วิกฤตนมผงจีน บ่งบอก“นมแม่ดีที่หนึ่ง”
แนะมีประโยชน์กว่า แถมปลอดภัย 100%
Made In
เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายประเทศที่นำเข้านมผงจากจีน รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ปัจจุบันทุกประเทศได้สั่งระงับการนำเข้านมผงจากจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่นำเข้ามาแล้วได้ดำเนินการสั่งอายัดและดำเนินการจัดเก็บไม่ให้หลงเหลือ โดยจากการตรวจสอบ พบว่าในนมผงดังกล่าวมีการปนเปื้อนของสารเคมีที่ชื่อ “เมลามีน” ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารเคมีที่ใช้ผสมในการผลิตเม็ดพลาสติก
แล้วกล้าผสมเข้าไปได้ไง!!! เหตุผลที่ทางบริษัทผู้ผลิตอ้างว่าผสมสารดังกล่าวเข้าไปนั้น เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับนมและเป็นการเพิ่มโปรตีนด้วย โดยไม่ทราบว่าสารดังกล่าวเป็นอันตรายแต่อย่างไร
ขนาดสัตว์ยังล้มป่วย แล้วทารกจะต้านทานได้อย่างไร!!
หลังมีข่าวครึกโครม ล่าสุดยังพบว่าลูกลิงอุรังอุตังจำนวน 2 ตัวและลูกสิงโต 1 ตัว กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ล้มป่วยเป็นโรคนิ่วในไต หลังดื่มนมผงที่ปนเปื้อนสารเมลามีน มานานกว่า 1 ปี
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) เองก็ได้ออกมาเรียกร้องให้สำนักงานด้านความปลอดภัยของอาหารทั่วโลกเร่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์นมจากจีนอย่างเร่งด่วน
“เกิดการเรียกคืนนมจากจีนทั่วโลก แต่เราขอแนะนำให้ประเทศทั่วโลกทำการทดสอบผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก่อน ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากแต่ละประเทศจะตรวจสอบสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะดำเนินการมาตรการใดๆ เช่น ห้ามการนำเข้า หรือเรียกคืนสินค้าจีน” ซารี เซติโอกี โฆษกขององค์การอนามัยโลก กล่าว
ไทยเราก็แตกตื่น!!! ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาบอกว่า ตนมิได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์นมผงทุกชนิดที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน
ซึ่งผลระบุว่าไม่มีการนำเข้าแต่อย่างใด และได้กำชับให้เฝ้าระวังการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นพิเศษ รวมถึงจากประเทศต่าง ๆ ยี่ห้ออื่น ๆ ด้วย เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้แก่เด็กทารกในประเทศ โดยถ้ามาจากแหล่งกำเนิดตามที่เป็นข่าวให้อายัดและเก็บตัวอย่างวิเคราะห์
“ผมขอให้คุณแม่ทั้งหลายมั่นใจได้เลยว่า รัฐจะไม่ให้มีผลิตภัณฑ์นมผงที่ผสมสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อทารก อยู่ในท้องตลาดอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากพบผู้แอบจำหน่ายนมผงที่มีสารปนเปื้อนเมลามีน มีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
เหตุการณ์นี้คงทำเอาคุณแม่หลายคนถึงกับหวาดกลัว ไม่กล้าให้ลูกดื่มนมผงไปอีกนาน ถึงแม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขออกมาประกาศว่า ไม่พบสารปนเปื้อนเมลามีนในนมที่มีอยู่ในประเทศไทยก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้คุณแม่ทั้งหลายวางใจ ซึ่งทางที่ดีหันมาให้ลูกดื่ม “นมแม่” น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ล่าสุดองค์การอนามัยโลก และกองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ได้ออกแถลงการณ์ตำหนิการผสมสารเมลามีนที่เป็นอันตรายลงไปในผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหาร และยังประกาศแผนที่จะยกเครื่องระบบความปลอดภัยในอาหารของจีนเป็นการใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้อีกต่อไป ในการนี้ทั้งองค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ ต่างถือโอกาสรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
การผลักดันณรงค์ให้คุณแม่หันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น ได้ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น โดยเฉพาะการจับมือกันระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยและกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้สโลแกน “นมแม่ดีที่หนึ่งเลย ทุกที่ ทุกคน สนับสนุนนมแม่ได้” อีกทั้งยังมีการเผยแพร่ภาพพระฉายาลักษณ์ขนาดโปสเตอร์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพื่อสื่อถึงผลดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ซึ่ง พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวถึงคุณค่าของนมแม่ไว้ว่า งานวิจัยจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่า การดื่มนมแม่ นอกจากจะทำให้ลูกไม่ป่วยบ่อย ไม่เป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพของเด็กเมื่อเติบโตด้วย ทั้งนี้มีข้อมูลพบว่าเด็กดื่มนมแม่จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้าย 3 โรค ได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ คือ ลดการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 40 หมายความว่า ถ้ามีเด็กไม่ได้กินนมแม่และโตขึ้น เป็นเบาหวาน 100 คน ถ้าเปลี่ยนเด็กกลุ่มนี้ มากินนมแม่ เมื่อโตขึ้นจะเป็นเบาหวาน เพียง 60 คน , ลดการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Acute lymphoblastic leukemia- All ได้ร้อยละ 20 , มะเร็งต่อมน้ำเหลืองลดลงร้อยละ 24 และมะเร็งสมอง (นิวโรบลาสโตมา) ลดลงร้อยละ 41
นอกจากนี้ นมแม่ยังช่วยลดการเกิดโรคอ้วนได้ร้อยละ 22 มีระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่า อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และเส้นโลหิตอุดตันเมื่อสูงวัยด้วย ขณะที่การศึกษาที่ยืนยันล่าสุดในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ติดตามเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 8.5 ปี พบว่าเด็กที่ดื่มนมแม่มีไอคิว ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่เฉลี่ย1.6-9.8 จุดและจะยิ่งดีถ้ากินนมแม่นานโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดน้อย ทั้งนี้นมแม่ไม่ได้มีแต่ลูกเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพแม่โดยช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมและรังไข่และโรคกระดูกพรุน
นมแม่ดีที่หนึ่งเลย!!! จากเหตุการณ์เด็กทารกเสียชีวิตในจีนดังกล่าว บ่งบอกได้เลยสโลแกนนี้ยังคงใช้ได้ เพราะนมแม่เป็นนมที่ปลอดภัยและที่สำคัญยังเป็นสุดยอดอาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยโปรตีนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตทั้งด้านร่างกาย สมอง และอารมณ์ แม้นมผงจะมีวิวัฒนาการผลิตผสมสารอาหารต่างๆ ออกมาใช้ทดแทน ก็ไม่สามารถเทียบกับประโยชน์จากนมแม่ได้เลยแม้แต่น้อย
นอกจากประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกายเด็กแล้ว เด็กยังสามารถรับสัมผัสรักจากผู้เป็นแม่ได้จากอ้อมกอดเวลาดื่มนมจากแม่ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ล้ำค่า ที่ไม่อาจหาอาหารอื่นใดมาทดแทนได้
แล้วเช่นนี้ คุณแม่ทั้งหลายยังคงอยากให้ลูกของคุณดื่มนมผงอีกหรือ?? ในเมื่อนมจากแม่นั้นมีประโยชน์มากมาย แถมยังปลอดภัย ไร้กังวลซะขนาดนี้ อย่าปล่อยให้กระแสนมผงจากจีนผ่านมาแล้วผ่านไปเลย ฉุดคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง เพราะ “นมแม่ดีที่หนึ่ง”
ที่มา : ณัฐภัทร ตุ้มภู่ Team Content www.thaihealth.or.th
Update : 29-09-51
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฐภัทร ตุ้มภู่