สงกรานต์ตามประเพณีไทย มีแต่ความสุข
ก่อนที่เทศกาลสงกรานต์ของไทยจะเริ่มต้นขึ้น สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับภาคีงดเหล้าทั่วประเทศ จัดงานแถลงข่าว “สงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า” 77 จังหวัดทั่วไทย 30 ถนนตระกูลข้าว เพื่อสร้างค่านิยมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นน้ำ ที่สนุกและปลอดภัย พร้อมลดปัจจัยเสี่ยงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
จุดประสงค์หลักของการจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาก็เพื่อ ทำให้ วันสงกรานต์ เป็น วันแห่งความสุขของทุกครอบครัวในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นวันเศร้าโสกเสียใจไปกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันสงกรานต์เนื่องจาก ขาดสติด้วย ฤทธิ์ของน้ำเมา
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้าครั้งนี้ จะสำเร็จไม่ได้หากไม่มีการร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคองค์กรส่วนท้องถิ่น ที่จะเป็นตัวหลักสำคัญที่จะกระจาย และดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย และถนนเล่นน้ำตระกูลข้าว 30 แห่ง ที่ร่วมเป็นด่านหน้าของการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้าง “รูปธรรม” ให้กับพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยด้วยมาตรการ “งดการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีสถิติการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึงอันดับที่ 5 ของโลก โดยเฉพาะเทศกาลต่างๆ ทั้งปีใหม่ และสงกรานต์ทำให้เกิดปัญหามากมายทั้งอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ จนกลายเป็นเทศกาลนับศพ ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ที่เกิดจากการขาดสติเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการรณรงค์เรื่องของสงกรานต์ปลอดเหล้าและ 7 วันอันตรายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจำนวนผู้เสียชีวิตจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งจากการเมาแล้วขับ หรือทะเลาะวิวาท แม้จะมีจำนวนลดลงมาก แต่ก็ยังต้องเพิ่มมาตรการที่รัดกุมไว้อยู่ดี โดยในปีนี้ จะมีการนำ 7 มาตรการสำคัญมาใช้ คือ ประกาศ ห้าม ขอ แลก ฝาก เฝ้า และร่วมกันพัฒนากระบวนการนโยบายสาธารณะ ผ่านเวทีระดมพลังความคิด และความร่วมมือให้ชุมชน สังคม และท้องถิ่น ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงจากการดื่มสุรา
ขณะนี้หลายพื้นที่ได้ประกาศนโยบายสาธารณะในการจัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้า ซึ่งจะมีกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ มากมาย เพื่อร่วมสร้างความปลอดภัย และรักษาคุณค่าของประเพณีสงกรานต์ของไทยไว้ โดยสถานที่จัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้า ร่วมสร้างพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยในปีนี้ ยังคงได้รับความร่วมมือจากหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น ถนนข้าวแต๋น จังหวัดน่าน และถนนข้าวสุก จังหวัดอ่างทอง เป็นต้น
คุณธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวถึง กิจกรรมบนถนนข้าวเหนียวว่า ได้ปิดถนนศรีจันทร์ ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าศาลหลักเมืองขอนแก่น จนถึงสี่แยกธนาคารแห่งประเทศไทยระยะทางร่วม 1 กิโลเมตร ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเล่นน้ำสงกรานต์ไม่น้อยกว่า5 หมื่นคนต่อวัน ที่นี่จะเน้นรณรงค์ให้เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย สนุกได้ไร้แอลกอฮอล์ โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเทศกิจมากกว่า 1,000 นาย กระจายตั้งจุดตรวจทั่วจังหวัด บนถนนข้าวเหนียวจะมีจุดตรวจแอลกอฮอล์ก่อนเข้าร่วมงาน ในส่วนของร้านค้าก็ให้ความร่วมมือในการงดจำหน่าย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยภายในงานอีกด้วย และยังคงการเล่นคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ที่เคยได้รับการบันทึกสถิติโลกไว้เป็นการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง
คุณรดา เพชรขัน ผู้อำนวยการกองการศึกษา เทศบาลเมืองน่าน กล่าวถึงในส่วนถนนข้าวแต๋น จังหวัดน่าน ว่า จังหวัดน่านจะเน้นการนำขนบธรรมเนียมประเพณีโดยมีการทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า มีการสรงน้ำพระ และมีดนตรีพื้นเมืองบรรเลง ซึ่งปีนี้ ถนนข้าวแต๋นจะเป็นถนนปลอดเหล้าที่ร่วมดำเนินการรณรงค์มาแล้วอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 พร้อมกันนี้ ยังจัดให้มีการรณรงค์ในเรื่องของการแต่งกายด้วยการนุ่งผ้าเมือง เพื่อสืบสานวัฒนธรรมล้านนาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม และสามารถร่วมแต่งกายพื้นเมืองได้ด้วย ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ รวมถึงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีให้คงอยู่
คุณวิชัย ลิมป์วัฒนชัย นายกเทศมนตรีตำบลวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง กล่าวว่า ในปีนี้จัดให้มีคำขวัญในการเล่นสงกรานต์ว่า “ถนนข้าวสุก สนุกปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ใส่เสื้อไทยลายดอก บอกลาสายเดี่ยว” เน้นย้ำมาตรการการห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาขายในพื้นที่จัดงานทั้งหมด รวมถึง ขอให้ร้านค้างดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งรณรงค์ฝากเหล้าไว้กับตำรวจ โดยจะกำหนดให้มีช่วงเวลาเล่นน้ำได้ถึง 18.00 น. เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน
เสียงความร่วมมือในการจัดงานสงกรานต์ครั้งนี้ น่าจะสะท้อนให้เห็นแล้วว่า แม้ประเพณีสงกรานต์ไทย จะไร้แอลกอฮอล์ แต่ก็สนุกได้อย่างสมบูณ์แบบ แถมยังอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมไทยให้ใสสะอาด ปราศจากมลพิษใดๆ(อันเกิดจากฤทธิ์เดชของแอลกอฮอล์)อีกด้วย
ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า