รีไซเคิลขยะ นำร่องชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

รีไซเคิลขยะ นำร่องชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  thaihealth


แฟ้มภาพ


การนำขยะและเศษวัสดุเหลือใช้มารีไซเคิลเพื่อกลับนำไปใช้ใหม่ เป็นอีกก้าวในการแก้ปัญหาขยะล้นชุมชนของโครงการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม ภายใต้โครงการนำร่องชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรืออีโค วิลเลจ ของการเคหะแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ซึ่งเป็นชุมชนแออัดขนาดใหญ่มีผู้อยู่อาศัยไม่ต่ำ 3 หมื่นคนในปัจจุบัน


ชัยวัฒน์ ฤทธิชัย ประธานกรรมการนิติบุคคลบ้านเอื้ออาทร 2 และประธานชมรมน้ำมันพืชใช้แล้วย้อนที่มาโครงการนำร่องชุมชนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือ อีโค วิลเลจ ว่าเป็นโครงการของการเคหะแห่งชาติร่วมกับ สสส.และกรรมการชุมชนที่เข้ามาดูแลจัดระเบียบชุมชนให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีสุขภาวะที่ดีในชุมชน โดยการดำเนินการนั้นจะเน้นในเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมใน 3 กลุ่ม แบ่งเป็น 12 ฐานเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มแรกเป็นกลุ่มการจัดการขยะมูลฝอย ได้แก่ ฐานการเรียนรู้ กองทุนขยะรีไซเคิล ตลาดนัดมือสอง Shop 0 สตางค์ เครื่องสับย่อยกิ่งไม้/ปุ๋ยหมักอินทรีย์ และฐานการงานอาชีพ ฐานน้องใหม่อันดับ 12 ซึ่งประดิษฐ์สินค้าจากวัสดุรีไซเคิล รวมทั้งวัสดุใหม่


กลุ่มต่อมาเป็นกลุ่มการจัดการน้ำเสีย ได้แก่ ฐานเรียนรู้เครื่องคัดแยกและอบแห้งกากไขมันด้วยพลังแสงอาทิตย์ น้ำหมักชีวภาพ/น้ำหมักจุลินทรีย์ ระบบบำบัดน้ำเสียโดยใช้สาหร่ายที่อาศัยพลังแสงอาทิตย์ และกลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มพลังงานทดแทน ได้แก่ ฐานเรียนรู้เครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าส่องสว่างในอาคารและเส้นทางสัญจรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และกังหันลม เครื่องผลิตน้ำร้อนด้วยพลังแสงอาทิตย์ และการจัดการน้ำมันพืชใช้แล้ว


"บางฐานเรียนรู้ก็เป็นฐานสาธิตทดลองหรือวิจัยของบางหน่วยงาน แม้จะใช้งานได้แต่ก็ยังยากจะขยายผลไปยังผู้อยู่อาศัยในแต่ละครัวเรือน เนื่องจากลงทุนสูง โดยเฉพาะฐานเรียนรู้ที่ประกอบด้วยพลังแสงอาทิตย์ทั้งหลาย" ชัยวัฒน์กล่าวและย้ำว่า ขณะเดียวกันในบางฐานเรียนรู้คนในชุมชนจะมีการรวมกลุ่มเป็นผู้ดำเนินการเอง เช่น น้ำหมักชีวภาพหรือน้ำหมักจุลินทรีย์ ซึ่งมีการผลิตใช้งานกันเองอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมีการลดปริมาณน้ำมันพืชใช้แล้ว โดยซื้อจากแม่ค้าตลาดสดในโครงการลิตรละ 11 บาท เพื่อส่งขายต่อลิตรละ 15 บาท รวมทั้งรับซื้อจากลูกบ้าน โดยนำถังพร้อมกรวยไปวางไว้ทุกชั้นสำหรับเทใส่จากนั้นนำน้ำมันดังกล่าวไปจำหน่ายต่อให้พ่อค้าที่มารับซื้อต่อไป


"น้ำมันพืชใช้แล้วแทนที่จะทิ้งลงท่อทำให้เกิดการอุดตัน ชมรมก็รับซื้อลิตรละ 11 บาท เดือนหนึ่งได้ประมาณ 2 แกลลอน รวม 40 ลิตร/อาคาร ในโครงการมีทั้งหมด 134 อาคารก็จะช่วยประหยัดเงินค่าซ่อมท่อน้ำทิ้งได้มหาศาล แถมยังได้เงินจากการขายอีก" ชัยวัฒน์กล่าวย้ำ


ขณะที่ สุทาทิพย์ ราชวงค์ ที่ปรึกษากรรมการนิติบุคคลบ้านเอื้ออาทร 2 กล่าวเสริมว่า ในส่วนของขยะซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของทุกชุมชนนั้น แต่ที่นี่กลับไม่มีปัญหาเพราะเราได้รับซื้อขยะจากสมาชิกในชุมชน ทั้งแลกเป็นเงินสดหรือสินค้าผ่าน Shop 0 สตางค์  จากนั้นมาคัดแยกหากเป็นขยะที่สามารถย่อยสลายได้ก็จะทำปุ๋ยหมักเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อไป ส่วนขยะเป็นพิษทาง กทม.จะมาเก็บทุกวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งดูแลสุขภาวะของคนในชุมชน โดยการสนับสนุนของ สสส.อุปกรณ์กีฬาและเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อให้ชุมชนมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัยนั่นเอง


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย สุรัตน์ อัตตะ

Shares:
QR Code :
QR Code