ร่วมทำความดีถวายพ่อหลวง ในโอกาสมหามงคลครบ 7 รอบ
เนื่องในโอกาสปีมหามงคลในปี 2554 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา นับเป็นปีมหามงคลอีกวาระหนึ่งที่ทรงคุณค่าและความปลาบปลื้มต่อพสกนิกรชาวไทยยิ่งนัก และแม้ปีนี้ ประเทศไทยจะพบเจอปัญหามหาอุทกภัย วิกฤติครั้งใหญ่ที่ชาวไทยต้องร่วมก้าวผ่านไปพร้อมกันก็ตาม แต่ความยึดมั่นในความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของชาวไทย ยังความสำนึกอยู่ทุกผู้คน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกรณียกิจที่มากมายและยังความประโยชน์ต่อประเทศ นานัปการยิ่ง โดยโครงการพระราชดำริต่างๆ นั้น พระองค์ทรงมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาคน โดยจากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ได้กล่าวถึงหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระราชดำรัสของพระองค์ท่านความว่า “ต้องระเบิดจากข้างใน” นั้นหมายความว่า ต้องมุ่งพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้คนและครอบครัวในชุมชน ที่เข้าไปพัฒนาให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำเอาความเจริญจากสังคมภายนอกเข้าไปหาชุมชนและหมู่บ้าน ซึ่งหลายชุมชนยังไม่ทันได้มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งตัว จึงไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่ความล่มสลายได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปี่ยมไปด้วยพระอัจฉริยภาพในการแก้ไขปัญหา ทรงมองปัญหาในภาพรวม (Macro) ก่อนเสมอ แต่การแก้ปัญหาของพระองค์จะเริ่มจากจุดเล็กๆ (Micro) คือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่คนมักจะมองข้าม ในการทรงงานพระองค์จะทรงเริ่มต้นจากสิ่งที่จำเป็นของประชาชนที่สุดก่อน ได้แก่ สาธารณสุข เมื่อมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้วก็จะสามารถทำประโยชน์ด้านอื่นๆ ต่อไปได้จากนั้นจะเป็นเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและสิ่งจำเป็นในการประกอบอาชีพ อาทิ ถนน แหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค ที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการให้ความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีที่เรียบง่าย เน้นการปรับใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ราษฎรสามารถนำไปปฏิบัติได้และเกิดประโยชน์สูงสุด
ประเภทของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย การพัฒนาแหล่งน้ำ การเกษตร สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมอาชีพ คมนาคมสื่อสาร และสวัสดิการสังคม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง“ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ขึ้นตามภูมิภาคต่างๆ จำนวน 6 ศูนย์ โดยมีแนวทางให้เป็นการสาธิตการพัฒนาเบ็ดเสร็จ เป็นสถานที่สำหรับค้นคว้า วิจัยในท้องที่ และสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรองดองกัน
สำหรับ 6 ศูนย์นั้นประกอบด้วย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน ,ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง
สำหรับปีนี้ เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ประชาชนกว่า 6ล้านคนต้องประสบกับมหาอุทกภัยน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ รัฐบาลจึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติอย่างเรียบง่าย หากแต่สมพระเกียรติ ซึ่งกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3-9 ธ.ค.54 ศกนี้
ขณะที่หลายหน่วยงานต่างร่วมจัดกิจกรรมและเชิญชวนร่วมกิจกรรมทำดีถวายพ่อมากมาย อาทิ เสถียรธรรมสถานขออาสาเป็นผู้รับใช้ร่วมสร้างรอยยิ้มให้คนไทย โดยการใช้เครื่องมือสื่อสารที่เรียกว่า Application บอกเล่า “ความสุขที่เป็นไท…ไม่เป็นทาส” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ โดยเชิญทุกคนร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของการถวายรอยยิ้มแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ยิ้มของลูก คือรอยยิ้มของพ่อ” กับ Application Share Smiles โดยเข้าไปที่
เพียงเท่านั้น รูปของคุณก็จะปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้อความที่ทุกคนร่วมกันถวายพระพรรวมทั้งรูปถ่าย จะถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสต่อไป และหลังเที่ยงคืนของวันที่ 9 มกราคม 2555 สามารถเข้าไปดาวน์โหลดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีภาพของคุณปรากฏอยู่ได้ เพื่อเป็นหนึ่งในเกียรติประวัติของชีวิตที่มีโอกาสร่วมทำให้พ่อชื่นใจ
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีมหามงคล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา อยากเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมงดเหล้าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และกระทำต่อเนื่องจากการงดเหล้าช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีแก่เด็กและเยาวชนด้วย ใช่เพียงจะกระทำเฉพาะเทศกาลสำคัญเท่านั้น เพราะนับเป็นการปฏิบัติบูชาที่ดี นอกจากนั้นยังสามารถกระทำด้วยการงดเหล้าตลอดชีวิตเพื่อถวายแด่พระองค์ท่านอีกด้วย เพราะนอกจากจะช่วยทั้งเรื่องสุขภาพที่ดีแล้วยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ขณะที่ นพ.พรหมมินทร์ กันธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า ช่วงหลังจากนี้เป็นช่วงการฟื้นฟูน้ำท่วม ดังนั้นการจะร่วมทำความดีเพื่อถวายพ่อหลวงก็อยากให้มุ่งไปที่การร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูสถานการณ์ที่เสียหายทำดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือเป็นอย่างมาก เช่น วัด สถานที่ราชการ และโรงเรียน ซึ่งในหลายพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้ว เราจะพบเศษวัสดุ เศษไม้ เศษหิน ทราย และป้ายจราจรต่างๆ ที่วางอยู่บนไหล่ทาง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย หากผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถไม่ระมัดระวัง อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุอยู่ระหว่างการประสานในพื้นที่ทำความสะอาด บูรณะซ่อมแซมและจัดระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น จ.อุทัยธานี พิษณุโลก ลพบุรี เป็นต้น
จะเห็นแล้วว่าการทำดีในหลากหลายรูปแบบ นอกจากจะตั้งมั่นเพื่อร่วมถวายแด่พ่อหลวงของชาวไทยแล้ว การทำดี ยังเป็นอีกสิ่งที่เป็นมงคลต่อชีวิต และยังทำให้ใจเป็นสุข รับปีมหามงคลอันยิ่งใหญ่อีกด้วย
เรื่องโดย :สุนันทา สุขสุมิตร Team content www.thaihealth.or.th