“ล้างมือ” ช่วยลดการระบาดของโรคติดต่อในเด็ก

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า 


“ล้างมือ” ช่วยลดการระบาดของโรคติดต่อในเด็ก thaihealth


แฟ้มภาพ


ปัญหาความเจ็บป่วย และโรคติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนนั้นเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันปกป้องให้เด็กปราศจากโรคและลดการแพร่ระบาด เพราะเด็กถือเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศ


ข้อมูลจากนางอัมพร จันทวิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย เปิดเผยว่าวันที่ 15 ตุลาคม ของทุกปี สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN : UNITEDNATIONS) ได้กำหนดให้เป็นวันล้างมือโลก(Global Hand Washing Day) เพื่อเป็นการรณรงค์และกระตุ้นให้เด็ก เยาวชน และประชากรทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของการล้างมือด้วยสบู่อย่างถูกวิธีเป็นประจำ ตลอดจนเกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการป้องกันการติดเชื้อโรคที่สำคัญได้ทางหนึ่ง ข้อมูลจากองค์การยูนิเซฟ พบว่าในแต่ละปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก เสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงประมาณ 3.5 ล้านคน และโรคปอดบวมประมาณร้อยละ 25 ในส่วนของประเทศไทย สำนักระบาดวิทยารายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 1 ตุลาคม 2561 มีผู้ป่วยอุจจาระร่วง 946,483 รายและมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 130,488 ราย เสียชีวิต 21 ราย และโรคมือเท้าปากมีผู้ป่วย 55,070 รายไม่มีผู้เสียชีวิต โดยมือของเราสามารถนำเชื้อโรคมากมาย สามารถติดต่อผ่านการสัมผัส ตัวอย่างโรคที่พบบ่อย เช่น


โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ วัณโรค หัดหัดเยอรมัน


โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วง โรคตับอักเสบชนิดเอ โรคบิด อหิวาต์ตกโรค โรคพยาธิ ชนิดต่างๆ ซึ่งติดต่อได้จากการที่มือปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้ แล้วหยิบจับอาหารรับประทานเข้าไป


โรคติดต่อจากการสัมผัสโดยตรง เช่น โรคมือเท้าปาก ตาแดง แผลอักเสบที่ผิวหนัง หิด เหา โรคเริม


โรคที่ติดต่อได้หลายทาง เช่น โรคอีสุกอีใส อาจติดต่อได้จากการหายใจ และการสัมผัส


วันล้างมือโลกในปี 2561 เน้นการจัดกิจกรรมในรูปแบบ “ขอให้ทุกคนมีมือที่สะอาด : Let’s give everyone a clean hand” ซึ่งไม่ใช่เพียงเป็นการเตือนให้เราทราบว่าการล้างมือเป็นการป้องกันสุขภาพ แต่ยังรวมถึงเป็นการเสริมสร้างอนาคต สุขภาพด้วยมือเราอีกด้วย ซึ่งต้องสร้างพฤติกรรมด้านสุขอนามัยในเรื่องสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีเป็นประโยชน์ต่อตัวเรา ครอบครัว และชุมชน การล้างมือเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ประหยัดและเสียค่าใช้จ่ายน้อย ซึ่งมีผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่าการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ที่ถูกวิธีเพียง 20 วินาทีหรือเท่ากับร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 2 รอบสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ดี


การสร้างเสริมพฤติกรรมการล้างมือที่ถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่มี 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ฝ่ามือถูกัน 2) ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว 3) ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว4) หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5) ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ 6) ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ 7) ถูรอบข้อมือ โดยทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง


ารล้างมือด้วยวิธีการข้างต้น เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ เสียค่าใช้จ่ายน้อยและสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ดี ดังนั้นจึงควรปลูกฝังการสร้างสุขอนามัยที่ดีให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มวัยให้รู้จักวิธีการล้างมือที่ถูกต้องและมีการปฏิบัติเป็นประจำเพื่อให้เกิดนิสัยรักสุขภาพโดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่งท่าอากาศยาน ตลาดสด ศูนย์อาหารหรือสถานที่อื่นๆ ที่ไปร่วมกิจกรรม เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยตระหนักถึงความสำคัญของการล้างมือโดยให้ยึดหลัก 2 ก่อน5 หลัง ได้แก่ 2 ก่อน คือ ก่อนทำอาหาร และก่อนรับประทานอาหาร ส่วน 5 หลัง ได้แก่ หลังเข้าห้องส้วม หลังหยิบจับสิ่งสกปรก หลังเยี่ยมผู้ป่วย หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์ และหลังกลับมาจากนอกบ้าน)


เตือนการแพร่ระบาด 5 โรคติดต่อในเด็ก


ข้อมูล รศ.พล.ต.หญิง พญ.ฤดีวิไล สามโกเศศ อุปนายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.-ต.ค.ของทุกปี มีเด็กจำนวนมากที่เป็นโรคติดเชื้อต่างๆ เข้ามาพบแพทย์จนล้นโรงพยาบาล ซึ่งติดมาจากทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมถึงคุณครูและผู้ดูแลเด็กควรเฝ้าระวัง หากเด็กไม่สบายควรให้หยุดเรียนและรีบไปพบแพทย์ อย่าคิดว่าไม่เป็นไร เพราะบางโรคหากไม่รีบรักษาอาจร้ายแรงถึงชีวิต โดยโรคที่พบบ่อย ได้แก่ 1) โรคไวรัส RSV ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ซึ่งมีการระบาดอย่างมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะเด็กเล็กต่ำกว่า 3 ขวบ สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ละอองจากการไอ จาม โดยเฉพาะการติดต่อจากการสัมผัส 2)โรคมือเท้าปาก 3) ไข้หวัดใหญ่ 4) โรคคออักเสบซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย บางคนเข้าใจว่าโรคนี้ไม่อันตราย แต่เด็กที่ติดโรคนี้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ แล้วมีผลต่ออวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจ (ไข้รูมาติก) หรืออาจมีอาการไตวายจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และ 5) ท้องเสีย ทั้งนี้เพราะด้วยสภาพอากาศในช่วงฤดูฝน ท้องฟ้าปิด อากาศไม่ปลอดโปร่ง เชื้อโรคต่างๆ ก็มักจะสะสมอยู่ตามจุดอับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถโรงเรียน ห้องเรียน ศูนย์เด็ก หรือเนอร์สเซอรี่ต่างๆ ที่มีเด็กๆ รวมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่แออัดก่อให้เกิดโรคติดต่อในเด็กได้ง่ายและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว


สถานที่เหล่านี้ มีผลต่อเด็กๆ เป็นอย่างมาก หากเด็กติดเชื้อก็จำเป็นต้องขาดเรียน อาจส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา คือเรียนไม่ทันเพื่อน ขาดความมั่นใจในการเรียน ทำให้ไม่อยากมาเรียนหรือบางครั้ง เมื่อเด็กป่วย เช่น เป็นหวัด ผู้ปกครองอาจคิดว่าไม่เป็นไร 2-3 วันก็หายเองได้ จึงไม่ให้ลูกหยุดเรียน เพราะกลัวเรียนไม่ทันเพื่อน แต่นั่นจะทำให้การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อลามไปสู่เด็กอื่นๆ ได้โดยง่าย จากการไอ จามต่างๆ โดยเชื้อโรคจะติดตามเสื้อผ้า ภาชนะ สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงของเล่น ภายในห้องเรียน เมื่อเพื่อนมาสัมผัสเชื้อเหล่านั้น บางรายก็ติดไปถึงผู้ปกครองซึ่งมือถือเป็นต้นกำเนิดแห่งการนำพาเชื้อไปสู่ร่างกาย โดยเชื้อโรคจะติดที่มือนานถึง 30 นาที หากไปสัมผัสดวงตา ขยี้จมูก หยิบจับอาหารเข้าปาก ก็จะติดเชื้อได้


นอกจากนี้ ยังมีการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจำนวนมาก แม้ว่าทางโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กต่างๆ ได้ทำการทำความสะอาดห้องเรียน รวมไปถึงของใช้ต่างๆ ภายในห้องแล้ว แต่ยังมีเด็กติดเชื้ออยู่ เนื่องจากโรคนี้เชื้อโรคจะติดอยู่ในลำไส้เด็กนานนับเดือน หากเด็กมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ก็จะสามารถกลับมาเป็นโรคนี้ได้อยู่เสมอ ฉะนั้นการใส่ใจเรื่องความสะอาด ล้างมือก่อนทำกิจกรรมต่างๆทุกครั้ง จะช่วยลดการติดเชื้อต่างๆ ได้


หัวใจสำคัญของการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อต่างๆ ก็คือ การล้างมือ แม้หน่วยงานต่างๆร่วมรณรงค์แต่ก็ยังมีการติดเชื้อเป็นจำนวนมาก จึงอยากจะขอให้ผู้ปกครองและโรงเรียนใส่ใจเรื่องการป้องกัน ก็จะช่วยลดโรคติดเชื้อได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ด้วยการล้างมือด้วยสบู่เพราะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้ถึง 50% เพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนรวมไปถึงคนรอบข้างด้วย


ล่าสุด มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ ร่วมกับกรมอนามัย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข โพรเทคส์ และ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด รณรงค์เดือนแห่งการล้างมือ เนื่องใน “วันล้างมือโลก 2018” ภายใต้แนวคิด “มือสะอาด สร้างฝัน” เพื่อกระตุ้นให้พ่อแม่และเยาวชนได้เห็นความสำคัญของการล้างมือถูกวิธีเป็นประจำถือเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีและเป็นวิธีการง่ายๆ ที่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เด็กเพราะเมื่อไม่ป่วยบ่อย ก็ไม่ต้องขาดเรียนจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัย สามารถพัฒนาตัวเองเพื่อมุ่งสู่อาชีพในฝันของตนเองได้

Shares:
QR Code :
QR Code