วาเลนไทน์ฉลาดรัก เปิดอกคุยปัญหา “เซ็กส์”
“วันแห่งความรัก” เป็นวันที่หนุ่มสาวรอคอยเพื่อแสดงออกถึงความรักได้อย่างไม่ขัดเขิน แม้ว่าจะเป็นวัฒนธรรมฝรั่งแต่คนไทยก็อินกับกระแสวันวาเลนไทน์ไม่น้อยหน้าใคร
โดยเฉพาะในวัยรุ่นจะให้ความสำคัญกับเรื่องความรักมากเป็นพิเศษ จนผู้ใหญ่ต่างมองไปว่าวันแห่งความรักของวัยนี้อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พร้อม ทำให้วันแห่งความรักของไทย มีการพูดถึงเพศสัมพันธ์ปลอดภัย เพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม การให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาแบบจัดเต็ม!!
สำหรับวัฒนธรรมไทย เรื่องเพศเป็นเรื่องปกปิด แต่ในยุคนี้ความรู้เรื่องเพศศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องเปิดใจคุยกันได้โดยเฉพาะในครอบครัว พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผอ.สถาบันราชานุล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิต อธิบายว่า มีงานวิจัยระบุไว้ชัดเจนว่าครอบครัวที่คุยเรื่องเพศกันได้อย่างเปิดเผย จะทำให้ลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นมีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ไม่พร้อม น้อยกว่าครอบครัวที่ปรึกษากันไม่ได้
“เป็นธรรมดาของพ่อแม่ที่รักลูกมาก จนทำให้เกิดความกังวลกับเรื่องของลูกไปเสียหมด ซึ่งความกังวลที่มากไป และการแสดงออกถึงความห่วงใยของผู้ใหญ่ บางครั้งก็ทำให้เด็กไม่เข้าใจ อาจเป็นเพราะช่องว่างระหว่างวัย ทำให้ลูกไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ จนทำให้คิด ตัดสินใจเองจนกลายเป็นปัญหา” พญ.พรรณพิมลอธิบาย
เทคนิคง่ายๆ ที่คุณหมอแนะนำให้ใช้ในการทำความเข้าใจกันและกัน เรื่องแรก เมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ลูกจะเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่ที่ยังโตไม่เต็มที่และมีความคิดของเด็กปนอยู่ พ่อแม่จะไม่สามารถชี้ให้ลูกเดินได้เหมือนเดิม เพราะลูกจะกลายเป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็ก อาจดูไม่น่ารักเหมือนเดิมสำหรับพ่อแม่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมองข้ามไปให้ได้ และเอาเหตุผลเป็นที่ตั้งในการพูดคุยกัน หากพ่อแม่มองข้ามความไม่น่ารักนั้นไปได้ ก็ถือเป็นการทลายกำแพงให้เข้าถึงลูกได้ง่ายขึ้น
ประการถัดมา หลีกเลี่ยงการใช้คำตีตรา หรือ ฟันธงไปก่อนว่าลูกจะทำผิด ก่อนที่จะได้พูดคุยกันด้วยเหตุผล ทำให้เด็กยิ่งห่างพ่อแม่ และหากจะเลือกใช้วิธีการห้าม ก็เท่ากับทำให้เด็กปิดทุกอย่างเป็นความลับเท่านั้น ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาอะไร การสร้างความสัมพันธ์ ความไว้วางใจกันจึงเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้
จะเตรียมความพร้อมครอบครัวอย่างไร น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อธิบายเพิ่มว่า ความพร้อมเพื่อมีความฉลาดทางเพศ ด้านความสัมพันธ์ ทำได้ตั้งแต่วัยเด็ก โดยติดตั้งทัศนคติเชิงบวกและเท่าทันให้แก่ลูก ทำให้เรื่องเพศกลายเป็นเรื่องปกติ เป็นเพียงข้อมูลสุขภาพอย่างหนึ่งที่ลูกควรได้รู้ จึงทำให้บรรยากาศการเรียนรู้เรื่องเพศในทาง ที่ถูกเกิดขึ้นได้ ลูกไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาเองจนพ่อแม่กังวล
เด็กชายและเด็กหญิงอาจมีความแตกต่างกันที่เด็กชายจะเริ่มมีกลุ่มเพื่อน และมองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องตื่นเต้น น่าสนุก โดยที่ไม่ทันคิดว่าอาจล่วงละเมิดเด็กหญิง ก็จำเป็นต้องสอนเรื่องการให้เกียรติระหว่างกันและกัน ส่วนเด็กหญิงต้องเน้นเรื่องการให้ความไว้วางใจ ประเมินสถานการณ์ว่าจะทำอย่างไร แต่ไม่ใช่การห้าม ให้ใช้วิธีการยกตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ข่าวตามหนังสือพิมพ์ ทีวี ชวนคุยว่าถ้าเป็นลูกจะทำอย่างไร ถือเป็นการฝึกเตรียมพร้อมถ้าเกิดเหตุการณ์จริงจะทำอย่างไร
“สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกปรึกษาพ่อแม่ได้ คือ การคุยกันตรงๆ ไม่อ้อมค้อม และคุยกันแบบสบายๆ เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช้วิธีการสั่งสอน เช่น เมื่อทำกิจกรรมด้วยกัน เมื่อมีโอกาสก็บอกลูกได้ว่า ถ้าลูกมีปัญหาหัวใจ รักใครชอบใคร อยากได้คำปรึกษาคุยกันได้ และเมื่อลูกถามเกี่ยวกับเรื่องเพศ ต้องเก็บอาการตกใจ หรืออายลูก แล้วตอบคำถามให้หายสงสัย อย่าปฏิเสธที่จะพูดคุย” น.ส.ณัฐยาอธิบาย
ส่วนข้อมูลเรื่องเพศศึกษา ปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข ร.พ.ต่างๆ หรือเว็บไซต์ http://talkaboutsex.thaihealth.or.th จะมีข้อมูล เว็บบอร์ดตอบคำถามโดยทีมวิชาการที่ถูกต้องได้
ขณะที่มุมมองวัยรุ่นสะท้อนวันวาเลนไทน์กับปัญหาวุ่นๆ เรื่องเซ็กส์ “หนุ่มเต้” ศิวัช เภาสูตร์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก วัยรุ่นคิดบวกเห็นว่า วาเลนไทน์เป็นแค่วันๆ หนึ่งที่มีโอกาสแสดงความรักกับคนที่รัก ซึ่งไม่ใช่แค่คู่รัก แต่ยังรวมถึงคนใกล้ตัวอย่างพ่อแม่ น้องชาย ญาติมิตร หรือเพื่อนฝูง
“วันวาเลนไทน์เป็นวันที่เต็มไปด้วยความรัก ดอกไม้หลากสี ช็อกโกแลตหลากรูปแบบ ตลอดจนเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ เป็นวันที่สวยงามและมีความสุขวันหนึ่ง เพราะเรารักใครก็แสดงความรักให้เขาได้หมดไม่ต้องเขินอาย แต่คนสมัยนี้กลับมองวันที่อบอุ่นสวยงามนี้ เป็นวันเสียตัว ซึ่งผมอยากขอให้ป้องกันไว้ด้วย เพราะหากเกิดพลาดพลั้ง คนสองคนหรืออาจรวมถึงคนที่สามซึ่งกำลังจะเกิดมา จะเสียไปทั้งอนาคต เพราะวันแห่งความรักวันเดียวเท่านั้น”
“เต้” บอกด้วยว่า คุณแม่จะสอนเสมอว่าลูกผู้ชายที่แท้จริง ต้องเป็น “สุภาพบุรุษ” เพราะผู้ชายคงให้อะไรที่เป็นความสุขจริงๆ กับผู้หญิงไม่ได้มาก ดังนั้นหากจะรักใคร สองสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่เต้รักคือ “ความรัก” และ “การให้เกียรติ” เพราะจะทำให้คนที่รักรู้สึกได้ถึงการเป็นคนที่มีคุณค่า ทั้งในสายตาของเต้หรือคนอื่น
ขณะที่ “น้องดรีม” พิมพร พรมมา สาขาวิชาสัตวศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เพชรบุรี เผยถึงค่านิยมเสียตัวเพื่อแลกรักแท้ โดยเฉพาะวันเสียตัว 14 ก.พ. ว่า ผู้หญิงสมัยนี้มีความมั่นใจ จะแสดงออกมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าพอถึงวันวาเลนไทน์แล้วทุกคนจะพลีกายให้ กับคนรักเสมอไป เพราะเรื่องอย่างว่านี้ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ค่านิยมไหนก็บังคับกันไม่ได้
“ดรีมเชื่อว่าความรักกับเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งควบคู่กัน เพราะมนุษย์เรา แสดงความรักที่หลากหลายรูปแบบและสถานะได้ ความรักไม่ได้นิยามขึ้นเฉพาะคนสองคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา ครูอาจารย์ เพื่อนพ้องน้องพี่ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงที่เรารัก วันวาเลนไทน์ของดรีมจึงเป็นแค่วันหนึ่งวันที่ถูกนิยามให้เป็นวันแห่งความรัก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าวันอื่นๆ เราจะแสดงความรักต่อคนที่เรารักไม่ได้”
ส่วนเรื่องเซ็กส์ ดรีมบอกว่าสังคมยุคนี้ห้ามกันไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะของคนสองคน แต่หากมีเมื่อพร้อมทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ
“สุดท้ายในฐานะของผู้หญิงด้วยกัน อยากให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ รักนวลสงวนตัว เพราะความรักไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยการเสียตัวค่ะ”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด