รณรงค์ให้ของขวัญปลอดภัย งานเลี้ยงไหนก็ไม่ดื่ม
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
แฟ้มภาพ
ปลุกเทรนด์ใหม่! เครือข่ายเด็กและเยาวชน 20 องค์กร จับมือ สสส. รณรงค์สร้างค่านิยมส่งความสุขปีใหม่ “ให้ของขวัญปลอดภัย งานเลี้ยงไหนก็ไม่ดื่ม” พร้อมเปิดตัวเพลงรณรงค์ห่างไกลสุรา ด้าน "เหยื่อเมาแล้วขับ" วอนผู้ใช้ถนนเทศกาลปีใหม่ มีสติ ไม่ประมาท คิดถึงเพื่อนร่วมทาง
วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ร่วมกับเครือข่ายเด็กและเยาวชนกว่า 20 องค์ จับมือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างค่านิยมส่งความสุขปีใหม่ “ให้ของขวัญปลอดภัย งานเลี้ยงไหนก็ไม่ดื่ม” ภายในงานมีการเปิดตัวเพลงรณรงค์ "กุสุรา" จากนักเรียนวงตะโพนไทย โรงเรียนโนนคร้อวิทยา จ.ชัยภูมิ และเพลง stopdrink จากวง DS.RU.BAND โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง และเสวนาเปิดใจเยาวชนเหยื่อเมาแล้วขับและเยาวชน ที่ก่อเหตุเมาแล้วขับจนถูกพิพากษาจำคุก
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า สถิติมอบของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีแนวโน้มลดลงทุกปี เห็นได้จากผลสำรวจ พฤติกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาล จากโครงการประเมินผลการรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2562” ของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAAB) พบว่า มีผู้ที่เคยได้รับของขวัญเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ร้อยละ 8.8 ซึ่งลดลงร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับผลสำรวจปี 2561 ที่มีอยู่ร้อยละ 11.3
นอกจากนี้ ในกลุ่มที่เคยได้รับ ส่วนใหญ่ร้อยละ 60.9 ได้รับน้อยลง ขณะที่ร้อยละ 33.6 ยังได้รับเป็นปกติ มีเพียงร้อยละ 1.7 เท่านั้นที่ได้รับมากขึ้น ดังนั้นการรณรงค์ในปี 2563 สสส. ยังคงต่อยอดการดำเนินงานเรื่องการ “ให้เหล้า เท่ากับแช่ง” ด้วยการสร้างทัศนคติ ให้คนไทยมอบของขวัญปลอดภัย เลือกของขวัญสุขภาพที่มีคุณค่าทางใจและมีประโยชน์ด้านสุขภาพต่อผู้รับมากขึ้น เน้นการให้ของขวัญที่ดีที่สุดด้วยการไม่มีเหล้า
"การมอบของขวัญปลอดเหล้านอกจากจะทำให้ผู้รับได้รับของขวัญที่มีคุณค่าทางใจแล้ว ยังลดอัตราการเสียชีวิตจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการเจ็บและเสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกปี จากสถิติปี 2562 พบว่า การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 43.66% (ข้อมูลจากการดื่มแล้วขับปี 2562 อุบัติเหตุ 3,791 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 463 คน)" ดร.สุปรีดา กล่าว
นายธัญเทพ อภิณหวัฒน์ อายุ 16 ปี ตัวแทนเยาวชนจากวงตะโพนไท โรงเรียนโนนคร้อวิทยา จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตนตั้งใจแต่งเพลงกุสุรา โดยได้รับรางวัลเพลงรณรงค์ยอดเยี่ยมจากเครือข่ายงดเหล้า เพลงนี้แต่งขึ้นมาจากสิ่งรอบตัว เห็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตั้งแต่เด็ก ยายเล่าให้ฟังว่าตนลืมตาดูโลกได้เพียง20วัน พ่อก็เสียชีวิตเพราะเมาแล้วขับ ส่วนเนื้อหาของเพลง อยากสื่อว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับความตายเป็นของคู่กัน น้ำเมาเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรดื่ม ทำให้ชีวิต ครอบครัว คนรอบข้างมีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ ทุกวันนี้ตนจะใช้เวลาอยู่กับดนตรี แต่งเพลง ไม่ได้หวังว่าจะต้องดังมีชื่อเสียง ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ เพียงแต่ต้องการพื้นที่สร้างสรรค์ ต้องการแสดงออก เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่เอาเวลาไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข
นางสาวอนงค์ ทับทิมเทศ อายุ 31 ปี เหยื่อเมาแล้วขับ กล่าวว่า กว่า 16 ปี ที่ต้องกลายเป็นคนพิการ เพราะถูกคนเมาขับรถเก๋งพุ่งมาชนขณะขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องนั่งวีลแชร์ไปตลอดชีวิต รักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 6 เดือน คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยม สู้คดีกว่าจะสิ้นสุด ส่วนเงินเยียวยาเทียบไม่ได้กับสิ่งที่สูญเสียไป
“กว่า 2 ปี ที่ต้องเก็บตัวเงียบ ไม่คุยกับใคร ไม่อยากเจอใคร ใช้ชีวิตลำบาก เคลื่อนย้ายตัวเองไปรถเข็นยังทำไม่ได้ เคยคิดสั้นหลายครั้ง เพราะไม่อยากเป็นภาระพ่อ สุดท้ายกำลังใจจากพ่อที่ไม่เคยทิ้งเรา ทำให้ลุกขึ้นมาสู้นับ1ใหม่ได้อีกครั้ง เริ่มจากฝึกทำกายภาพบำบัด ช่วยเหลือตัวเองได้เบื้องต้น อยากฝากถึง คนที่ดื่มแล้วขับ ให้ใช้สติบนพื้นฐานของความไม่ประมาท ทุกคนรักชีวิต ต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมทาง อย่ามาดับโอกาสดับฝันคนอื่น เพราะเมื่อมีแอลกอฮอล์เข้าไปเกี่ยวข้อง มักจบไม่สวย” นางสาวอนงค์ กล่าว
ด้านนายนิรันดร ถาวงษ์กลาง อายุ 22 ปี เยาวชนที่เคยก่อคดีเมาแล้วขับ ได้รับโทษจำคุก ปัจจุบันเป็นอาสาสมัครรณรงค์ลดอุบัติเหตุกับเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต กล่าวว่า เริ่มดื่มและสูบบุหรี่ตอนอายุประมาณ 14-15 ปี สาเหตุติดเพื่อน เห็นเพื่อนดื่มเพื่อนสูบจึงทำตาม พอจบม.3 ไม่ได้เรียนต่อ ชีวิตเริ่มมีอิสระตอนนั้นทำงานทั่วไป ใครจ้างทำอะไรทำหมด แต่เงินที่ได้แทนที่จะเก็บหรือให้แม่ กลับเอาเงินไปเลี้ยงเหล้าเพื่อนแทน ก่อนหน้านั้นเคยถูกตำรวจจับ เพราะเมาแล้วขับ โทษรอลงอาญา แต่ก็ยังขับรถประมาทเหมือนเดิม
“ครั้งนั้นพอเจอด่านทำให้ตกใจ หักรถกลับย้อนศรชนกับรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณีอย่างรุนแรง คู่กรณีบาดเจ็บสาหัส ส่วนผมไหปลาร้าหัก และขาเป็นแผลเย็บ20เข็ม สิ่งที่ผมเสียใจ คือ ผมคิดและรู้สึกผิดอย่างมาก ที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน มันเกิดจากความประมาททั้งนั้น
หลังจากเกิดเหตุ ชีวิตก็เปลี่ยนไป ผมเห็นน้ำตาแม่ทุกวัน คนในครอบครัววิ่งหาเงิน และผมก็สูญเสียงานที่ทำ เพราะต้องลางานไปเรื่องคดี ในที่สุดศาลมีคำตัดสินให้ผมติดคุกเป็นเวลา 9 เดือน เพื่อนร่วมวงดื่มที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อนตาย ไม่เคยมาให้เห็นหน้าตั้งแต่เกิดเรื่องจนติดคุก” นายนิรันดร กล่าว
นายนิรันดร กล่าวทิ้งท้ายว่า ปีใหม่นี้อยากฝากไปถึงทุกคนให้เคารพกฎจราจร กติกาสังคม ไม่ประมาทกับชีวิตนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น อย่าเอาความมักง่ายของตัวเองมาใช้ในสังคม เพราะถ้าพลาดขึ้นมา ชีวิตจะเปลี่ยนทันที