รร.วัดสะพานหิน เรียนรู้สนุก สุขภาพดีด้วยเมนูผัก

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ภาพประกอบจากเว็บไซต์แนวหน้า


รร.วัดสะพานหิน เรียนรู้สนุก สุขภาพดีด้วยเมนูผัก  thaihealth


พื้นที่ตำบลแหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน ค้าขาย และทำประมง เป็นหลัก เศรษฐกิจอยู่เกณฑ์ค่อนข้างดี โดยเฉพาะระบบการศึกษาเนื่องจากไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก พ่อแม่ผู้ปกครองที่ฐานะดีหน่อยก็จะส่งลูกหลานไปเรียนในเมือง หรือโรงเรียนใหญ่ในพื้นที่


แต่สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ต.แหลมกลัด แล้ว คือ แรงงานจากที่อื่น และรวมไปถึงต่างด้าวที่มีอาชีพรับจ้าง ไม่ได้มีฐานะดีก็จะเลือกโรงเรียนวัดสะพานหิน ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสประจำชุมชน เป็นที่เล่าเรียนให้กับลูกหลาน


อาชีพรับจ้างที่แทบจะหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลาดูแลลูกหลาน ทำให้เด็กๆ ขาดโอกาส และขาดสิ่งที่ดีที่ชีวิตควรจะได้รับในวัยนี้ เพราะแม้แต่เงินมาโรงเรียนก็ยังไม่มี บางรายข้าวเช้ายังไม่ได้ทานมาจากบ้าน เด็กๆ จึงเสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ


ทางโรงเรียนวัดสะพานหินได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เด็กได้กินอิ่ม เล่นอย่างสมวัย เกิดการเรียนรู้ที่ดี การเรียนก็มีสุข โดยได้ประสานหน่วยงานทั้งส่วนราชการและภาคเอกชนในการของบประมาณมาสนับสนุนเพื่อให้เด็กๆ ทั้ง 143 คน มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยในปี 2560 ทางโรงเรียนได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อจัดทำโครงการ "การส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้เพื่อสุขภาพภายในโรงเรียน"


ดร.มุทิตา แพทย์ประทุม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสะพานหิน กล่าวว่า โรงเรียนมีอาหารมื้อกลางวันให้เด็กรับประทานตามปกติ แต่สำหรับพื้นที่ให้บริการของโรงเรียนเรา เด็กหลายรายทางบ้านมีฐานะยากจน ไม่ได้กินข้าวมาจากบ้าน เมื่อเด็กไม่อิ่ม การเรียนก็ไม่มีประสิทธิภาพ


"เราก็บอกว่า มาโรงเรียนเถอะ "มาที่นี่ไม่มีอด" เรามีอาหารเช้าและกลางวันให้ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยม ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบและงบประมาณค่อนข้างเยอะ จึงได้เข้าร่วมโครงการกับ สสส. เพื่อจัดสรรพื้นที่เป็นแปลงผักและเพื่อเป็นการส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้มากกว่าการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์" ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสะพานหิน บอก


ผักบุ้ง ถั่วพู มะเขือ ถั่วงอก ถั่วฝักยาว กะเพรา ตะไคร้ ใบยี่หรา ข้าวโพด พริก แตงกวา และเห็ดนางฟ้า คือ ผลผลิตที่ได้และนำไปทำเป็นเมนูอาหารให้เด็กรับประทาน "ทุกเมนูต้องมีผักเป็นส่วนประกอบ" โดยเมนูยอดฮิตที่เด็กๆ ชอบมากที่สุด คือ ผัดกะเพรา ผลผลิตเหลือกินก็เอาไปขาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอควร


"เรามุ่งหวังให้แปลงผักนี้เป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย และกระตุ้นให้เด็กๆ หันมาบริโภคผักและผลไม้มากขึ้น และที่สำคัญ นำความรู้ที่ได้จากการช่วยกันปลูกเอาไปปลูกกินที่บ้าน และเป็นทักษะชีวิตที่สามารถต่อยอดสร้างอาชีพได้ในอนาคต" ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดสะพานหิน กล่าว


รร.วัดสะพานหิน เรียนรู้สนุก สุขภาพดีด้วยเมนูผัก  thaihealth


การบูรณาการเข้ากับการเรียน เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้เด็กใกล้ชิดผัก ได้กินผักที่สะอาดปลอดภัยแล้วยังได้ความรู้ "วิชาจากผัก"


ศิริกานต์ เวชชกรรม ครูชำนาญการพิเศษ กล่าวถึงการ บูรณาการผักและผลไม้เข้ากับการเรียนการสอน ว่า ครูผู้รับผิดชอบ ทุกชั้นเรียน ทุกวิชา จะต้องนำเอาผักและผลไม้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนการสอน เช่น สุขศึกษา เรื่องของการบริโภคผักและผลไม้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง วิชาศิลปะ ครูก็จะให้เด็กวาดรูปผักและผลไม้ที่ชอบทาน วิชาคณิตศาสตร์จะเป็นเรื่องของการนับจำนวน ปริมาณ ภาษาไทย ครูก็จะให้โจทย์เขียนบรรยายชื่อและสรรพคุณของผักและผลไม้ เด็กก็จะไปสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เนตก็จะได้เรื่องของไอทีด้วย


ส่วนงานวิชาคหกรรมการงานอาชีพ ก็จะให้เด็กจัดประกวด อาหารจานผัก และแน่นอนว่าวิชาเกษตรเด็กๆ จะได้ฝึกปลูก ดูแล แปลงผักด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเด็กเล็กยังได้ฝึกเรื่องของกล้ามเนื้อ เราจะให้เด็กๆ มีส่วนร่วมที่เหมาะสมตามวัย


ด้าน น.ส.นิรนุช ประนันโต ครูผู้ช่วย กล่าวว่า หลังจากทำโครงการมาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งมีทั้งกระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียนและนอกห้องเรียน การประชาสัมพันธ์จากนักเรียนแกนนำ ในการให้ความรู้หน้าเสาธง และเสียงตามสายช่วงพักกลางวัน กิจกรรมแข่งขันต่างๆ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี เด็กมีการทานผักและผลไม้ดีขึ้น โดยจะเห็นได้จากเศษอาหารที่เหลืออยู่ในถาดข้าวมีน้อยมากในบางราย หรือแทบจะไม่เหลือเลย ขณะเดียวกันยังมีสมุดบันทึกการกินผักให้เด็กๆ ได้บันทึกว่าแต่ละวันได้ทานผักและผลไม้อะไรไปบ้าง


วันนี้เด็กๆ จาก รร.วัดสะพานหิน นอกจากจะได้ทานอาหารที่สะอาดปลอดภัยแล้ว ยังมีความสุขสนุกกับการเรียนด้วยผักและผลไม้ "ท้องอิ่ม เล่นอย่างสนุก เรียนอย่างมีความสุข"

Shares:
QR Code :
QR Code