ศธ. จับมือ สสส. เดินหน้า “รับน้องปลอดเหล้า” ปีที่ 7
ชูสโลแกน “พี่น้องสนิทกันได้ ไม่เห็นต้องดื่ม”เร่งผลักดันสร้างเครือข่ายใน 4 กลุ่มสถาบัน ทั้ง u-network u-participation u-active และ u-plus พร้อมปรับทิศทางการทำงานครอบคลุมทุกกิจกรรม มุ่งเน้นขับเคลื่อนนโยบายร่วมกับผู้บริหารระดับสูง และทำงานกับเครือข่ายนิสิต นักศึกษา ให้รู้เท่าทันกลยุทธ์และเฝ้าระวัง
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ณ ห้องประชุมศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการแถลงข่าว การจัดกิจกรรมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา โครงการ “รับน้องปลอดเหล้า” ปี 2554″ มีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
พร้อมกันนั้น ยังจัดให้มีการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับนโยบายผู้บริหารสถานศึกษา และผู้นำนิสิต นักศึกษา เครือข่าย รวมทั้งตัวแทนจาก สสส. จำนวน 2 วัน โดยมีหัวข้อที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น “นโยบายสู่มาตรการและการปฏิบัติในการจัดกิจกรรมนิสิตนักศึกษา ปลอดเครื่องดื่มแอลกอออล์และบุหรี่” หัวข้อ “บทบาทนิสิตนักศึกษารุ่นใหม่กับการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ในสถานศึกษาและชุมชน” หรือ “แนวทางและรูปแบบกิจกรรมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา ปี 2554” เป็นต้น
พร้อมทั้งจัดแสดงผลงานการจัดกิจกรรมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษาใน ปีที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารจากสถานศึกษา ตัวแทนนิสิตนักศึกษา และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมเหล่าดาราวัยรุ่น อาทิ แนท ณัฐชา นวลแจ่ม นางเอกวัยรุ่นจากภาพยนตร์เรื่อง “suckseed” ห่วยขั้นเทพ, ไอซ์ อธิชนันธ์ ศรีเสวก มิสทีน ไทยแลนด์ 2005, กรีน af7 จิรพัฒน์ ศิริไชย, น้ำแข็ง af7 ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว ร่วมรณรงค์และสร้างสีสันในงาน
นายชินวรณ์ กล่าวว่า จากผลสำรวจของเอแบคโพลล์ล่าสุด พบว่า สถิติการดื่มแอลกอฮอล์ในกิจกรรมรับน้องมีแนวโน้มลดลงทุกปี สาเหตุประการหนึ่งเป็นเพราะว่าในปีที่ผ่านมาได้มีการตราพระราชบัญญัติควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกมาบังคับใช้ อย่างเป็นทางการ ทั้งข้อห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา ในหอพัก เป็นต้น รวมทั้งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงการห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา และสถานที่ราชการ รวมทั้งตามสวนสาธารณะต่างๆ เป็นต้น
“ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนโยบายส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษาสำเร็จการศึกษาออกมาเป็นบุคคลที่มี คุณภาพของสังคมแล้ว ยังสนับสนุนให้นิสิตนักศึกษามีความสุขกับการเล่าเรียนและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีนโยบายส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่างๆ ของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างความสามัคคี มีคุณธรรม และต้องไม่ใช้ความรุนแรง และยังส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาต่างๆ จะต้องออกกฎระเบียบข้อบังคับให้เป็นนโยบายระดับสถาบันการศึกษา”
“รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายทั้งคณาจารย์ ผู้ปกครอง และนักศึกษา ได้รับรู้และถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการรับน้อง และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันอาจจะเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ ขอขอบคุณ สสส. รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ คณาจารย์ นิสิตนักศึกษา ที่เล็งเห็นความสำคัญในการรณรงค์ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการจัดกิจกรรม อย่างเช่น โครงการรับน้องปลอดเหล้า เป็นอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการสร้างเครือข่ายของการจัดกิจกรรมให้มีจำนวนมากขึ้น อันจะนำไปสู่การสนับสนุนให้เป็นนโยบายที่ยั่งยืนต่อไป” นายชินวรณ์ กล่าว
ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจในการรณรงค์เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทำลายสุขภาพเป็นภารกิจที่ สสส.ให้ความสำคัญ และผนึกกำลังร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “โครงการรับน้องปลอดเหล้า” ที่ได้สนับสนุนมาตั้งแต่ปี 2548 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกระทรวงศึกษาธิการ เครือข่ายภาคีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งผลให้มีการดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในกิจกรรมรับน้องลดน้อยลงตามลำดับ
ทั้งนี้ กิจกรรมในปีนี้กำหนดจัดขึ้นภายใต้สโลแกน “พี่น้องสนิทกันได้ ไม่เห็นต้องดื่ม” ปลูกฝังความรัก สามัคคี เกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยไม่พึ่งพาแอลกอฮอล์ เน้นการทำงานร่วมกับกลุ่มแกนนำ ผลักดันสร้างเครือข่าย ใน 4 กลุ่มสถาบัน ได้แก่ u-network สถาบันที่มีความเข้มแข็งและเป็นแบบอย่างในการดำเนินกิจกรรม u-participation สถาบันที่มีศักยภาพในการดำเนินกิจกรรมร่วมกับสถาบันที่เป็น u-network ส่วน u-active คือสถาบันที่มีการดำเนินกิจกรรมในระดับสร้างสรรค์ พร้อมที่จะพัฒนาสู่ u-participation และ u-plus สถาบันที่มีแนวโน้มเป็นกลุ่มเสี่ยงแต่สามารถพัฒนากิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ให้สอดคล้องกับนโยบาย
“ที่ผ่านมาในแต่ละปีมีนิสิต นักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องมากถึง 2 แสนคน จาก 200 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ และมีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมโครงการกับ สสส. มากกว่า 50% เฉพาะปี 2553 มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมโครงการถึง 98 สถาบัน ในปีนี้ สสส. ได้ปรับทิศทางการทำงานครอบคลุมทุกกิจกรรมให้ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมุ่งเน้นขับเคลื่อนนโยบายร่วมกับผู้บริหารระดับสูง และทำงานกับเครือข่ายนิสิต นักศึกษา มุ่งเน้นรู้เท่าทันกลยุทธ์และเฝ้าระวัง รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายรอบสถานศึกษาสู่ทิศทางกิจกรรมสังคมในอนาคต ผ่านการจัดกิจกรรม เช่น เวทีประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงประเด็นที่สร้างสรรค์ เพื่อเสริมแนวคิด วิธีปฏิบัติมากขึ้น พร้อมผลักดันให้สถาบันการศึกษาต่างๆ จัดตั้ง “ชมรมสร้างเสริมสุขภาพในสถานศึกษา” พร้อมขยายกิจกรรมจากในรั้วสถาบันการศึกษาไปยังชุมชนรอบสถานศึกษา เพื่อให้การรณรงค์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และสัมฤทธิ์ผลและสร้างประโยชน์ให้กับเยาวชนของเราได้อย่างสมบูรณ์” ทพ.กฤษดา กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ