วิกฤตนมผงจีน บ่งบอก“นมแม่ดีที่หนึ่ง”

แนะมีประโยชน์กว่า แถมปลอดภัย 100%

 

 

วิกฤตนมผงจีน บ่งบอก“นมแม่ดีที่หนึ่ง”

 

 

         Made In China อาจเป็นของแสลงของคนทั่วโลกไปแล้ว เมื่อล่าสุดเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลด ที่ทำเอานานาชาติถึงกับตะลึง!!! เมื่อนมผงจากประเทศจีน ทำให้เด็กกว่า 6 หมื่นคน ล้มป่วยด้วยอาการไตวายเฉียบพลันและเป็นนิ่วในไต และที่น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้นคือพบว่ามีทารกเสียชีวิตจากการบริโภคนมผงดังกล่าวถึง 4 รายด้วยกัน

 

          เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายประเทศที่นำเข้านมผงจากจีน รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ปัจจุบันทุกประเทศได้สั่งระงับการนำเข้านมผงจากจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่นำเข้ามาแล้วได้ดำเนินการสั่งอายัดและดำเนินการจัดเก็บไม่ให้หลงเหลือ โดยจากการตรวจสอบ พบว่าในนมผงดังกล่าวมีการปนเปื้อนของสารเคมีที่ชื่อ เมลามีน”  ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารเคมีที่ใช้ผสมในการผลิตเม็ดพลาสติก

 

         แล้วกล้าผสมเข้าไปได้ไง!!!  เหตุผลที่ทางบริษัทผู้ผลิตอ้างว่าผสมสารดังกล่าวเข้าไปนั้น เพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับนมและเป็นการเพิ่มโปรตีนด้วย โดยไม่ทราบว่าสารดังกล่าวเป็นอันตรายแต่อย่างไร

 

         ขนาดสัตว์ยังล้มป่วย แล้วทารกจะต้านทานได้อย่างไร!! 

 

         หลังมีข่าวครึกโครม ล่าสุดยังพบว่าลูกลิงอุรังอุตังจำนวน 2 ตัวและลูกสิงโต 1 ตัว กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ล้มป่วยเป็นโรคนิ่วในไต หลังดื่มนมผงที่ปนเปื้อนสารเมลามีน มานานกว่า 1 ปี

 

         ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO)  เองก็ได้ออกมาเรียกร้องให้สำนักงานด้านความปลอดภัยของอาหารทั่วโลกเร่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์นมจากจีนอย่างเร่งด่วน

 

         “เกิดการเรียกคืนนมจากจีนทั่วโลก แต่เราขอแนะนำให้ประเทศทั่วโลกทำการทดสอบผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก่อน ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากแต่ละประเทศจะตรวจสอบสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะดำเนินการมาตรการใดๆ เช่น ห้ามการนำเข้า หรือเรียกคืนสินค้าจีน” ซารี เซติโอกี โฆษกขององค์การอนามัยโลก กล่าว

 

         ไทยเราก็แตกตื่น!!! ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาบอกว่า ตนมิได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์นมผงทุกชนิดที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน

 

         ซึ่งผลระบุว่าไม่มีการนำเข้าแต่อย่างใด และได้กำชับให้เฝ้าระวังการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นพิเศษ รวมถึงจากประเทศต่าง ๆ ยี่ห้ออื่น ๆ ด้วย เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้แก่เด็กทารกในประเทศ โดยถ้ามาจากแหล่งกำเนิดตามที่เป็นข่าวให้อายัดและเก็บตัวอย่างวิเคราะห์

 

         ผมขอให้คุณแม่ทั้งหลายมั่นใจได้เลยว่า รัฐจะไม่ให้มีผลิตภัณฑ์นมผงที่ผสมสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อทารก อยู่ในท้องตลาดอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากพบผู้แอบจำหน่ายนมผงที่มีสารปนเปื้อนเมลามีน มีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

 

         เหตุการณ์นี้คงทำเอาคุณแม่หลายคนถึงกับหวาดกลัว ไม่กล้าให้ลูกดื่มนมผงไปอีกนาน ถึงแม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขออกมาประกาศว่า ไม่พบสารปนเปื้อนเมลามีนในนมที่มีอยู่ในประเทศไทยก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้คุณแม่ทั้งหลายวางใจ ซึ่งทางที่ดีหันมาให้ลูกดื่ม นมแม่ น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

 

         ล่าสุดองค์การอนามัยโลก และกองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ได้ออกแถลงการณ์ตำหนิการผสมสารเมลามีนที่เป็นอันตรายลงไปในผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหาร และยังประกาศแผนที่จะยกเครื่องระบบความปลอดภัยในอาหารของจีนเป็นการใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้อีกต่อไป ในการนี้ทั้งองค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ ต่างถือโอกาสรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

         การผลักดันณรงค์ให้คุณแม่หันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น ได้ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะในช่วงนี้เท่านั้น โดยเฉพาะการจับมือกันระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยและกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้สโลแกน นมแม่ดีที่หนึ่งเลย ทุกที่ ทุกคน สนับสนุนนมแม่ได้ อีกทั้งยังมีการเผยแพร่ภาพพระฉายาลักษณ์ขนาดโปสเตอร์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพื่อสื่อถึงผลดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

 

         ซึ่ง พญ.ศิริพร  กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวถึงคุณค่าของนมแม่ไว้ว่า งานวิจัยจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่า การดื่มนมแม่ นอกจากจะทำให้ลูกไม่ป่วยบ่อย ไม่เป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพของเด็กเมื่อเติบโตด้วย ทั้งนี้มีข้อมูลพบว่าเด็กดื่มนมแม่จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้าย 3 โรค ได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ คือ ลดการเกิดโรคเบาหวานได้ร้อยละ 40 หมายความว่า ถ้ามีเด็กไม่ได้กินนมแม่และโตขึ้น เป็นเบาหวาน 100 คน ถ้าเปลี่ยนเด็กกลุ่มนี้ มากินนมแม่ เมื่อโตขึ้นจะเป็นเบาหวาน เพียง 60 คน , ลดการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Acute lymphoblastic leukemia- All ได้ร้อยละ 20 , มะเร็งต่อมน้ำเหลืองลดลงร้อยละ 24 และมะเร็งสมอง (นิวโรบลาสโตมา) ลดลงร้อยละ 41

 

         นอกจากนี้ นมแม่ยังช่วยลดการเกิดโรคอ้วนได้ร้อยละ 22 มีระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่า อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และเส้นโลหิตอุดตันเมื่อสูงวัยด้วย ขณะที่การศึกษาที่ยืนยันล่าสุดในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ติดตามเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 8.5 ปี พบว่าเด็กที่ดื่มนมแม่มีไอคิว ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่เฉลี่ย1.6-9.8 จุดและจะยิ่งดีถ้ากินนมแม่นานโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดน้อย ทั้งนี้นมแม่ไม่ได้มีแต่ลูกเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพแม่โดยช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมและรังไข่และโรคกระดูกพรุน

 

         นมแม่ดีที่หนึ่งเลย!!! จากเหตุการณ์เด็กทารกเสียชีวิตในจีนดังกล่าว บ่งบอกได้เลยสโลแกนนี้ยังคงใช้ได้ เพราะนมแม่เป็นนมที่ปลอดภัยและที่สำคัญยังเป็นสุดยอดอาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยโปรตีนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตทั้งด้านร่างกาย สมอง และอารมณ์ แม้นมผงจะมีวิวัฒนาการผลิตผสมสารอาหารต่างๆ ออกมาใช้ทดแทน ก็ไม่สามารถเทียบกับประโยชน์จากนมแม่ได้เลยแม้แต่น้อย

 

         นอกจากประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกายเด็กแล้ว เด็กยังสามารถรับสัมผัสรักจากผู้เป็นแม่ได้จากอ้อมกอดเวลาดื่มนมจากแม่ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ล้ำค่า ที่ไม่อาจหาอาหารอื่นใดมาทดแทนได้

 

         แล้วเช่นนี้ คุณแม่ทั้งหลายยังคงอยากให้ลูกของคุณดื่มนมผงอีกหรือ?? ในเมื่อนมจากแม่นั้นมีประโยชน์มากมาย แถมยังปลอดภัย ไร้กังวลซะขนาดนี้ อย่าปล่อยให้กระแสนมผงจากจีนผ่านมาแล้วผ่านไปเลย ฉุดคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง เพราะ นมแม่ดีที่หนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : ณัฐภัทร ตุ้มภู่ Team Content www.thaihealth.or.th

 

 

 

Update : 29-09-51

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฐภัทร ตุ้มภู่

Shares:
QR Code :
QR Code