ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ ของเล่นปนเปื้อนสาระเหย
สคบ.ส่งลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือลูกโป่งพลาสติก ของเล่นในวันเยาว์ที่มีช้านาน ให้กรมวิทยาศาสตรการแพทย์ สธ. ตรวจพบปนเปื้อน “สารระเหย” ที่นับเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง เมื่อสูดดม หรือเป่าเข้่า-ออก นานๆ ส่งผลให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมสภาพอาจถึงตายได้ ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานห้ามซื้อ ห้ามเล่นเด็ดขาด
แฟ้มภาพ
อำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า คณะกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภคประกาศให้ “ลูกโป่งวิทยาศาสตร์” หรือ “ลูกโป่งพลาสติก” หรือ “Blowing balloon” เป็นสินค้าอันตรายต่อชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็ก เพราะมองว่าเป็นของเล่นที่มีมานาน ทำให้มองข้ามถึงพิษภัยและปัญหาที่จะส่งผลกระทบกับร่างกายของเด็กในระยะยาว โดย สคบ. ได้ส่งตัวอย่างสินค้าที่ตรวจพบไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทำการตรวจสอบวิเคราะห์ส่วนประกอบของสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยผลการตรวจวิเคราะห์พบว่าในลูกโป่งวิทยาศาสตร์มี “สารเอทิลอาซีเทต” ซึ่งจัดเป็น สารระเหย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้ ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือลูกโป่งพลาสติก จัดอยู่ในประเภทสารระเหย ที่นับเป็นยาเสพติด สูดดมสาระเหยทำให้เกิดอันตรายต่อระบบต่างๆ ในร่างกายจนอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
“ผลกระทบและอันตรายที่จะได้รับจากลูกโป่งวิทยาศาสตร์นั้น พอๆ กับการเสพสารระเหย เพราะของเล่นชนิดนี้ลักษณะการเล่นคือต้องเป่า ถ้าเป็นเด็กอาจมีการสูดดม หรือหายใจเข้าออกนำสารระเหยเข้าสู่ปอดได้หลายครั้ง ถือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพสำหรับเด็กเล็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์”
เลขาธิการ สคบ.กล่าวต่อไปว่า ในทางการแพทย์แบ่งลักษณะการเกิดพิษจากสารระเหยออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ชนิดที่เกิดพิษระยะเฉียบพลัน จะทำให้ผู้ได้รับสารระเหยชนิดนี้มีอาการร่าเริง ตื่นเต้น ต่อมาจะมีอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดจาอ้อแอ้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอาการระคายเคืองต่อเยื่อบุภายในปากและจมูก มีน้ำลายไหลมาก มีผลกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้นอนไม่หลับ ต่อมาจะมีฤทธิ์กดทำให้ง่วงซึม หมดสติ ถ้าเสพขนาดสูง สารระเหยจะไปกดศูนย์หายใจ อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ยังพบอาการจาม ไอ คลื่นไส้ ท้องเสีย สั่นและชักแบบลมบ้าหมูและ ชนิดที่มีพิษระยะเรื้อรัง เกิดจากการสูดดมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมสภาพ
“ด้วยเหตุนี้ สคบ.จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค สั่งห้ามขายลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือลูกโป่งพลาสติกออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนนำออกมาขายเป็นระยะ โดดเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าโรงเรียน ทั้งนี้ ผู้ขายสินค้าที่มีคำสั่งห้ามขายมีโทษหนัก ผู้ขายมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าเป็นผู้ผลิต หรือเป็นผู้สั่ง หรือนําเข้าเพื่อขาย มีโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”
นอกจากนี้ต้องขอความร่วมมือไปยังผู้ปกครองและสถานศึกษา ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลลูกหลานของท่าน อย่าซื้อลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือลูกโป่งพลาสติก เพราะจะเป็นอันตรายต่อลูกหลานของเราโดยตรง จึงควรร่วมกันดูแลจากทุกฝ่าย ถ้าผู้ใดพบการขาย หรือโฆษณาทางสื่อต่างๆ แจ้งได้ที่สายด่วน สคบ.1166 หรือ www.ocpb.go.th
ที่มา : http://www.komchadluek