ระวังภัยจาก ‘อุปกรณ์เรียน’
หากละเลย เด็กเสี่ยงอันตราย!!
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะผู้ปกครองและครูระวังภัยจากอุปกรณ์การเรียน พร้อมเผยหากละเลยเด็กอาจถึงตายได้
นายศรีสมบัติ พรประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ช่วงนี้ผู้ปกครองจะวุ่นกับการจัดหาและเลือกซื้ออุปกรณ์การเรียนให้แก่บุตรหลานซึ่งอุปกรณ์การเรียนบางประเภทอาจก่อให้เกิดอันตรายกับเด็กได้
โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากอุปกรณ์การเรียนได้มากกว่าปกติเพื่อความปลอดภัย จึงแนะนำให้ผู้ปกครองและครูหมั่นดูแลเอาใจใส่อุปกรณ์การเรียนของบุตรหลานเป็นพิเศษ โดยเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมทั้งสอนให้เด็กเรียนรู้วิธีใช้อุปกรณ์การเรียนที่ถูกต้องปลอดภัยและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
นายศรีสมบัติกล่าวว่า เหตุการณ์อันตรายที่เกิดกับเด็กในวัยอนุบาลและประถมนั้นมีขึ้นบ่อยมาก แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต จึงยังไม่มีการสำรวจเป็นตัวเลขที่แน่นอน แต่ตนพบว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก ซึ่งอุปกรณ์ที่ควรพึงระวัง ได้แก่ กระเป๋านักเรียนหรือเป้สะพาย ไม่ควรให้มีน้ำหนักมากเกินไป เพราะส่งผลให้เด็กเป็นโรคกระดูกสันหลังเสื่อม
ควรให้เด็กจัดหนังสือและอุปกรณ์การเรียนอย่างเหมาะสมเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันเท่านั้นโดยเฉพาะเป้สะพายควรเลือกแบบที่มีคุณภาพ ความกว้างของสายรัศมีขนาดเหมาะสม และใช้สายรัดเอวทุกครั้งขณะสะพาย เพื่อให้แนบลำตัวและกระจายน้ำหนักลงบนร่างกาย ไม่ต้องแบกรับน้ำหนักส่วนใดส่วนหนึ่งมากไป
น้ำยาลบคำผิด ควรเลือกซื้อที่มีเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม และสอนให้เด็กรู้วิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง ไม่ให้เด็กนำไปสูดดม เพราะไอระเหยของน้ำยาลบคำผิดมีส่วนผสมของสารตะกั่วปะปนอยู่ เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ อย่างกาวตราช้าง เป็นกาวที่มีความแห้งไว ติดทนแน่น เด็กชอบเอามาบีบใส่นิ้วเล่น ซึ่งหากติดที่ส่วนใดของร่างกายไม่ควรจับดึงแยกออกจากกันในทันที ให้แก้ไขโดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดหรือแช่ลงในน้ำสบู่อ่อนๆ และถูเบาๆ จะช่วยให้กาวลอกออกได้ กรณีติดที่ตาควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างต่อเนื่อง และรีบไปพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ จะมีกรณีที่พบบ่อยคือ ในเด็กเล็กมักชอบนำของเล่นเข้าปาก ผู้ปกครองและครูควรเลือกของเล่นที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย อย่าให้มีของเล่นที่มีส่วนประกอบเป็นชิ้นเล็กๆ หรือหากเด็กกลืนของพวกนี้เข้าไป ผู้ใหญ่ต้องรวบตัวเด็กขึ้นมาพาดบ่า ให้หัวห้อยแล้วตบหลังเพื่อของหลุดออกจากหลอดลม หากมีการปิดกั้นหลอดลมหรือทางเดินหายใจ ทำให้ขาดอากาศหายใจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นายศรีสมบัติกล่าวว่า อยากฝากให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดยิ่งเด็กเล็กพ่อแม่ควรอยู่กับลูกตลอด รวมถึงโรงเรีนควรมีการปรับปรุงอุปกรณ์การเรียนและเครื่องเล่นอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดจำนวนเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ด้าน นางสาวอุลัยวรรณ จำปาเทศ ครูชั้นประถมศึกษา โรงเรียนทอสี เล่าวว่า เห็นด้วยที่มีคำเตือนในเรื่องนี้ เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นประจำ ผู้ปกครองหรือครูบางคนอาจจะไม่ได้ใส่ใจลูกเท่าที่ควร อันตรายจากอุปกรณ์การเรียนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากประมาทก็อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update 11-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก