รวมพลังเยาวชนสร้างสุขอย่างยั่งยืน

ร่วมส่ง SMS “ใน ม.นอก ม. ไม่ขอเอี่ยวเหล้า”

 

รวมพลังเยาวชนสร้างสุขอย่างยั่งยืน

 

          วันก่อนไปฟังชาวบ้านในต่างจังหวัด เลยระดมกันเพื่อวางแผนการดำเนินชีวิตตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนกระทั่งระดับชุมชน ที่ประชุมชาวบ้านสรุปแบบทุบโต๊ะว่าถ้าจะให้ทุกครอบครัวทั้งชุมชนดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขแบบยั่งยืน ไม่เป็นหนี้ ไม่อดมื้อกินมื้อเหมือนอดีตที่ผ่านมา ต้องยึดหลักเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือเศรษฐกิจพอเพียง

 

          การเดินตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ต้องกำจัดตัวอบายมุขทางแห่งความหายนะหรือความฉิบหายให้ได้ ได้แก่การเป็นนักเลงสุรา นักเลงการพนัน นักเลงเที่ยวกลางคืน ดื่มกินของมึนเมาฟุ้งเฟ้อ เป็นต้น แล้วหันมาประกอบสัมมาอาชีพด้วยความขยันหมั่นเพียร รู้จักอดออมอดทน ดำรงชีวิตร่วมกันด้วยความสมัครสมานสามัคคี มีวามกตัญญูกตเวที เป็นต้น (อีกที)

 

          ไม่ต้องเลยไปถึงอบายมุขชื่อนักเลงการพนันที่ทำให้คนล้มละลายหมดเนื้อหมดตัวขายบ้านขายที่กระทั่งลูกเมีย – ผัว เอาแต่นักเลงน้ำเมานี่ก็พอแล้ว ชาวบ้านเขาสรุปกันง่ายๆ ว่า ในหนึ่งเดือนจ่ายเงินค่าน้ำเมาไปเสพสุขเพียงเฉพาะคนเดียว 10,000 บาท ถ้าไม่ต้องจ่ายสตังค์ไปตรงนั้น ครอบครัวนั้นก็จะเหลือสตังค์เห็นๆ เลย 10,000 บาท จะจับจ่ายใช้สอยอะไรภายในครัวเรือนที่จำเป็นก็เชื่อว่าไม่หมดทั้ง 10,000 บาท นั่นหรอก ทุกเดือนๆ ก็จะเหลือ คิดกันแบบไม่ต้องซับซ้อนเลยจะมีเงินเก็บในครอบครัวนั้นแน่นอนทุกเดือน

 

          ไม่ใช่ผมตั้งข้อสังเกตคนเดียวมีการทำวิชาการเอาไว้ด้วยว่า นักเลงน้ำเมาไม่ใช่สร้างความเสียหายแค่ตัวอย่างเงินแค่ 10,000 บาท แต่จะมีปัญหาที่ทำให้เสียเงินทองมากมายตามมา ตั้งแต่โรคภัยไข้เจ็บต้องเสียค่ารักษา ทำทรัพย์สิ่งของเสียหาย เสียเงิน ทั้งจ่ายในครอบครัวตัวเองและใช้จ่ายให้คนอื่นเพราะไปทำให้เขาเสียหาย แล้วก็มักจะมากกว่า 10,000 ต่อเดือนด้วย ก็ถ้าไม่ต้องจ่ายชดใช้ความเสียหายแล้วครอบครัวนั้นจะเหลือเงินเท่าไหร่ต่อเดือน

 

          น้ำเมานี่จึงสำคัญต่อการทำให้เสียหายต่างๆ ทำลายตั้งแต่ความสุขในครอบครัวไปจนกระทั่งความสุขในสังคมดังที่ผมเคยย้ำไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งลามไปถึงกลุ่มเยาวชนประพฤติตัวเป็นนักเลงน้ำเมาเท่ากับยิ่งเป็นตัวช่วยให้ครอบครัวมีความทุกข์หนักไม่รู้กี่เท่าทวีคูณเลยทีเดียว

 

          สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงร่วมกับ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เปิดโครงการ “ในม.นอก ม.ไม่ขอเอี่ยวเหล้า” เชิญชวนร่วมส่ง SMS เรื่อง (ปลอด) เหล้ารอบรั้วมหาวิทยาลัยในโครงการ “ใน ม. นอก. ม. ไม่ขอเอี่ยวเหล้า” ตังแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. 52

 

          เพื่อเชิญชวนให้นิสิต นักศึกษาหันมาทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ทั้งในรั้วมหาวิทยาลัยและนอกรั้วมหาวิทยาลัยของตัวเอง ตลอดจนรวมพลังเยาวชนจากเครือข่ายสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้มีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตาเพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อม ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยให้ปลอดเหล้าภายใต้แนวคิดที่ต้องย้ำแล้วย้ำอีกว่า “ใน ม. (มหาวิทยาลัยป นอก. ม. (มหาวิทยาลัย) ไม่ขอเอี่ยวเหล้า”

 

          โดยส่งเรื่องการรณรงค์กิจกรรม “ใน ม. นอก ม. (มหาวิทยาลัย) ไม่ขอเอี่ยวเหล้า” ทั้งเรื่องดีที่ปลอดเหล้า หรือเรื่องไม่ดีที่อยากฟ้องผ่านทางช่องทาง SMS เบอร์ 4554950 มหาวิทยาลัยที่ส่งมามากที่สุด 3 อันดับ ไอซ์ – ศรัณยู จะตามไปหาถึงที่มหาวิทยาลัย หรือเล่าเรื่องจากภาพผ่านทางวิดีโอคลิปโดยโพสต์ไว้ที่ www.rubnong.com

 

          มารวมพลังเยาวชนสร้างความสุขอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง หนุนส่งคุณพ่อคุณแม่และสังคมที่คนไทยบ้านนอกแทบทั้งประเทศแล้ว ที่หันมาปฏิบัติด้วยการตัดทั้งอบายมุขทิ้งไปเฉพาะอย่างยิ่งทางสายน้ำเมา ร่วมกันสร้างสังคมปลอดเหล้าอย่างเด็ดขาดกันตั้งแต่บัดนี้

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

 

 

 

 

 

Update 13-08-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

 

อ่านเนื้อหาทั้งหมดในคอลัมน์คลิกที่นี่

 

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code