วัยรุ่นกับการตั้งครรภ์
ทุกวันนี้คงต้องยอมรับว่าการตั้งครรภ์หรือตั้งท้องก่อนแต่งมีจำนวนมากขึ้นหลังจากที่มี การสำรวจกันว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่นับวันจะเริ่มที่อายุน้อยๆกันเร็วขึ้น จึงทำให้เราต้องมาเรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันการตั้งครรภ์หรือการท้องก่อนแต่งโดยเฉพาะในวัยรุ่นวัยเรียน หรือว่าจะทำอย่างไรดี หากว่าเกิดผิดพลาดแล้วทำให้เกิดการตั้งครรภ์หรือการท้องขึ้นมาในวัยเรียน
ซึ่งจริงๆแล้วเราเองก็คงไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนที่เรารักและคนที่เค้ารักเรา แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจจะก้าวต่อไปในชีวิตข้างหน้าหรือรับผิดชอบต่อไปแบบมีเข็มทิศชีวิตที่มีคุณภาพ เราลองมาเรียนรู้ถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ในเรื่องนี้กันดีกว่าว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะดูแลความรักนี้ให้มีความสุขและหากเกิดผิดพลาดไปเราจะมีทางออกที่ดีได้อย่างไร
1. เราควรที่จะรู้จักคุณค่าของตนเองหรือรู้จักรักตนเองให้มาก เพราะว่าจะทำให้คุณไตร่ตรองและคิดรอบคอบว่าคุณจะมอบความรักให้กับคู่ของเราอย่างมีความรับผิดชอบอย่างไร เมื่อเรารักตนเองอย่างสร้างสรรค์มาก เราก็ยิ่งจะมอบความรักที่สวยงามนี้กับคู่ของเราได้อย่างดี สำหรับความรักในวัยเรียนกับเรื่องเพศสัมพันธ์ไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้ว่ามักมาคู่กัน แต่เราเองก็ต้องยอมรับว่าการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นวัยเรียนนี้เป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันได้อย่างดีเยี่ยมในวัยที่ยังไม่ถึงเวลาอันควร และการปฏิเสธก็ไม่ได้มีความหมายว่าเราไม่รักแฟนของเรา ตรงกันข้ามกลับทำให้เรียนรู้ว่าการรู้จักอดทนรอได้จะทำให้ความรักและเพศสัมพันธ์เป็นไปอย่างมีคุณภาพหรือมีคุณค่ามากขึ้นเมื่อถึงวัยที่พร้อมแล้ว นอกจากนี้เราก็จะได้พิสูจน์รักแท้ของเราด้วยว่าคู่ของเรายินดีที่จะรัก ดูแลรับผิดชอบด้วยความจริงใจและเห็นคุณค่าของเราแค่ไหน
2. หากเราตัดสินใจที่จะมอบความรักผ่านภาษากายด้วยกันแล้ว การป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัยพร้อมกับรับประทานยาคุมกำเนิดและการนับหน้า 7 หลัง 7 ควบคู่กันก็จะเป็นวิธีช่วยป้องกันที่ดีที่สุดไม่ให้ตั้งครรภ์และเป็นปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
อย่างไรก็ดีหากว่าเกิดการตั้งครรภ์หรือการท้องขึ้นมาในวัยเรียนแล้ว เราคงต้องตั้งสติให้ดีและ บอกกับตนเองว่า เราคงจะเก็บเรื่องนี้ไว้นานๆและแก้ไขเพียงลำพังคงไม่ได้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดลงไปควรลองทำตามลำดับ ดังนี้
(1) พูดกับคนรักหรือคนที่ทำให้ตั้งครรภ์ ถ้าคนรักรับผิดชอบเรื่องก็ง่ายขึ้น จากนั้นก็ถึงการตัดสินใจไปปรึกษาพ่อแม่ของแต่ละฝ่าย เตรียมใจที่จะรับการถูกตำหนิและความรู้สึกผิดหวัง เสียใจของพ่อแม่ไว้ก่อน ต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ของทั้งคู่จะร่วมกันช่วยวางแผนแก้ไขปัญหา ถ้าหากคุยแล้วผู้ชายไม่รับผิดชอบก็อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะเรายังมีคนที่รักและห่วงใยมากที่สุดอย่างแน่นอน คือ พ่อแม่ของเรานั่นเอง
(2) ถ้ามองไปแล้ว พ่อหรือแม่อาจไม่สามารถเป็นที่ปรึกษาได้ก็คงต้องหาญาติผู้ใหญ่ที่เรารักเป็นที่พึ่งที่ปรึกษานอกจากนี้หากเรายังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับใครและจะพูดอย่างไรดี ขอให้ลองใช้บริการปรึกษาทางโทรศัพท์ของหน่วยงานในสังกัด กรมสุขภาพจิตที่หมายเลข 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: กรมสุขภาพจิต
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต