สธ.-ศธ.จับมือ 1 โรงเรียน 1 โรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงาน “ลดโรค เพิ่มสุข วัยรุ่นไทย” ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็น มิติใหม่ของการระดมพลังทางสังคม เพื่อร่วมกันดูแลวัยรุ่นไทยในระบบการศึกษา เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้วัยรุ่นมีความเสี่ยงเผชิญปัญหามากขึ้น ทั้งเรื่องเพศสัมพันธ์ ยาเสพติด

สธ.-ศธ.จับมือ 1 โรงเรียน 1 โรงพยาบาล

ทั้งนี้ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรี ว่าการสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้วัยรุ่นเป็นหนุ่มสาวเร็วขึ้น เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุน้อยลงเฉลี่ย 15 ปี แต่ใช้ถุงยางอนามัยน้อยเพียงร้อยละ 50 ในขณะที่ 1 ใน 3 ไม่ได้ป้องกันด้วยวิธีใดเลย 1 ใน 3 ถูกล่อลวงหรือถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ และ 1 ใน 3 ใช้วิธีการคุมกำเนิดไม่ถูกต้อง จึงเป็นสาเหตุของการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นหญิง ในปี 2554 พบวัยรุ่นหญิง อายุ 10-19 ปี คลอดบุตรมากถึง 131,400 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 15 คน คิดเป็นร้อยละ 17 ของจำนวนหญิงที่คลอดบุตรทั้งหมดในประเทศไทย สูงกว่าค่าเฉลี่ยการคลอดบุตรในวัยรุ่นระดับโลกที่มีร้อยละ 11 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในทวีปเอเชีย ที่พบเฉลี่ยร้อยละ 14 นำไปสู่ปัญหาความไม่พร้อมในการเลี้ยงดูลูก ปัญหาทางเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่มีงานทำ การตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ทำให้วัยรุ่นตัดสินใจยุติตั้งครรภ์ ส่วนมากใช้วิธีการที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดอันตรายและเสี่ยงต่อชีวิต และยังพบวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากที่สุด ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด ปัญหาเหล่านี้สะท้อนถึงการขาดการตระหนัก ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษา และ วิธีการป้องกันที่ถูกต้อง

“ดังนั้น โครงการศึกษาสาธารณสุขร่วมใจเทิดไท้องค์ราชัน ลดโรค เพิ่มสุขวัยรุ่นไทย จะดูแลวัยรุ่นครอบคลุมทั้งมิติทางกาย จิต สังคม และปัญญา โดยใช้กลยุทธ์ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันปัญหา จัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน สอนทักษะชีวิตและเพศศึกษาแก่วัยรุ่น ให้สามารถประเมินความเสี่ยง สามารถสื่อสารและเจรจาต่อรองกับคู่ได้ รวมทั้งสอนให้รู้เท่าทันภัยสื่อสังคม หรือโซเชียลมีเดีย (social media) ที่กำลังแพร่กระจายรวดเร็วผ่านทางมือถือ อินเทอร์เน็ตต่างๆ และหากมีปัญหาเกิดขึ้น สามารถเข้าถึงบริการที่เป็นมิตร ได้รับการปรึกษาในการแก้ปัญหาได้ โดยมีการเชื่อมประสานการส่งต่อจากโรงเรียนกับโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว” นายวิทยากล่าว

จากความร่วมมือนี้ สธ.จะบูรณาการทีนเซ็นเตอร์ (teen center) เป็นคลินิกสำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะ บริการอย่างเป็นมิตร ทั้งให้คำปรึกษาวัยรุ่นโดยตรง การตรวจรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การให้บริการเชิงรุก โดยจัดโปรแกรมเสริมทักษะชีวิตวัยรุ่น และสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว โดยมีเป้าหมายในปี 2559 ครอบคลุมโรงพยาบาลชุมชน 1,000 แห่ง หรือ “1 โรงพยาบาล 1 คลินิกวัยรุ่น (teen center)” ซึ่งจะทำให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการ และจะลดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หรือลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นได้ ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทางด้าน ศ.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในส่วนของ ศธ.จะมีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือนักเรียน 226 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในเด็กนักเรียน ดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเข้มแข็งในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีการเชื่อมเครือข่ายทั้งในและนอกสถานศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนากิจกรรมเพื่อนที่ปรึกษา (youth counselor) ให้เพื่อนนักเรียนที่ผ่านการฝึก อบรมแล้วสามารถให้คำปรึกษา ช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนที่ประสบปัญหาเบื้องต้นได้ โดยทดลองจัดให้มีนักจิตวิทยาประจำโรงเรียน นำร่อง 24 แห่ง ใน 6 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ร้อยเอ็ด สระแก้ว นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร สามารถตรวจคัดกรองปัญหาสุขภาพจิต และให้การดูแลบำบัดรักษา เบื้องต้นภายในโรงเรียนได้

สำหรับการขับเคลื่อนโครงการศึกษาสาธารณสุขฯ จะรณรงค์ระดับชาติ “ปฐมบททางเพศศึกษา 1 โรงเรียน 1 โรงพยาบาล” เป็นการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา รวมทั้งการจัดนิทรรศการ ในโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ โดยความร่วมมือวิทยากรจากโรงพยาบาลชุมชน ดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้

สำหรับกรุงเทพฯ มีการรณรงค์ในโรงเรียนมัธยมศึกษา และอาชีวศึกษาเขตพื้นที่กรุงเทพฯ 12 แห่ง ภายใต้ชื่อ “วัยรุ่นฉลาดรัก รู้จักป้องกัน” (smart teen: lovesay+play) ซึ่งมีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ