รณรงค์ป้องกันเบาหวาน-ความดัน

สนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง

 

          สาธารณสุขจัดโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชนต่อเนื่องปีที่ 2 มุ่งสกัดโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปจำนวน 45 ล้านคนทั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

รณรงค์ป้องกันเบาหวาน-ความดัน

 

          นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ จำนวน 200 คน เพื่อมอบนโยบายการรณรงค์สร้างสุขภาพประชาชน ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม2554

 

          นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชนเป็นปีที่ 2 ดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค.53-ธ.ค.54 เป้าหมายหลักเพื่อตรวจสุขภาพประชาชนชายหญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนประมาณ 45 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง และสกัดผู้ที่มีความเสี่ยงจะป่วยไม่ให้กลายเป็นป่วย เนื่องจาก 2 โรคนี้เป็นภัยเงียบของคนไทย มักพบในวัยผู้ใหญ่จนถึงผู้สูงอายุ เมื่อป่วยแล้วจะรักษาไม่หายขาดและมีโรคแทรกเกิดตามมาได้หลายโรค หากไม่เร่งแก้ไขจะทำให้คนไทยอายุสั้นลงเรื่อยๆ จำนวนผู้พิการจะมีมากขึ้น

 

          ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีประชาชนเจ็บป่วยจาก 2 โรคนี้ และเข้ารักษาในโรงพยาบาลปีละกว่า 2 ล้านราย เสียชีวิตรวม 10,188 ราย จึงต้องเร่งรณรงค์ป้องกันการเจ็บป่วยทุกวิถีทาง ในการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวนี้ ได้ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ร่วมกับ อสม. กว่า 9 แสนคน ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และตรวจวัดความดันโลหิตฟรีเพื่อให้การดูแลอย่างต่อเนื่องทั้งคนปกติ คนเสี่ยง คนป่วย โดยในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะจัดหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ออกคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงอำเภอละ 1 ทีมพร้อมกัน รวม 878 ทีมทั่วประเทศ

 

          นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินการโครงการในปีแรกคือปี 2552 ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-5 ธ.ค. ประสบผลสำเร็จอย่างสูง โดยตรวจพบผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเสี่ยงป่วยเป็นเบาหวาน 1.7 ล้านคน พบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ 3.5 แสนคน และรายเก่า 1 ล้าน 7 หมื่นกว่าคน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน 107,225 คน อันดับ 1 คือตาต้อกระจก รองลงมา คือ แผลที่เท้าและไตวาย ส่วนโรคความดันโลหิตสูง พบผู้ป่วยรายใหม่ 6.5 แสนคน รายเก่า 1.5 ล้านคน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน 93,144 คน อันดับ 1 คือ โรคหัวใจ รองลงมา คือ เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกและไตวาย โดยตรวจพบผู้มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติเสี่ยงป่วยอีก 2.4 ล้านคน และพบผู้ที่ป่วย 2 โรค เป็นทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูง 681,220 คน

 

          “สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จะแบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ กลุ่มปกติ จะรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมถนอมสุขภาพดี เช่น ออกกำลังกาย ลดอาหารรสหวาน มัน เค็ม ไม่ดื่มสุราและสูบบุหรี่ กลุ่มที่เสี่ยงป่วยจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรายบุคคล ลดพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ให้กลายเป็นคนป่วย ในกลุ่มที่ป่วยแล้วแต่ยังไม่มีโรคแทรกซ้อน จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน และตรวจค้นหาโรคแทรกซ้อน ส่วนกลุ่มที่ป่วยและมีโรคแทรกซ้อนแล้ว ก็จะได้รับการรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิดจากโรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลศูนย์”

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

 

 

update : 02-12-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

Shares:
QR Code :
QR Code