ระวังถุงของขวัญเด็กแรกเกิด เปลี่ยนใจแม่ให้นมลูก
ปลื้ม! พบแม่ใหม่ถึงร้อยละ 77 ให้ลูกดูดนมแม่อย่างเดียว
ผลสำรวจล่าสุดของรัฐบาลอเมริกัน พบแม่ใหม่ถึงร้อยละ 77 ให้ลูกดูดนมแม่ อย่างน้อยที่สุดในช่วงเดือนแรก และนับเป็นอัตราสูงสุดที่พบในรอบทศวรรษ
จากข้อมูลการสำรวจทั่วไปของ centers for disease control and prevention (c.d.c.) ระบุว่า นี่นับเป็นอัตราสูงสุดที่พบในรอบสิบปีของประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว เมื่อดูจากอัตราการให้นมแม่ที่สำรวจพบในปี 1993-1994 ซึ่งมีเพียงร้อยละ 60 แต่หลังจากนั้นมาอัตราการให้นมแม่ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การสำรวจล่าสุดของสถาบันสุขภาพและโภชนาการนานาชาติ (national health and nutrition examination) ซึ่งใช้วิธีการสำรวจโดยการสัมภาษณ์แม่ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพร่างกาย ข้อมูลเบื้องต้นจากการตรวจสุขภาพทารกจำนวน 434 คน ในปี 2005-2006 และจากการสำรวจทางโทรศัพท์เมื่อประมาณปีที่แล้ว พบว่า มีเด็กทารกที่เกิดในปี 2004 ถึง ร้อยละ 74 ที่ได้รับนมแม่ ซึ่งจากข้อเท็จจริงที่พบนี้ทำให้เห็นถึงแนวโน้ม อัตราการให้นมแม่ที่กำลังเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี มีผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า แม้มีรายงานหลายชิ้นที่บอกว่า อัตราการให้นมแม่ของแม่ใหม่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า อัตราการให้ลูกดูดนมแม่อย่างเดียวไปจนกระทั่ง 6 เดือนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และที่สำคัญ อาจต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ด้วยซ้ำ
รศ.ดร.บาร์บาร่า แอล ฟิลิปป์ (dr. barbara l. philipp) แห่งภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบอสตันกล่าวว่า
“จากข้อมูลการสำรวจของ c.d.c. แน่นอนว่า ทำให้เรารู้ว่าลูกได้กินนมแม่ แต่การสำรวจนี้ไม่ได้บอกว่า แม่ให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวหรือให้ร่วมกับนมผสมอื่นๆ ด้วย ซึ่งนี่นับเป็นเกณฑ์การสำรวจที่ค่อนข้างกว้างมาก”
สิ่งนี้คือปัญหา เพราะจากการศึกษาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง พบว่า เมื่อหมอและพยาบาลส่งมอบถุงของขวัญให้แก่แม่หลังคลอดโดยที่ไม่ได้หยิบกล่องนมผสมออกก่อน โอกาสที่แม่จะกลับบ้านไปให้นมแม่อย่างเดียวแก่ลูกนั้น ก็มีน้อยเต็มที เป็นผลให้เมื่อไม่นานนี้ได้เกิดการรวมกลุ่มขึ้นมาภายใต้ชื่อ ban the bags เพื่อรณรงค์ให้โรงพยาบาลทั้งหลายงดการแจกตัวอย่างนมผสมสำหรับทารกแก่แม่ใหม่ แต่มันก็ได้ผลในวงจำกัด
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update 13-05-51