย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และมูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ ช่วยให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20% ก็ถือว่าดีขึ้น แต่จะต้องดีขึ้นกว่านี้ ซึ่งเป้าหมายคือจะต้องถึง 30% ให้ได้ โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกัน ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญในการดำเนินงาน โดยเฉพาะภาคประชาสังคมที่จะช่วยให้การทำงานเรื่องนมแม่ประสบความสำเร็จ" นพ.ปิยะสกลกล่าว