รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง “เสียงที่ไม่ได้ยิน”

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ภาพโดย สสส.


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


เหตุผลหนึ่งของความเหลื่อมล้ำ อาจเกิดเพราะว่าแท้จริงแล้ว โลกนี้ ยังมี "เสียง" อีกมากมายที่เรา ไม่เคยได้ยิน


เช่นเดียวกับเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ อาจต้องเริ่มจากการแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางโครงสร้างของสังคมโดยรวมเสียก่อน เพราะเหตุนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งรับผิดชอบโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ จึงได้สนับสนุนและดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดความ เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ ในประชากรกลุ่มต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง


ล่าสุด จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดการประชุมวิชาการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะขึ้น ในงาน เสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน : ประชากรกลุ่มเฉพาะ หรือ "Voice of the voiceless: the vulnerable populations" ที่อาจเป็นมหกรรมประวัติศาสตร์รวมตัว คนทำงานและจิตอาสาเพื่อกลุ่มคนชายขอบที่แท้จริงที่จัดขึ้นครั้งแรกของประเทศ  ในวันที่ 12-13 มิถุนายน 2562 ณ อิมแพค เมืองทองธานีที่จะถึงนี้ ซึ่งมีโอกาสได้ พูดคุยกับ ภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชาชนกลุ่มเฉพาะถึงแนวคิดการจัดงาน


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


…อยากให้เล่าที่มาของการจัดงาน…


เริ่มจากเราอยากได้พื้นที่เพื่อมาเจอกัน แต่พอชวนไปชวนมา นับไปนับมา อ้าว ทำไม มีเป็นพันคน ยิ่งพอรวมทั้งคนที่ได้รับประโยชน์ คนที่มีภารกิจเกี่ยวข้องด้วย เลยกลายเป็นหลายพันคน ซึ่งพวกเขาเห็นตรงกันว่าอยากเปิดพื้นที่ และพอดีมันเป็นช่วงที่ครบทศวรรษของการทำงานของ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ เราจึงมีงานนี้ขึ้น เพื่อให้ทุกคนมาคุยกัน


…ทำไมทุกคนถึงต้องมาเจอมาคุยกัน ในงานนี้?


คือต้องยอมรับว่างานตรงนี้เป็น  "งานที่ไม่ค่อยมีใครอยากทำ" บางคน พอทำงาน เจอแต่ปัญหาอุปสรรค ยิ่งทำงานกับความทุกข์ของคนนี่ บางทีมันก็ยิ่งถดถอยนะ ทำให้คนกลุ่มนี้เขาอยากได้พื้นที่แลกเปลี่ยนกัน เพราะเขาเจออุปสรรค เห็นความทุกข์ต่างๆ ที่เขาต้องเผชิญ เรามองว่า เป็นการเติมพลังให้กับทุกคนที่ทำงานด้านนี้ มารับพลังใจ เป็นการเยียวยาจากคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจต่อในการทำงาน หรือแลกเปลี่ยนเพราะอุปสรรคที่เราเคยเจอ บางทีเพื่อนเราก็เคยเจอกันมาก่อน แล้วเขาพัฒนาการงานอย่างไร แน่นอนว่ามันไม่ได้เหมือนกันทีเดียว อย่างงานคนพิการมีกฎหมายที่แข็งแรงมากเพราะเขาผลักดันกันมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ถ้ามองในกลุ่มคนไร้บ้าน วันนี้เขาอาจเพิ่งเริ่มต้น แต่บางประเด็นเขาก็เจอปัญหาไม่ต่างกัน ซึ่งคนไร้บ้านเองอาจมาเรียนรู้ประสบการณ์คนที่ทำงานเรื่องคนพิการว่าเขาเดินไปได้อย่างไร


จริงๆ พวกนี้มันเป็นเรื่องก้อนหินในรองเท้าที่ไม่มีใครอยากฟังมันเท่าไหร่ มันเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังมากกว่านั้น ในการจัดงานครั้งนี้ คือ "เสียง" สะท้อนของพวกเขา ที่เราคิดมาตลอดว่าอยากให้คนอื่น (ในสังคม) ได้ยินเสียงเหล่านี้จังเลย เราไม่อยากแค่คุยกันเอง แต่เราอยากบอกคนอื่นด้วย


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


…มีใครที่อยากบอกเป็นพิเศษ?


ก็มีตั้งแต่ตัวเขาเองคนที่เป็นเจ้าของเรื่อง ไปจนถึงผู้กำหนดนโยบาย ภาครัฐ คนในสังคมคนปกติทั่วไป หรือใครที่สามารถอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง คนที่มีหน้าที่ที่เข้ามาจัดการเรื่องนี้ คือเราเข้าใจว่าบางทีกว่าสิบปี หลายภาคส่วนมันเปลี่ยนไปแล้วทั้งคนหรือนโยบาย รวมถึงภารกิจที่เราเคยบอกกับเขา เราจึงอยากจะสะกิดเตือนถามเขาว่า เขายังคง รับรู้เรื่องที่เราเคยส่งเสียงของปัญหาของเราไปแล้วไหม และมันไปถึงไหน


อย่างเรื่องแรกๆ เลย รถเมล์ชานต่ำ ที่เราเคยพูดไว้เมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนนี้ เขาเปลี่ยนทีม แล้วจะมาบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน มันใช่หรือ เรื่องสิทธิ์สถานะที่เราเคย เรียกร้องมาตั้งแต่สิบปีที่แล้ว คุณลืมไปหรือยัง


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


นอกจากนี้ในเรื่องทัศนคติของคนทั่วไปหรือสังคมที่มองคนกลุ่มนี้ มันควรมีกลไกอะไรที่จะเข้าไปเสริมเขา มองว่าทุกกลุ่มจำเป็นต้องได้รับการเพิ่มเติมศักยภาพ ให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเอง นี่คือส่วนของ สสส.กับภาคีจะมาคุยกันว่าควรเติมหรือสร้างแรงบันดาลใจระหว่างกันได้อย่างไร ซึ่งมันต้องอาศัยเครื่องมือและตัวช่วยภายนอก


เราคิดว่าทุกภาคส่วนจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วมในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพราะที่จริงมันเลยจากบทบาท ของ สสส.ไปเยอะมาก กลายเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ อย่างเช่นเรื่องการจ้างงานผู้พิการ ดังนั้นก็ควรมีส่วนร่วมหมด


ซึ่งไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น ในระดับพื้นที่หรือคนในสังคมก็มีปัญหานี้ ถ้าเราสามารถทำให้หน่วยงานท้องถิ่นอย่าง อบต.หรือคนในท้องที่ต่าง ๆ เห็นความสำคัญเรื่องนี้และจัดสรรทรัพยากรในพื้นที่มาช่วยกันผลักเรื่องนี้ต่อไปได้ เราถึงมีการเชิญภาคท้องถิ่นประมาณ เกือบ 40 แห่ง รวมไปถึงภาคเอกชนต่าง ๆ


…การมีงานนี้แล้วสังคมโดยรวมจะได้อะไรบ้างไหม?


ทุกคนอาจจะได้เห็นปัญหาชัดขึ้น ว่าปัญหาพวกนี้ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย เราวิเคราะห์ให้ทุกคนเห็นลึกกว่านั้นว่าสถานการณ์แท้จริงมันคืออะไร


เราไม่อาจบอกได้ว่าคนในสังคมฟังแล้วจะต้องมาช่วยอะไร แต่ยอมรับว่าเราแอบหวังว่าเขาจะเลือกและตัดสินใจเองว่าเขาสามารถช่วยอะไรได้บ้าง อย่างน้อยที่สุดที่เราคาดหวังคือเขาเข้าใจและมีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้น ไม่เป็นอุปสรรค ไม่ดูถูกหรืออคติคนกลุ่มนี้ เราอยากให้เขาฟังเสียงที่เขาไม่เคยฟัง เพราะถ้าแค่คนทั่วไปไม่มีอคติต่อคนกลุ่มนี้ เชื่อว่ามันลดปัญหาได้ส่วนหนึ่งแล้ว


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


…ไฮไลต์ในงานมีอะไร ที่น่าสนใจบ้าง?


เริ่มจากในเรือนจำ สสส. ทำงานหลักคือ การส่งเสริมสุขภาวะใน เรือนจำ เรามีข้อมูลเด่นชัดว่าสถานการณ์สุขภาพของคนในเรือนจำเป็นอย่างไร แย่แค่ไหน อะไรที่จำเป็นต้องเพิ่ม เราจะมาพูดถึงสิทธิ์ของผู้ต้องขัง เพราะต้องยอมรับ ความจริงว่าเมื่อเข้าไปมันก็ยังมีชนชั้นอยู่ในนั้น หรือทำไมพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกไปเยี่ยม แตะเนื้อต้องตัวผู้ต้องขังไม่ได้ ทำไมเขาไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้ข่าวสาร เขาอยู่ในนั้นเป็นสิบปีเขาออกมาจะปรับตัวทันตามโลกยุคใหม่ได้ยังไง เราจะมาคุยกันว่าสิทธิ์มันควรอยู่แค่ไหน แล้วคำว่า "เรือนจำสุขภาวะ" จะเข้าไปลดได้อย่างไร และในงานเราจะ มีเสียงจากอดีตผู้ต้องขัง คือ หมอเลี้ยบ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี จะมาถ่ายทอดประสบการณ์และทัศนะในฐานะ ของหมอที่เคยเข้าไปอยู่ในเรือนจำ         


อีกเรื่องคือผู้ต้องขังหญิงก็มีปัญหาความไม่เป็นธรรมด้านสุขภาพในมิติต่าง ๆ ขณะที่ผู้หญิงในสังคมที่พิการต้องเจอกับอะไรบ้าง รู้ไหมคะว่า สถิติผู้หญิงหูหนวกถูกข่มขืนในอัตราสูงกว่ากลุ่มอื่น เพราะอะไร เพราะเขาไม่มีเสียงหรือ ทำให้อีกเพศถึงไปทำกับเขาจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กผู้หญิงหูหนวก


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


นอกจากนี้ยังมีภาคีมาสอนวิธีประเมินความเสี่ยงว่า เราตกอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและการป้องกันตัว ใน Self-defense Lab ปฏิบัติการ 'เผือก' ตอบโต้การคุกคาม ทางเพศ ขณะที่อีกห้องเราจะคุยกันเรื่อง "ปักหมุดจุดเผือก" โดยให้ผู้หญิงมาช่วยกันปักหมุดว่าเคยประสบเหตุการณ์คุกคาม ทางเพศในที่ไหนบ้าง จะทำให้เราสามารถเฝ้าระวังได้


ส่วนผู้สูงอายุ จะมาบอกว่าเขามีศักยภาพแค่ไหนในเวทีรุ่นใหญ่ไทยแลนด์ 5.0 รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ ด้านคนพิการ จะมาพูดเรื่องการจ้างงาน หลังที่ สสส.สนับสนุนเรื่องการจ้างงานคนพิการได้กว่าหมื่นห้าพันคน เราจะ เดินไปยังไงต่อ สำหรับคนไร้บ้าน งานนี้เราจะได้สัมผัสคนไร้บ้านตัวจริง เรายังมีการแสดงของผู้ต้องขัง ที่เราพยายามพาเขาออกมาภายใต้ข้อจำกัดเต็มไปหมด เพื่อพาเขาออกมาร้องเพลงกับวงสินเจริญบราเธอร์ ในงานนี้


นอกจากนี้ยังมี คนมุสลิมที่มาพูดเรื่องการใช้เครื่องมือศาสนาเข้ามาช่วยเลิกบุหรี่ แรงงานข้ามชาติ จะคุยเรื่องศูนย์การศึกษาแรงงานข้ามชาติ ที่แม้มีกฎหมายให้เรียน ในระบบได้แต่ทำไมเด็กจำนวนหนึ่งต้อง ควักเงินจ่ายเรียนที่ศูนย์การเรียน เพราะเขาเจอข้อจำกัดหลายเรื่อง ช่วงสุดท้ายเรายังมีมอบรางวัลให้กับข้าราชการดีเด่น "ภาครัฐขวัญใจประชาชน" กับเจ้าหน้าที่รัฐคนที่ทำงานด้วย และคนที่เราทำงานด้วยแล้วมีความสุข


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


…เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจว่าสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะทำอะไรบ้าง อยากให้เล่าถึง งานที่ทำ…


สำนักฯ ทำงานมาสิบปีแล้ว หน้าที่เราคือการดูแลสุขภาวะประชากรเฉพาะกลุ่ม ซึ่งตอนนี้เรามีทั้งหมด 8 กลุ่มประชากร ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้มีปัญหา สถานะบุคคลและชาติพันธุ์ มุสลิม คนไร้บ้าน แรงงานในและนอกระบบ ผู้หญิง และ ผู้ต้องขังหญิง โดยเป็นการส่งเสริมสุขภาพ แบบเฉพาะเจาะจงที่เหมาะกับบริบทของเขา ซึ่งกลุ่มเฉพาะในที่นี้ไม่ใช่คนด้อยโอกาส  แต่ถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงต่อการถูกกระทำหรือเอาเปรียบโดยคนอื่นในสังคม เราจะพยายามเอ็มพาวเวอร์ให้คนอื่นเห็นคุณค่าคนกลุ่มนี้ รวมถึงให้เขาเห็นคุณค่าตัวเองด้วย เพราะการสงเคราะห์แบบในอดีตมันไม่ยั่งยืนสำหรับชีวิตเขา


หากถามว่าทำไมเราต้องมาทำงาน กับคนกลุ่มนี้ มองว่าถ้าสังคมเราไม่ช่วย ไม่ชายตา หรือดันเขาขึ้นมาให้ใกล้กับเรา ช่องว่างก็จะยิ่งถ่างกว้างขึ้น สุดท้ายสังคมก็จะแตกแยก และปัญหาสังคมมันก็ย้อนกลับมาให้เราต้องตามแก้ไขต่อไป ดังนั้นเทรนด์ยุคนี้ประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำและสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่ง


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


…สิบปีที่ผ่านมากับการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง?


จากการที่ สสส. ทำมาตั้งแต่แรก เราเห็นพัฒนาการของงานนะ เราเห็นเพื่อนเยอะขึ้น ขอบเขตมันกว้างขึ้น หลายงานมีพัฒนาการไปมาก เดิมทำแค่เรื่องกฎหมาย นโยบาย ตอนนี้เรามีพื้นที่ตัวอย่างให้เห็น มีนวัตกรรมทางสังคมเกิดขึ้นมากมาย


ซึ่งช่วงเริ่มแรก สสส. อาจจะจับงานนี้โดยพยายามประเมินกรอบเรื่องสุขภาวะและการลดปัญหาเรื่องการเข้าถึงสุขภาพ แต่เรารู้ว่างานพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเฉพาะมันมิติกว้างขวางเกินกว่านั้น ถามว่าพอใจไหม เราพอใจที่เราไปอุดช่องว่างหลายเรื่อง แต่ขณะเดียวกันเรายังมองเห็นโอกาสอีกมากมายเต็มไปหมด งานที่เป็นนวัตกรรมหลายอย่างยังรอพัฒนาให้ขยายผลไปสู่ผู้ที่จะมารับลูกหรือมีบทบาทเป็น เจ้าภาพในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อ


…แล้วสิบปีต่อไปจากนี้ สสส.มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง?


ในเรื่องต้นแบบที่เราทำไว้ เราเน้นเรื่องนวัตกรรมและการขยายผล เราอยากส่งต่อให้เจ้าภาพรับไป เพราะเราอยากหันไปทำนโยบายอื่นที่ยังเป็นข้อจำกัดหรือเงื่อนไขเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตแต่ละกลุ่มดีขึ้นซึ่งยังมีอีกเต็มไปหมด ไปทำเรื่อง ซับซ้อนขึ้นและละเอียดอ่อนและเป็นมิตรกับทุกคน เพราะเราเชื่อว่าพัฒนาการของสังคมและการเมืองมันน่าจะมีเรื่องเทคโนโลยีเข้ามา


รู้จักประชาชนกลุ่มเฉพาะ ทำไมเราถึงต้องฟัง


สำหรับงาน “การประชุมวิชาการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน : ประชากรกลุ่มเฉพาะ” จัดขึ้นในวันที่ 12-13 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี ภายในงานมีกิจกรรม ปาฐกถา เสวนาวิชาการห้องย่อยตามกลุ่มประชากร การแสดงของวงดนตรีสินเจริญบราเธอร์กับผู้ต้องขัง พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ และการแสดงผลงานของเครือข่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และยังเป็นการจัดงานประชุมครั้งแรกที่รวบรวมภาคีเครือข่ายคนทำงานเพื่อสังคมเอาไว้มากที่สุด

Shares:
QR Code :
QR Code