สธ.วิจัยหาโมเดลเพิ่มไอคิวต้นแบบพัฒนาการเด็ก
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
แฟ้มภาพ
10 ปีไอคิวเด็กไทย ไม่กระเตื้อง รมว.สาธารณสุข สั่งด่วนกรมสุขภาพจิตบูรณาการกรมอนามัย เลือกจังหวัดเด็ก "ไอคิวต่ำ อ้วน เตี้ย" มากสุด ลงพื้นที่วิจัยหาโมเดลเพิ่มไอคิวเป็นต้นแบบ ก่อนขยายผลใช้ทั่วประเทศ กรมสุขภาพจิตรุกแผน "CPR" มุ่งเด็กไทย 4.0 คิดสร้างสรรค์ คิดบวก คิดช่วยสังคม
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมกรมสุขภาพจิตว่า เมื่อ 10 ปีก่อนทราบว่าไอคิวเด็กไทยอยู่ที่ 90 กว่า จนถึงปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ 90 กว่า ซึ่งเรื่องการพัฒนาเด็กทำมานานร่วม 10 ปี ไอคิวเด็กไทยก็ยังไม่กระเตื้องเท่าไร เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้มากขึ้น โดยกรมสุขภาพจิตต้อง บูรณาการกับกรมอนามัยในการลงพื้นที่วิจัยทดลองเพื่อหาโมเดลในการเพิ่มไอคิวเด็ก ซึ่งอาจจะเลือกจังหวัดที่มีเด็กไอคิวต่ำ อ้วน เตี้ยมากที่สุดเป็นพื้นที่ทดลองทำเพื่อหาโมเดล หากสำเร็จจะได้นำมาขยายผลใช้ทั่วประเทศทันที เชื่อว่าภายใน 2-3 ปีหากได้โมเดลแล้วจะเป็นการพลิกโฉมเรื่องการพัฒนาการเด็กของประเทศ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า อารมณ์ของกรมสุขภาพจิตที่จะดำเนินงานได้คือการพัฒนาคน รุ่นใหม่หมายถึงเด็กและเยาวชนให้เป็น คนไทย 4.0 เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของประเทศไทย 4.0 ซึ่งจะมีลักษณะของคนที่มีสติปัญญาดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดแง่บวกและคิดทำประโยชน์ช่วยเหลือ ผู้อื่นและสังคม หรือแผน CPR (Creation, Positive, Response to Society) คือคิดดี คิดให้ คิดเป็น เป็นสุข ซึ่งเชื่อว่าจะลดปัญหาที่เด็กไทยหัวร้อน ไม่ค่อยควบคุมตนเองลงได้
"ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องไอคิวและพัฒนาการเด็กไม่กระเตื้องขึ้นเท่าที่ควร เนื่องจากมีปัจจัยอุปสรรคที่ไม่ได้จัดการ คือเรื่องเด็กติดเกม ซึ่งจะดึงเวลาของเด็กที่จะใช้ในเรื่องอื่นๆ ที่ส่งเสริมพัฒนาการไปเป็นอย่างมาก จากนี้กรมจะร่วมมือกับกรมอนามัยอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อน เรื่องนี้ในกลุ่มเด็กตั้งแต่ก่อนวัยเรียนตั้งแต่ 0-6 ปี เพราะหากไม่ดำเนินการเรื่อง พัฒนาการของเด็ก ก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
นพ.พงษ์เกษม ไข่มุกด์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สถานการณ์เด็กปฐมวัยแรกเกิด-5 ปีในปี 2561 พบว่าพัฒนาการล่าช้า 13,201 คน มาตรการในปี 2562 จะเพิ่มจำนวนพยาบาลจิตเวชเด็กและวัยรุ่นครบทุก โรงพยาบาลชุมชน สร้างเครือข่ายกระตุ้นพัฒนาการระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและใช้มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ ส่วนสถานการณ์ในวัยรุ่นและวัยเรียน พบว่าไอคิวอยู่ที่ 94.73 ส่วนอีคิวปกติอยู่ที่ 70.3% อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี 39.6 ต่อ 1,000 ประชากร มาตรการที่จะดำเนินการในปี 2562 ได้แก่ยกระดับคุณภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เสริมพลังปกครองและพัฒนาทักษะชีวิตเด็กวัยเรียนวัยรุ่น