รณรงค์รับมือปีใหม่ ชูแคมเปญ“บนรถไฟและสถานีปลอดบุหรี่และสุรา”
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
แฟ้มภาพ
สสส.ผนึก รฟท. ตำรวจรถไฟ รณรงค์รับมือปีใหม่ ชูแคมเปญ “บนรถไฟและสถานีปลอดบุหรี่และสุรา” หวังสร้างความอุ่นใจปลอดภัยกลับถึงบ้าน ย้ำอย่าละเมิดกฎหมายขายดื่มสุรา-สูบบุหรี่และหยุดพฤติกรรมเสี่ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เวลา10.30 น.ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พันตำรวจเอกสุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ชูแนวคิด“บนรถไฟและสถานี ปลอดบุหรี่และสุรา” ทั้งนี้ในงานมีการจำลองสถานการณ์พฤติกรรมเสี่ยง และผิดกฎหมายบนรถไฟ จากนั้นเดินรณรงค์แจกสื่อและติดสติกเกอร์ ข้อความ “บนรถไฟและสถานี ปลอดบุหรี่และสุรา” บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง และขบวนบนรถไฟ
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อสารกับพ่อค้าแม้ค้า นักท่องเที่ยว ผู้มาใช้บริการรถไฟ และประชาชนทั่วไป ให้รับรู้ถึงผลกระทบจากบุหรี่และสุรา อีกทั้งต้องการสร้างความตระหนักต่อพฤติกรรมเสี่ยง พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในการเดินทางด้วยรถไฟ ที่สำคัญคือ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายห้ามขาย ห้ามสูบบุหรี่บนรถไฟและสถานี รวมถึงห้ามขายห้ามดื่มสุราบนรถไฟและสถานี ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ลงนามบังคับใช้เมื่อปีที่ผ่านมา อีกทั้งข้อมูลของเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ที่ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกฎหมายนี้ พบกว่า 93.53% สนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางด้วยรถไฟ คือ 44.23%เสียงดังรบกวนสร้างความรำคาญ 29.31%เกิดการทะเลาะวิวาท 10.60% เกิดอุบัติเหตุ 8.45%ลวนลาม/คุกคามทางเพศ และ 7.41% มีการลักขโมย ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ สสส.และภาคีเครือข่าย ต้องการขยายพื้นที่ปลอดภัยทางสุขภาวะของประชาชนให้คลอบคลุมถึงรถไฟ ทำบนรถไฟและสถานี กลายเป็นพื้นที่สร้างเสริมสุขภาพของประชาชนโดยสมบูรณ์ ขณะเดียวกันประเด็นรณรงค์ควันบุหรี่มือสองในสถานบริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งคลอบคลุมถึงรถไฟด้วยนั้น ในภาพรวมถือว่าดีขึ้นมาก สะท้อนจากข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2554 มีผู้พบเห็นคนสูบบุหรี่ 49.57% แต่ในปี 2557 ลดลงเหลือ 24.27% ดังนั้นหากประชาชนช่วยกันเคารพกฎกติกา เคารพสิทธิของผู้อื่น การเดินทางโดยรถไฟในปีใหม่นี้จะเป็นการเดินทางที่ปลอดภัยและมีความสุขอย่างแน่นอน
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การขายและดื่มสุราบนรถไฟเป็นปัญหาใหญ่และส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสาร ซึ่งการรถไฟฯ ได้ประกาศควบคุมการดื่มสุราบนรถไฟและสถานีรถไฟ ห้ามไม่ให้มีการเร่ขายสุราบนรถไฟเด็ดขาด ซึ่งมีแนวปฏิบัติเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน ขณะเดียวกันผู้โดยสารส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนี้ เพราะช่วยให้ปลอดภัย ลดปัญหาความเดือดร้อนรำคาญจากคนเมาขาดสติ เสียงดังรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ที่สำคัญมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทำร้ายร่างกายกันได้ง่าย ซึ่งได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย คุมเข้มขบวนรถไฟให้ปลอดสุรา พร้อมเน้นย้ำพนักงานขับรถ ก่อนขับแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจความปลอดภัย ประจำการรถไฟทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กรณีฉุกเฉินตลอด24ชั่วโมง ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประจำสถานีและขบวนรถไฟ และห้ามใช้หลังคาบันไดและบริเวณข้อต่อรถไฟเป็นที่โดยสาร หวังว่าปีใหม่นี้บรรยากาศการเดินทางจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย และตระหนักถึงปัญหาพิษภัยจากสุรา
ขณะที่ พันตำรวจเอกสุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจรถไฟ ร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งหน่วยบัญชาการสอบสวนกลาง ตั้งจุดบริการและจุดตรวจสอบใหญ่ทั้งหมด4จุด คือหัวลำโพง แอร์พอร์ตลิ้งมักกะสัน สถานีรถไฟเชียงใหม่ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่29ธ.ค.59-4ม.ค.60เพื่อช่วยดูแลป้องกันเหตุ และอำนวยความสะดวก จัดสภาพแวดล้อมแก่ผู้โดยสารรถไฟให้ปลอดภัย โดยมีกล้องCCTVคอยช่วยสังเกตการณ์ ทั้งนี้สิ่งที่ยังเป็นปัญหาทุกปี คือ คดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน เนื่องจากปีที่ผ่านมามีผู้ทำผิดและถูกดำเนินคดีกว่า700 ราย ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ฝ่าฝืนสูบบุหรี่บนรถไฟและสถานี มีโทษปรับไม่เดิน 2,000 บาท สำหรับผู้ที่ขายหรือดื่มสุรา มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามปีใหม่นี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎหมาย หยุดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆและไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น หรือหากพบปัญหาหรือไม่ได้รับความสะดวกปลอดภัย สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน 1194