รพ.จุฬาฯ ตั้งกองทุน “ไม้เท้าพาร์กินสันพระราชทาน”

รพ.จุฬาฯ ตั้งกองทุน “ไม้เท้าพาร์กินสันพระราชทาน” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เชิญชวนคนไทยบริจาคเงินสมทบทุนพัฒนาไม้เท้าติดเลเซอร์ กระตุ้นการฝึกเดิน เพื่อช่วยหลือผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน พบผู้ป่วยเกือบ 70%ยังเข้าไม่ถึงการรักษา อันตรายอาการรุนแรงรักษาไม่หาย   


รศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์รักษาโรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคเคลื่อนไหวผิดปกติ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย กล่าวว่า โรคพาร์กินสัน มักพบในผู้สูงอายุ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เป็นโรคที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ มีอาการเริ่มจากมือสั่น เกร็ง และลามไปที่เท้า กลืนอาหาร น้ำลายลำบาก หายใจยาก หากไม่ได้รับการรักษาอาการจะทรุดลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน เกือบ 70%ยังไม่เข้าสู่ระบบการรักษาและมีอาการเข้าสู่ระยะท้าย เพราะยารักษาโรคนี้มีราคาแพง ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้ยาก ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันจำเป็นต้องได้รับยา พร้อมกับการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้อาการทุเลาลง 


รศ.นพ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า สาเหตุของโรคพาร์กินสัน เกิดจาก 1.อายุที่เพิ่มขึ้น 2.พันธุกรรม ซึ่งพบในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย ที่ผ่านมาเคยพบผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดอายุเพียง 20ปี 3.ศีรษะถูกกระแทกและกระทบกระเทือนบ่อยๆ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างในกลุ่มนักมวย พบว่า นักมวยที่มีจำนวนการชกเกิน 100ยก มีอัตราเสี่ยงเกิดโรคพาร์กินสันได้มากกว่า และ 4.สารเคมี จากการสำรวจพบว่า ภาคกลางพบผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมากที่สุดที่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี และอยุธยา มีผู้ป่วยเกิน 200คนต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับอัตราการเกิดโรคทั้งประเทศอยู่ที่ 110คนต่อประชากรแสนคน  มีความเป็นไปได้ว่า อาจเชื่อมโยงกับปริมาณการใช้สารเคมี เพราะยังไม่มีการตรวจร่างกายและเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจอย่างละเอียด  ทั้งนี้ ไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเกิดจากสารเคมี


รศ.นพ.รุ่งโรจน์ กล่าวต่อว่า ศูนย์รักษาโรคพาร์กินสันฯ มีโครงการพัฒนาไม้เท้า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน มีอาการเดินติดคือ ไม่สามารถก้าวขาได้เนื่องจากสมองไม่สั่งการ จึงต้องมีอุปกรณ์ช่วยกระตุ้นการก้าวเดิน ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาไม้เท้าเพื่อช่วยกระตุ้นการเดินเป็นเวลา 2ปีมาแล้ว โดยล่าสุดได้ติดกล่องเลเซอร์บนหัวไม้เท้า และติดเซ็นเซอร์ที่ปลายไม้ เพื่อยิงแสงเลเซอร์เป็นเส้นที่พื้น กระตุ้นให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น  โดยได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิขาเทียมในการผลิต ต้นทุนอยู่ที่ 1,500บาท


“โครงการดังกล่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงให้ความอนุเคราะห์ และทรงสนพระทัยเป็นอย่างมาก จึงมีการจัดตั้งกองทุนและพระราชทานชื่อ “ไม้เท้าพาร์กินสันพระราชทาน” เปิดรับลงทะเบียนผู้ป่วยเพื่อขอรับไม้เท้าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553เป็นต้นมา มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 40,049คน คาดว่าเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดเท่านั้น และพบว่า ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนจะเป็นผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการมาแล้ว 2-5ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อาการเริ่มแย่ลง เคลื่อนไหวได้ช้าลง โดยผู้ป่วยจะได้รับพระราชทานไม้เท้าในเดือนมิถุนายน 2554นี้ ”รศ.นพ.รุ่งโรจน์ กล่าว


ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการร่วมสมทบทุนเพื่อผลิตไม้เท้าให้ผู้ป่วยพาร์กินสัน สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา สาขาศาลาแดง ชื่อบัญชี กองทุนโรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ เลขที่บัญชี 103-1-33090-9 1 (สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษี) หรือ ธนาคาร ไทยพาณิชย์  สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี สภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-88000-6 (สำหรับผู้ที่ต้องการใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษี) หรือโครงการศูนย์นวัตกรรมโรคพาร์กินสันเลขที่ 430-0166  หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รักษาโรคพาร์กินสันฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร 02-256- 4630 โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่องทางรับบริจาค


 


 


ที่มา : สำนักข่าว สสส.

Shares:
QR Code :
QR Code