รายการรอลูกเลิกเรียน แก้ปัญหาสังคมไทยยุค 4.0

ที่มา :  ไทยโพสต์


ภาพประกอบจาก สสส.


รายการรอลูกเลิกเรียน แก้ปัญหาสังคมไทยยุค 4.0  thaihealth


สสส. ชี้ผ่านรายการรอลูกเลิกเรียน สังคมไทยยุค 4.0 พ่อแม่ต้องปรับตัวรับปัญหาลูกติดมือถือ วัยรุ่นเจอปัญหาเรื่องความก้าวร้าว


เป็นมิติใหม่สำหรับรายการ "รอลูกเลิกเรียน" (After school) รายการทีวีออนไลน์ ที่จัดทำโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัท Toolmorrow ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสื่อออนไลน์เพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสังคม โดยรายการดังกล่าวได้นำปัญหาจริงของครอบครัวไทยมานำเสนอแบบกึ่งเรียลลิตี้ คือมีการตั้งกล้องเก็บภาพจริงในการแก้ปัญหาขงแม่และลูก ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ผ่านทาง Facebook : Toolmorrow  และในเว็บไซต์ของ www.afterschoolonline.tv ซึ่งถ้าถามว่าสังคมไทยในปัจจุบันพ่อแม่ต้องเจอกับปัญหาอะไรที่หนักอกบ้าง คำตอบคงไม่พ้นเรื่องเรื่องลูกติดมือถือ ด้านวัยรุ่นก็พบว่ามีปัญหาความก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้น ทั้ง 2 เรื่องจะมีวิธีการแก้ไขกันอย่างไร ต้องมาฟังคำตอบจากนักจิตวิทยากันดู


รายการรอลูกเลิกเรียน แก้ปัญหาสังคมไทยยุค 4.0  thaihealth


พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า "จากผลการศึกษาโครงการวิจัยครอบครัวไทยในเขตเมือง ปี 2557 พบว่า 1 ใน 3 ของครอบครัวในเมืองมีสัมพันธภาพน่าเป็นห่วง ขาดการปฏิสัมพันธ์ 60% ของครอบครัวมีการใช้อำนาจบังคับข่มขู่ 40% ของครอบครัวไม่ค่อยเล่าหรือไม่เล่าอะไรให้คนในครอบครัวฟัง 34% ของครอบครัวมีการทำร้ายร่างกาย 33% ของครอบครัวไม่ค่อยใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาและด่าทอ หยาบคาย ทำร้ายจิตใจ 11% ของครอบครัวไม่อยากวางเป้าหมายครอบครัวและไม่อยากทำกิจกรรมร่วมกัน และ 5% ของครอบครัวไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเลย และจากการได้รับหน้าที่เป็นวิทยากรให้รายการรอลูกเลิกเรียน,เป็นที่ปรึกษาให้กับโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งจากสายด่วนสุขภาพจิต (โทร 1323) ที่จัดทำโดยสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ พบว่าเรื่องที่พ่อแม่จะกังวลเกี่ยวกับลูกมากที่สุดคือเรื่องติดมือถือ ติดเกม และในส่วนของลูกนั้นปัญหาที่พบมากคือเรื่องความเครียด เรื่องเรียน การปรับตัว ความรัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในแต่ละครอบครัวจะมองไม่เหมือนกัน ถ้ามองว่าเป็นปัญหาที่ควรแก้ไข หรือมองว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วค่อยๆ แก้กันไป ก็จะแก้ปัญหาได้ ซึ่งเป็นเรื่องของการปรับตัว พ่อแม่ลูกต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นคำแนะนำแบบง่ายๆ ที่อยากให้ทุกครอบครัวปฎิบัติเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาเรื่องช่องว่างในครอบครัว แต่อยากแนะนำว่าพ่อแม่ควรจะปรับตัวเองก่อน เพราะลูกจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ยังสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ และเมื่อเกิดปัญหาพ่อแม่ก็ไม่จำเป็นต้องพาลูกไปพบจิตแพทย์เสมอไป เพราะในบางเรื่องอาจไม่ได้เป็นปัญหารุนแรงถึงขั้นจะต้องเดินทางไปพบแพทย์ เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ด้วยการปรับตัวเข้าหากันในครอบครัว


นอกจากนี้ในปัจจุบันมักพบปัญหาวัยรุ่นมีความก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีสาเหตุเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ 1.นิสัยส่วนตัวของเด็ก เช่น มีอารมณ์ร้อนไม่ฟังใคร 2.ประสบการณ์ในชีวิต และการเรียนรู้ในการแก้ไขปัญหา ถ้าในครอบครัวแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรง เด็กจะเรียนรู้ได้อย่างไรว่าเวลาทะเลาะกับเพื่อนจะต้องแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการพูดคุยกันดีๆ ทางครอบครัวต้องสอนให้เขาควบคุมความโกรธ แก้ไขด้วยวิธีการที่เหมาะสม และรับฟังเวลาเขามีปัญหา เพื่อจะสอนให้เขาได้เข้าใจบุคคลอื่น ควรชื่นชมเวลาเขาทำความดี แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่มีแต่คำดุด่า ด้านสื่อมวลชนเองก็ควรนำเสนอข่าวในด้านบวกบ้าง เช่น ลงข่าวเด็กทะเลาะตีกันแล้วแก้ปัญหาด้วยการพูดจาทำความเข้าใจ ซึ่งจะสอนให้เขาเอาแบบอย่างที่ดีมาใช้แก้ปัญหาด้วยวิธีที่ถูกต้อง


พญ.วิมลรัตน์ ได้กล่าวต่อไปว่า "อาจกล่าวได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะวัยรุ่นขาดโอกาสในการฝึกฝนตนเองตั้งแต่เด็กว่าจะเอื้ออาทรกับคนอื่นหรือสังคมได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่เคยได้รับ ดังนั้นการแก้ไขเรื่องความก้าวร้าวของวัยรุ่น ต้องแก้ไขในหลายจุด อาทิ การมีลูกเมื่อพร้อม, การให้ความรู้พ่อแม่ในเรื่องการเลี้ยงดูลูกอย่างมีคุณภาพ, โรงเรียนมีระบบในการดูแลเด็กที่ดี, พ่อแม่ต้องมีการปรับตัวไปพร้อมกับยุคดิจิตอล แต่สุดท้ายไมว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม พื้นฐานของความไว้ใจกันในครอบครัว ความรักความผูกพัน การที่รู้ว่าเมื่อไรที่เรามีปัญหา ครอบครัวยังคงเป็นเบื้องหลังที่สำคัญ แม้ว่าปัจจุบันสื่อออนไลน์ต่างๆ จะช่วยให้หาข้อมูลวิธีการแก้ไขได้บ้าง แต่ปัญหาที่เป็นเรื่องร้ายแรงก็ยังไม่สามารถช่วยแก้ไขได้ โดยเฉพาะในเรื่องความรู้สึกหรือความกังวล เด็กยังต้องการพึ่งพาคนที่รู้สึกไว้ใจได้ซึ่งก็คือคนครอบครัวนั่นเอง ดังนั้นการแก้ไขที่สำคัญคือต้องแก้จากในครอบครัวหรือที่ลูกของเราก่อน ซึ่งเป็นส่วนที่เราจัดการได้ แล้วทุกอย่างก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น"


สำหรับผู้สนใจรายการ "รอลูกเลิกเรียน" (After school) รายการทีวีออนไลน์ เพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างเรื่องสัมพันธภาพและการสื่อสารในครอบครัว ปัจจุบันสามารถเข้าไปรับชมได้ทาง Facebook : Toolmorrow และในเว็บไซต์ของ www.afterschoolonline.tv และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Inbox ของ Facebook : Toolmorrow ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Shares:
QR Code :
QR Code