รพ.เด็กแนะ เลี้ยงลูกวัยรุ่นควรเปิดใจ-ไม่จับผิด
ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ
แฟ้มภาพ
พ่อแม่ควรเปิดใจให้กว้าง ทำความเข้าใจลูก หากลูกมีคำพูดหรือพฤติกรรมต่อต้านไม่เชื่อฟัง อย่าถือว่านั่นเป็นตัวตนของลูก แต่ควรเข้าใจว่า นี่เป็นอีกช่วงพัฒนาการหนึ่ง
ผศ.พญ.ปราณี เมืองน้อย กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือ รพ.เด็ก กล่าวถึงเลี้ยงลูกว่า การที่ลูกเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น อยากให้ผู้ปกครองเข้าใจว่า วัยรุ่น หมายถึง ช่วงเปลี่ยนผ่านจากความเป็นเด็กสู่ผู้ใหญ่ ไม่เพียงด้านร่างกาย แต่ยังรวมถึงความคิด จิตใจด้วย ซึ่งอาจรู้สึกว่าลูกมีอารมณ์แปรปรวน อ่อนไหวง่าย หรือพูดนิดหน่อยก็โกรธ ไม่พอใจ ต่อต้าน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ก่อนหน้านี้ลูกไม่เคยเป็น ดังนั้น ในเวลานี้พ่อแม่ควรเปิดใจให้กว้าง ทำความเข้าใจลูก หากลูกมีคำพูดหรือพฤติกรรมต่อต้านไม่เชื่อฟัง อย่าถือว่านั่นเป็นตัวตนของลูก แต่ควรเข้าใจว่า นี่เป็นอีกช่วงพัฒนาการหนึ่งของลูก ไม่ต่าง กับตอนที่ลูกเป็นเด็กเล็ก ทั้งนี้ มีงานวิจัยจาก Berlin’s Max Planck Institute ที่พบว่าการเชื่อมโยงเส้นใยสมองของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี มีความเหมือนกับพัฒนาการสมองของเด็กอายุ2-3 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกมักร้องอาละวาด เอาแต่ใจ แต่เมื่อเกิดขึ้นในวัยรุ่น ที่ทักษะการสื่อสารพัฒนาเต็มที่แล้ว การเลือกใช้คำและความคิดที่ซับซ้อนขึ้น ก็อาจทำให้พ่อแม่ปวดหัวเพิ่มขึ้น
ผศ.พญ.ปราณีกล่าวต่อว่า การอยากรู้อยากลอง เป็นอีกพฤติกรรมของวัยรุ่นที่พบบ่อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งความต้องการเป็นอิสระจากพ่อแม่ ก็อาจทำให้ลูกวัยรุ่นมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนถึงพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งความรุนแรง พฤติกรรมทางเพศ ปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งผู้ปกครองอาจต้องเฝ้าสังเกตพฤติกรรมลูกอยู่ห่างๆ แต่ไม่ใช่จ้องจับผิด