วัยรุ่นเชียงใหม่ ติดเชื้อเอดส์พุ่ง แซงกลุ่มแม่บ้าน
แนะส่งตู้จำหน่ายถุงยางนำร่องในชุมชน 6 อำเภอ
สสจ.เชียงใหม่ เผยผลสำรวจกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี ตะลึงพบวัยรุ่นอายุเพียง 12-15 ปี ครองแชมป์แซงกลุ่มแม่บ้าน-วัยทำงาน ส่งตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยหยอดเหรียญนำร่องขายในชุมชน 6 อำเภอ หวังเพิ่มเปอร์เซ็นต์การใช้ถุงยาง
น.พ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยแนวโน้มการติดเชื้อเอชไอวีในจังหวัดเชียงใหม่ ว่า กลุ่มเยาวชนได้กลายมาเป็นกลุ่มเสี่ยงอันดับหนึ่ง จากเดิมที่เคยเป็นกลุ่มแม่บ้านและวัยทำงาน จากการเก็บข้อมูลช่วงสองปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มเยาวชนอายุ 12-15 ปี เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุด โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากค่านิยมที่ผิด ที่คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนของตัวเองโดยไม่ใช้บริการทางเพศกับหญิงบริการอื่นเป็นเรื่องปลอดภัย ทำให้มีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเพียง 30%
จากสถานการณ์ดังกล่าวสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จึงร่วมกับหน่วยงานด้านการป้องกันโรคเอดส์ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดโครงการป้องกันการติดเชื้อเอดส์ทางเพศสัมพันธ์ ในกลุ่มเยาวชนในชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะนำตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยแบบหยอดเหรียญ ไปติดตั้งในชุมชนต่างๆ และให้แกนนำเยาวชนในแต่ละชุมชนนำถุงยางอนามัยไปแจกจ่าย และจำหน่ายให้วัยรุ่นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นการดำเนินการในเชิงรุก โดยจะนำร่องในพื้นที่อำเภอสันทราย ดอยสะเก็ด แม่ออน แม่ริม สารภี และอำเภอฝาง ก่อนขยายให้ครอบคลุมทั้ง 24 อำเภอ ภายใน 1 ปี
สำหรับโครงการดังกล่าว จะมีการส่งวัยรุ่นที่ผ่านการอบรมเข้าไปให้ความรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยตั้งเป้าลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเยาวชน โดยให้มีการใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้นจากเดิม 30% เป็น 60%
นายพรชัย ทะนามแสง ผู้ประสานงานโครงการ ระบุว่า การจำหน่ายถุงยางอนามัยผ่านแกนนำเยาวชนในชุมชน ได้ผลดีกว่าการวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อ เพราะวัยรุ่นจะเกิดความไว้ใจเป็นพวกเดียวกันมากกว่า ซึ่งผู้เป็นแกนนำจะไม่นำความลับของลูกค้าไปเปิดเผย จนเกิดความไว้วางใจ จนหันมาใช้ถุงยางอนามัยกันมากขึ้น
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
update 29-04-51