ศิลปะเยียวยาชีวิต
ใครๆ มักพูดว่าศิลปะเป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน เข้าใจยาก และเป็นเพียงการปลดปล่อยจินตนาการโดยผ่านตัวกลางเป็นสื่อ ไม่ว่าจะเป็นพู่กัน ดินสอ หรือแม้กระทั่งกล้องถ่ายรูป ท้ายสุดออกมาเป็นภาพที่ดูสวยสดงดงาม แต่นอกเหนือไปจากนั้น คุณเคยรู้ไหมว่า ศิลปะยังสามารถนำมาช่วยในการบำบัดรักษาผู้ป่วยได้ อย่างที่เราเรียกกันว่า ศิลปะบำบัดหรือ Art Therapy
“ที่ผ่านมาเมื่อต้องเข้าออกเข้าโรงพยาบาลบ่อย มองไปรอบๆ โรงพยาบาล ภาพที่เห็นคือภาพผู้ป่วยและญาตินั่งรอพบแพทย์บ้าง รอรับยาบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างดูไร้ความหวัง ไร้ชีวิตชีวา หันไปทางไหนก็เจอแต่สีหน้าอมทุกข์ สิ่งเหล่านี้อาจจะดูแล้ว น่าหดหู่ใจในสายตาของใครหลายคน แต่นั่นก็กลับกลายเป็นตัวจุดประกาย ทำให้สมคิด ชัยจิตวนิช อดีตช่างภาพหนังสือพิมพ์ชื่อดังและทำงานด้านถ่ายภาพมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี มีคำพูดขึ้นมาในใจว่า “โรงพยาบาลน่าจะมีภาพสวยๆ ภาพดีๆ ไว้ในผู้ป่วยและญาติที่มานั่งรอมองบ้าง”
จากแรงบรรดาใจของคนคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับกล้องถ่ายรูปบวกกับความต้องการที่อยากให้มุมที่มีแต่ความเศร้าหมองมุมหนึ่งในโรงพยาบาล กลับดูสดใส มีชีวิตชีวาขึ้น ผสานเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับคนอีกคนหนึ่งอย่าง ร้อยเอกหญิง นิลภา สุขเจริญ หนึ่งในพยาบาลผู้อารีประจำหอผู้ป่วยไอซียู ที่อยากทำหน้าที่ของตนเองในการดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุด รวมกับอีกหลายๆ แรงใจ ที่ต้องการให้ภาพช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าจดจำให้เกิดขึ้นในโรงพยาบาล และสามารถช่วยเยียวยาจิตใจของผู้ป่วย ญาติ จนวันนี้กลายมาเป็น “Gallery of Love and Care” ขึ้นที่หอผู้ป่วย ไอ.ซี.ยู ศัลกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าขึ้น
ซึ่ง ร.อ.หญิง นิลภา ได้กล่าวด้วยสีหน้าที่ดูสดใสว่า การรักษาผู้ป่วยนั้นนอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้วนั้น เรื่องของสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องที่ควรเยียวยารักษาเช่นกัน เพราะผู้ป่วยห้อง ไอ.ซี.ยู ส่วนใหญ่สภาพจิตใจค่อนข้างแย่ อีกทั้งยังต้องอยู่ห่างจากคนใกล้ชิด อยู่ห่างจากบ้าน ยิ่งทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว ว้าเหว่ เพียงแค่การพยายามพูดคุยสร้างความเป็นกันเองของพยาบาลอาจยังไม่เพียงพอ การมีภาพศิลปะต่างๆ มาตกแต่งในห้องน่าจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง อีกทั้งโดยส่วนตัวคิดว่าภาพศิลปะแต่ละภาพนั้น สามารถบ่งบอกถึงความเป็นจริงบนโลกเราได้ เมื่อผู้ป่วยได้มองภาพ จะช่วยให้ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง หยุดคิด หยุดฟุ้งซ่านได้ระดับหนึ่ง และนั้นน่าจะเป็นตัวช่วยพยาบาลได้ดีที่เดียว
ภาพศิลปะมีมากมายหลายแบบให้เลือกแล้วทำไมต้องเป็นภาพ “น้ำ”
สมคิด ชัยจิตวนิช ช่างภาพมือโปร กล่าวว่า ภาพที่นำมาติดที่หอผู้ป่วย ไอ.ซี.ยู ศัลกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้านั้นมาจากการถ่ายสะสมมาเองทั้งสิ้น ปกติแล้วตนจะถ่ายภาพออกมาหลายแบบ แต่ที่ทุกคนเห็นตรงกันนั่นคือภาพของ “น้ำ” ซึ่งเป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกได้ถึงความสดชื่น สดใส เบิกบาน เหมาะที่จะนำมาให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเศร้าโศกเสียใจ ท้อแท้ หมดกำลังใจดูเป็นอย่างยิ่ง จากภาพถ่ายกว่าพันภาพเหลือเพียงแค่ 44 ภาพเท่านั้นที่จะนำไปติดที่โรงพยาบาล ซึ่งบริเวณที่ได้จัดให้มีภาพนั้นมีทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน บริเวณแรกเป็นส่วนของห้องผู้ป่วย ไอ.ซี.ยู ส่วนที่สองเป็นบริเวณเคาร์เตอร์ของพยาบาล ส่วนที่สามเป็นบริเวณทางเดินในหอผู้ป่วย และสุดท้ายส่วนรอญาติ ซึ่งบริเวณนี้นอกจากมีภาพถ่ายแล้วยังจัดให้มีมุมหนังสือและตู้เพลงธรรมะ ไว้ให้ญาติที่มานั่งรอรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย และในอนาคตยังคิดที่จะทำธนาคารภาพ เพื่อให้ผู้ที่มีภาพสวยๆ งามๆ และอยากช่วยเหลือสังคมแบบนี้ ฝากภาพเข้ามา เพื่อนำไปติดตามโรงพยาบาลอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป
ในวงการแพทย์สมัยปัจจุบัน มีการวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า ศิลปะช่วยทำให้สุขภาพผู้ป่วยในโรงพยาบาลดีขึ้น มีการทดลองที่พิสูจน์ว่าผู้ป่วยที่พักในห้องที่มีงานศิลปะสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายได้ดีกว่าผู้ป่วยในห้องที่ไม่มีงานศิลปะ
ซึ่งนางวรรณะ เต็มยอด หนึ่งในผู้ที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ประจำ เนื่องจากต้องพาลูกมารักษา กล่าวว่า วันแรกก้าวแรกที่เข้ามา รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่นำรูปมาติดไว้บนฝาผนัง บรรยากาศโดยรอบดูสดชื้นผิดหูผิดตาราวกับไม่ใช่โรงพยาบาล แต่ที่แปลกใจคือรับรู้ได้เลยว่า ลูกมีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น ร่าเริงสดใสผิดจากแต่ก่อนที่สภาพแวดล้อมเดิม และนั้นก็ทำให้ตนเชื่อว่าศิลปะสามารถช่วยบำบัดคนเราได้จริง หากผู้ป่วยหรือญาติรายอื่นๆ ได้เจอกับบรรยากาศใหม่ที่นี่ น่าจะช่วยให้สภาพจิตใจฟื้นกลับคืนมาได้เร็วขึ้นส่งผลให้สภาพร่างกายดีขึ้นตามไปด้วย
ด้านนางจารุชา กลิ่นมาลี อายุ 29 ปี อีกหนึ่งในญาติผู้ป่วยที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง กล่าวว่า ตอนนั้นตนต้องเข้าออกโรงพยาบาล เนื่องจากต้องมาเยี่ยมสามีที่ป่วยอยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู เป็นประจำ โดยสภาพจิตใจในตอนนั้น ทั้งตนเองและสามีถือว่าย่ำแย่มาก ทั้งวิตกกังวล เครียด การที่จะปรับเปลี่ยนบรรยากาศในห้องผู้ป่วยรวมถึงบริเวณที่รอของญาติ ด้วยการติดภาพถ่ายที่ดูเย็นตา สงบ น่าจะช่วยให้อารมณ์และความรู้สึกที่กำลังเครียดนั้นผ่อนคลายลงได้บ้าง อีกทั้งเป็นความตั้งใจของสามีที่อยากจะทำโครงการนี้ ตนจึงอยากผลักดันให้โครงการประสบความสำเร็จกับทุกๆ โรงพยาบาลทั่วประเทศ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าภาพถ่ายหนึ่งภาพสามารถรักษาสภาพจิตใจผู้ที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ได้ ซึ่งมันเกิดขึ้นจริงแล้ววันนี้ที่หอผู้ป่วยไอ.ซี.ยู ศัลกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สำหรับผู้ที่สนใจจะร่วมโครงการธนาคารภาพ หรือส่งภาพถ่าย สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-617-9764
เรื่องโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่ Team Content www.thaihealth.or.th
Update:01-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่