ระวังสุขภาพ-โรคหน้าฝน

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ


ระวังสุขภาพ-โรคหน้าฝน thaihealth


แฟ้มภาพ


กรมควบคุมโรคกำชับหน่วยงาน เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพหน้าฝน ระวัง 3 โรคสำคัญ ฉี่หนู โรคทางเดินหายใจ โรคอุจจาระร่วง


นพ.อัษฏางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนทำให้ ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่องประชาชนควรระมัดระวัง อาจเจ็บป่วยได้ง่าย รวมถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ได้ เช่น ลมพายุ อุบัติเหตุจากการจราจรและการจมน้ำ กรมควบคุมโรคจึงมอบหมาย ให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบดังกล่าว


คำแนะนำสำหรับประชาชนในการ เตรียมความพร้อมรับมือกับลมพายุ หากอาศัยอยู่บริเวณริมน้ำหรือในพื้นที่เสี่ยงตามที่มีหน่วยงานภาครัฐแจ้งเตือน  ควรรีบเคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ อยู่ในความดูแล นอกจากนี้ ควรจัดเตรียมน้ำ อาหารแห้ง ไฟฉาย ตลอดจนยารักษาโรค ให้พร้อม โดยในช่วงฝนตกหนักและมี ลมพายุ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ไม่อยู่ใกล้ต้นไม้สูง เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา ควรหลบในตัวอาคารที่มีความมั่นคง ไม่ควรใช้โทรศัพท์ และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ในขณะที่ฟ้าร้องฟ้าผ่า นอกจากนี้ ควรระมัดระวังโรค ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ เช่น โรคฉี่หนู โรคทางเดินหายใจ และโรคอุจจาระร่วง เป็นต้น โดยประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือ ด้านการป้องกันควบคุมโรค ได้จากสำนักงานสาธารณสุขหรือสำนักงานป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่


นพ.อัษฏางค์ กล่าวด้วยว่า ส่วนพื้นที่ฝนตกหนักให้เตรียมรับมือกับน้ำท่วม ฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง โดย ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงาน ของรัฐอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อม ในทุกด้านเพื่อป้องกันความสูญเสีย ทั้งใน กลุ่มผู้ใหญ่และเด็ก โดยเฉพาะป้องกัน การจมน้ำ ขอให้ประชาชนยึดหลัก "3 ห้าม 2 ให้" โดย 3 ห้าม ได้แก่ 1.ห้ามเล่นน้ำ 2.ห้ามหาปลา/เก็บผัก 3.ห้ามดื่มสุรา และ 2 ให้ ได้แก่ 1.ให้สวมเสื้อชูชีพ (หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัว ไปด้วย เช่นถังแกลลอน/ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา) และ 2.ให้เดินทาง เป็นกลุ่ม เพื่อคอยดูแลกันและกัน


"หากประชาชนมีความจำเป็น ต้องขับขี่ยานพาหนะ ขอให้ประเมินสถานการณ์อย่างถี่ถ้วน เพื่อความปลอดภัย โดยเปิดไฟหน้ารถ เพื่อช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้นลดความเร็ว และทิ้งระยะห่าง จากรถคันหน้าเพิ่มขึ้น เพราะสภาพ ถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะห่าง ในการหยุดรถเพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยง การแซง เมื่อต้องขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมขัง ขอให้หยุดรถและประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำสูงไม่ควรขับรถฝ่าไป หากพบเห็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ ทันที โทร. 1669 พร้อมแจ้งข้อมูล ผู้ประสบอุบัติเหตุ และสถานที่เกิดเหตุ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422" นพ.อัษฎางค์กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code