ลำปาง ลดเสี่ยง ลดอ้วนในสามเณร
ที่มา : เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
โรงเรียนวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง แห่งนี้เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ มีสามเณรนักเรียน 235 รูป ครู 13 รูป บุคลากรอื่นๆ จำนวน 6 คน ปัจจุบันมีสามเณรที่มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน จำนวน 27 รูป
โดยปี 2558 ที่ผ่านมาได้รับคัดเลือกจากสำนักงานโครงการสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เป็นโรงเรียนดำเนินงานศูนย์ส่งเสริมสุขภาพสามเณรต้นแบบระดับจังหวัด เพื่อดำเนินกิจกรรมวัดส่งเสริมสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ เข้าใจ ให้แด่พระภิกษุ สามเณรและชุมชน เกี่ยวกับความสำคัญด้านโภชนาการและการบริหารกายที่เหมาะสมกับสมณสารูปเพื่อป้องกันโรคอ้วน ด้วย 5 กิจกรรมหลัก คือ 1. ประเมินสุขภาพของสามเณร ได้แก่ การตรวจร่างกายและการประเมินภาวะโภชนาการ 2. ส่งเสริมและให้คำแนะนำเรื่องการบริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการแก่พระภิกษุและสามเณร ให้ความรู้แก่ชุมชนในการจัดภัตตาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและถูกสุขลักษณะให้แด่พระภิกษุและสามเณร
เมื่อเร็ว ๆ นี้ระหว่างร่วมกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรศึกษาดูงานการดูแลสุขภาพสามเณรที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีวัดจำนวน 39,481 วัด มีพระสงฆ์จำนวน 290,015 รูป สามเณรจำนวน 58,418 รูป รวมเป็น 348,433 รูป ในขณะที่ปัญหาสุขภาพจากการสำรวจสถานการณ์สุขภาพพระสงฆ์และสามเณรพบอันดับต้น ๆ คือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือดและโรคอ้วน สาเหตุสำคัญมาจากอาหารที่ใส่บาตรทำบุญของประชาชนที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจและการตระหนักถึงผลเสียต่อการเจ็บป่วยของพระสงฆ์ และเรื่องขาดการออกกำลังกาย กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยได้จัดทำโครงการพระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะขึ้น เป็นการสนับสนุนมติมหาเถรสมาคมและมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่กำหนดให้มีการขับเคลื่อนงาน"พระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะ" โดยได้ดำเนินกิจกรรม "วัดส่งเสริมสุขภาพ" เพื่อสนับสนุนให้เกิดต้นแบบวัดส่งเสริมสุขภาพและเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับวัดอื่นๆในการพัฒนาวัดให้เป็นวัดส่งเสริมสุขภาพต่อไป
3. ส่งเสริมการบริหารกาย ให้สามเณรปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และบริหารกายแบบโยคะหรือด้วยอุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ ที่เหมาะสมแก่สมณสารูป และจัดหาอุปกรณ์การบริหารกายพื้นฐานให้แก่โรงเรียน 4. เสริมสร้างความตระหนักรู้ เข้าใจ แด่พระภิกษุ สามเณร และประชาชน จัดให้มีเอกสาร สื่อการเรียนรู้ด้านอาหารโภชนาการและสุขภาพอนามัย โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาวะพระภิกษุ สามเณรอย่างเป็นองค์รวม 5. ติดตามเฝ้าระวังสุขภาวะของสามเณร เพื่อควบคุมป้องกันและแก้ไขภาวะอ้วนและเริ่มอ้วน รวมทั้งเพื่อส่งเสริมสุขภาพของสามเณรอย่างเป็นองค์รวม โดยติดตามภาวะโภชนาการ การบริโภคอาหาร การบริหารกาย และการดูแลสุขอนามัยของสามเณรเป็นระยะ ๆ และมีการรายงานผลการเฝ้าระวังสุขภาพให้พระภิกษุ สามเณรและชุมชนได้รับทราบ เพื่อร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานต่อไป" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ในขณะที่ แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวระหว่างนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ศึกษาดูงานการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่เทศบาลตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ว่ากรมอนามัยได้ดำเนินการการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุด้วยแนวคิด "ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย" หรือ 4 Smart ได้แก่ 1. Smart Walk คือการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที ด้วยการบริหารร่างกายท่าต่าง ๆ เดินอย่างสม่ำเสมอทุกวันอย่างน้อยวันละ 6,000-8,000 ก้าวในผู้สูงอายุที่ปกติ สำหรับผู้สูงอายุที่สุขภาพไม่แข็งแรงอาจจะเริ่มต้นที่ 3,000 ก้าวหรือเดินแบบสะสมเฉลี่ยวันละประมาณ 3 กิโลเมตร และการจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมและปลอดภัยกับผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการหกล้ม 2. Smart Brain คือการดูแล ฝึกทักษะทางสมองด้วยการเล่นเกมต่าง ๆ เพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อม 3. Smart Sleep & Emotional คือการนอนหลับอย่างเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการกินอาหารและการออกกำลังกายก่อนนอน การส่งเสริมสุขภาพจิตและอารมณ์ เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมในชมรมผู้สูงอายุ และ 4. Smart Eat คือการกินอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ ลดอาหารรสหวาน มัน เค็ม เน้นผัก ผลไม้ เลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง เช่น ปลาทะเล ซึ่งมีกรดโอเมก้า 3 สูง ช่วยบำรุงประสาท สายตา และสมอง รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร