รู้ทัน โรคอุจจาระร่วง
ที่มา : มติชน
แฟ้มภาพ
โรคอุจจาระร่วง หรือโรคลำไส้อักเสบ พบได้บ่อยในคนทุกวัยต้องใส่ใจความสะอาด
รศ.นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ ให้ข้อมูลว่า โรคนี้ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะในทารก เด็ก เพราะมักเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากการ ดูแลความสะอาดของขวดนมไม่ดีพอ ในเด็กเล็กอายุ 3-4 เดือนขึ้นไป มักเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส เนื่องจากเด็กมักชอบ ดูดนิ้ว หรืออมสิ่งของต่างๆ ในเด็กอายุ 5 ขวบปีแรก มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโรต้า ในเด็กโต และผู้ใหญ่มักเกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรียที่ปะปนมากับอาหาร ที่เรียกว่า "อาหารเป็นพิษ" ส่วนเชื้อแบคทีเรีย เช่น อหิวาห์ บิด ไทฟอยด์ ฯลฯ ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ แต่ปัจจุบันพบน้อยมาก
ผู้ป่วยอาจมีไข้ มักมีอาการอาเจียนนำมาก่อนที่จะมีอาการท้องเสียตามมา และอาจมีอาการปวดท้อง ร่วมด้วย ลักษณะของอุจจาระ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ และถ่ายเป็นมูกเลือด ผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียรุนแรงจะเกิดภาวะขาดน้ำ หรือถึงขั้นทำให้เกิดภาวะช็อก
ผู้ป่วยอุจจาระร่วงสามารถให้การดูแลรักษาเบื้องต้นที่บ้านได้ โดยให้กินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก เน้นอาหารจำพวกแป้ง มีโปรตีนเล็กน้อย หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเส้นใย ได้แก่ ผักและผลไม้ ลดปริมาณของอาหารในแต่ละมื้อ และเพิ่มจำนวนมื้ออาหาร ผู้ป่วยเด็กสามารถดื่มนมได้ตามปกติ โดยไม่ควรเจือจางนม ส่วนเด็กที่ดื่มนมแม่สามารถให้นมแม่ต่อไปได้
น้ำเกลือแร่ มีความสำคัญในผู้ป่วยที่ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ ให้ดื่มหรือจิบทีละน้อย แต่บ่อยๆ แนะนำให้ใช้ผงเกลือแร่ชนิดซองโดยผสมในน้ำดื่มในสัดส่วนตาม ที่ระบุไว้ที่ซอง พึงหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ท้องเสียโดยไม่จำเป็น ส่วนยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ มีประโยชน์ ในกรณีอุจจาระมีมูกเลือดหรือเป็นอหิวาตกโรค ผู้ป่วยที่มีไข้ อาเจียน และปวดท้อง สามารถให้ยาตามอาการได้ ผู้ป่วยที่ดื่มน้ำได้ไม่เพียงพอ อุจจาระมีมูกเลือด ขาดน้ำอย่างมาก หอบเหนื่อย ซึมลง ไข้สูง หรืออาการท้องเสียไม่หายภายใน 4-5 วัน ควรพบแพทย์เพื่อ หาสาเหตุและให้การรักษาที่ถูกต้อง
โรคนี้ป้องกันได้โดยการกินอาหารที่ปรุงสุกและน้ำดื่มสะอาด ส่วนในเด็กป้องกันได้ด้วยการดื่มนมแม่ ต้มหรือนึ่งขวดนมและจุกนมก่อนใช้ทุกครั้ง
สำหรับวัคซีนป้องกัน ประกอบด้วย วัคซีนโรต้า แนะนำในเด็กเล็ก ส่วนวัคซีนไทฟอยด์ แนะนำสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรคไทฟอยด์ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เป็นต้น