ยอดดื่มน้ำเมาเพิ่มช่วงบอลโลก

ยอดคนถูกมัจจุราชเรียกก็เพิ่ม

 

          ถึงวันนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกยังไม่จบ มีการแข่งขันกันไปจนถึงวันที่ 11 ก.ค.53 คนไทยเป็นอีกชาติหนึ่งที่มีความรักความชอบในเกมกีฬานี้โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน กลุ่มคนในวัยทำงาน  อย่าว่าแต่ฟุตบอลโลกที่ยังไงเสียคนที่ชื่นชอบเห็นจะพลาดยากแม้แต่บอลไทยที่กำลังจัดระบบเป็นลีกเป็นดิวิชั่นก็เรียกความนิยมได้หนาตาแล้ว

 

          ฟุตบอลระดับโลกจึงเป็นสิ่งดีอย่างหนึ่งของเรา คือ กระตุ้นให้เกิดการพัฒนากีฬาฟุตบอลในประเทศได้เป็นตัวอย่างความตื่นตัวของบอลลีกบอลดิวิชั่นไทย

 

          แต่บอลระดับโลกก็มีส่วนสร้างผลเสียให้เกิดขึ้นกับคนไทยสังคมไทยไม่น้อย อย่างที่พูดกันมาสองสามตอนเรื่องของผลเสียของฟุตบอลโลก

 

          อย่างหนึ่งก็คือ การดูบอลเพื่อการพนัน อันเป็นเรื่องผิดกฎหมายและนำไปสู่การสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมากมายทางหนึ่ง ถึงวันนี้มีข่าวการจับกุมโต๊ะพนันบอลได้เป็นจำนวนมาก มูลค่าการพนันบอลมีมหาศาลมีนักพนันที่เป็นทั้งเยาวชนและคนทำงานเสียพนัน คิดเป็นตัวเงินหลักหลายสิบล้านแล้ว ว่ากันว่าเฉพาะรายจิ๊บจ๊อยไม่รวมรายใหญ่เพราะยังค้นโต๊ะไม่พบ

 

          ท่ามกลางความห่วงใยของหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง คนในครอบครัว ครูอาจารย์หรือกระทั่งหน่วยงานอิสระอย่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่เป็นเรี่ยวแรงในการประชาสัมพันธ์ให้ดูบอลโลกโดยไม่มีการพนัน แต่เสียงความห่วงใยดังกล่าวดูเหมือนไม่ได้รับการสนองตอบ

 

          อีกทางหนึ่งที่น่าห่วงที่สุด คือดูบอลโลกไปกินเหล้าไป เหล้ามีโอกาสนำไปสู่อันตรายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ถ้าเป็นที่บ้านของตัวเองเมาแล้วก็หลับพักผ่อนไป แต่ถ้าไปดูบอลที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง ดูแล้วต้องขับรถกลับบ้านขณะกำลังเมา ยิ่งถ้าเสียพนันเข้าไปด้วยสติที่จะควบคุมตัวเองยิ่งน้อยลงไปอีกจึงดูเหมือนว่าคนกลุ่มนี้กำลังมองเห็นมัจจุราชกวักมือเรียกอยู่ไหวๆ

 

          ดูบอลไปกินเหล้าไปไม่ใช่จะเสียแต่พนัน มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของตัวเองจนถึงครองครัว แล้วยังเสียค่าน้ำเมา เสียสุขภาพ จนถึงเสียสติอันเป็นทางพาไปสู่ความตายคือไปอยู่กับมัจจุราชดังที่ว่า

          พูดถึงเรื่องนี้มีผลสำรวจพฤติกรรม”การติดตามชมฟุตบอลโลก 2010 ของคนกรุงเทพฯ” ระหว่างวันที่ 4-18 มิถุนายน 2553 ของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2553 นี้ ประชาชนในกรุงเทพฯ จะนิยมเลือกซื้อสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นลำดับ 2 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16.7 รองจากขนมขบเคี้ยวที่มีสัดส่วนร้อยละ19.2

 

          โดยสนใจติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้ที่บ้านของตนเอง รวมทั้งบ้านเพื่อน รวมกันสูงถึงร้อยละ 75.4 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจทั้งหมด

 

          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่าตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกปีนี้ จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณร้อยละ10 หรือคิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ ประมาณ 1,700 ล้านบาทซึ่งปัจจัยดังกล่าวนับเป็นโอกาสดีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่จะเร่งกระตุ้นยอดขายตลอดช่วง 1 เดือน ที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกให้กลับมามีความคึกคักขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่ายอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจะไม่สามารถทดแทนกับยอดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ชะลอตัวลงในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2553 เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยทางด้านการเมือง

 

          แต่อย่างไรก็ตามการที่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จัดกิจกรรมในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างต่อเนื่อง ก็ส่งผลดีต่อการกระตุ้นตลาดรวมทั้งการสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้เป็นที่จดจำของผู้บริโภคในระยะยาวอันจะเป็นผลดีต่อการทำตลาดในระยะต่อๆ ไป

 

          ส่วนผลร้ายคือนักนิยมดูบอลไปเล่นพนันไปดื่มน้ำเมาไป นอกจากเพิ่มการสูญเสียให้ตัวเองและครอบครัวแล้ว ยังมีผลพวงไปถึงสังคมโดยรวมทั้งทางเศรษฐกิจ เวลา และสุขภาพแล้วยอดคนที่มัจจุราชกวักมือเรียกหาก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเพราะหนีหนี้ หรือเพราะอุบัติเหตุก็ตาม

 

          ถ้าไม่อยากให้มัจจุราชกวักมือเรียก ก็ต้องเชื่อ สสส.ดูบอลโดยไม่ดื่มน้ำเมาและเล่นพนัน

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

 

Update: 01-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ