รู้จัก ‘นักสื่อสารสุขภาวะ’

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


รู้จัก 'นักสื่อสารสุขภาวะ' thaihealth


คงไม่ต้องเอ่ยถึงความสำคัญของ "สื่อ" ในปัจจุบันว่ามีอิทธิพลต่อความคิดและวิถีชีวิตคนยุคนี้มากแค่ไหน


แต่อีกประเด็นสำคัญกว่าคือ สื่อในวันนี้มีอยู่รอบตัว นอกเหนือจากสื่อมวลชน สังคมยังมีสื่อโซเชียลมีเดีย หรือคนใกล้ตัวอย่าง ครอบครัว คุณครู คนในชุมชนก็ล้วนเป็นสื่อที่สามารถ เปิดทั้งโลกการเรียนรู้และหล่อหลอม ให้เด็ก เยาวชนหรือสมาชิกทุกคน ในสังคมเติบโตและมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงตามการชี้นำได้


จากความตระหนักถึงบทบาทสื่อดังกล่าว นำมาสู่แรงบันดาลใจของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ได้มุ่งการสนับสนุนให้คนไทยฉลาดใช้สื่อเป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่วิถีชีวิตสุขภาวะ และเสริมสร้างปัจจัยที่จะโน้มนำคนไทยให้มีวิถีชีวิตสุขภาวะท่ามกลางบริบท ของสังคมในยุคศตวรรษที่ 21 โดยการตั้งเป้าปั้นนักสื่อสารสุขภาวะกว่า 3,600 คน ครอบคลุม 45 จังหวัด เพื่อเป็นอีกเครื่องมือนำไปสู่วิถีชีวิตสุขภาวะทั่วประเทศภายในปี 2563


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. เล่าถึง แนวทางดังกล่าวว่า คือหนึ่งในโครงการ ของแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา ที่สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะมุ่งการสนับสนุนให้ 'คนไทยฉลาดใช้สื่อเป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่วิถีชีวิตสุขภาวะ' ด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสื่อสุขภาวะที่สนับสนุนให้ประชาชนเป็นผู้ใช้และผู้สร้างสรรค์สื่อ (media users and creators) ที่ฉลาดรู้ด้านสุขภาพ (health literacy) และตื่นรู้ทางปัญญ


รู้จัก 'นักสื่อสารสุขภาวะ' thaihealth


โดยการส่งเสริมศักยภาพ 'ผู้ใช้สื่อ' สู่การเป็น 'พลเมืองตื่นรู้และนักสื่อสาร สุขภาวะ' ที่มีทักษะ 4 ด้านสำคัญ คือ 1. การรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัล (MIDL – Media, Information and Digital Literacy) 2. การสื่อสารและ การสร้างความร่วมมือ 3. การเป็นผู้นำ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง 4. การตระหนักรู้เท่าทันและการสะท้อนความคิด


"โดย สสส. ได้ดำเนินการพัฒนา นักสื่อสารสุขภาวะและผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญามากกว่า 3,600 คน ในระดับพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 45 จังหวัด และมีเป้าหมายในการดำเนินงานพื้นที่ให้ครอบคลุม 77 จังหวัดภายในปี 2563" ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว


รู้จัก 'นักสื่อสารสุขภาวะ' thaihealth


เข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) ยอมรับว่า อิทธิพลของสื่อมีอิทธิพลต่อเด็ก ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ในการหล่อหลอมเติบโตไปเป็นแบบอย่างในสังคม ดังนั้น สื่อที่ สสส. จัดทำจึงเกิดจากปัจจัยที่แวดล้อมจากตัวเด็ก โดยผู้ที่มีศักยภาพในการรับรู้ และสามารถสร้างสื่อเรียนรู้ ขึ้นมาเองได้ ซึ่งมียุทธศาสตร์และ วิธีดำเนินงาน ผ่านกลไก 3 E คือ


(Empower) พัฒนาศักยภาพของนักสื่อสารสุขภาวะ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา (Engagement) พัฒนากลไกและปัจจัยแวดล้อมที่สร้างการมีส่วนร่วมทุกระดับ และ (Enable) จัดให้มีทรัพยากรและช่องทางสื่อสารแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา


รู้จัก 'นักสื่อสารสุขภาวะ' thaihealth


ด้าน ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ ผู้อำนวยการร่วมโครงการธนาคารจิตอาสา อธิบายว่า การมีสุขภาวะทางปัญญา คือ สุขภาวะด้านบวก ที่มีอยู่ในพื้นฐานของทุกคนในทัศนคติที่เอื้อต่อจิตใจ เข้าใจ ในความดี การให้ และการแบ่งปัน จนเกิดสุขจากภายใน ที่ไม่ได้เกิดจากสิ่งของ ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือแข็งแรง ก็สามารถมีสุขภาวะทางปัญญาที่ดีได้


ที่ผ่านมาหนึ่งในงานหลักที่ สสส. พยายามขับเคลื่อนกับภาคีเครือข่าย คือ งานธนาคารจิตอาสา เป็นการสนับสนุนให้ทุกคนลุกขึ้นมาเป็นผู้ช่วยกันสร้างสุขภาวะ และช่วยฟื้นฟูงานอาสาสมัคร และเกิดแผนงานจิตอาสาเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นแผนงานที่ส่งเสริมเรื่องสุขภาวะทางปัญญา


ส่วนนักสื่อสุขภาวะจะเป็นอีกเครื่องมือ ที่นำไปสู่การพัฒนากลไกและปัจจัยแวดล้อมที่สร้างการมีส่วนร่วมทุกระดับ รวมถึงการจัดให้มีทรัพยากรและปัจจัยที่ จำเป็นต่อการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายของการมีสุขภาวะทั้งทางกายและปัญญา

Shares:
QR Code :
QR Code