ม.หอการค้าไทยเสวนาทำCSRธุรกิจยุคใหม่
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและเครือข่ายปฏิบัติการ CSR สนับสนุนโดย สสส. จัดเสวนา ธุรกิจยุคใหม่ เติมสุขจากภายใน ใส่ใจสังคมิ โดยมีภาคธุรกิจ สื่อมวลชน และนักวิชาการ เข้าร่วมฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กันอย่างคึกคัก
รศ.ทองทิพภา วิริยะพันธุ์ ประธาน CSR พอเพียง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หลายคนเข้าใจว่าต้องให้รวยก่อนแล้วค่อยดูแลสังคม ความจริงนั้น ไม่ว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่รวมทั้งเอสเอ็มอีก็สามารถทำCSR หรือดูแลรับผิดชอบต่อสังคมได้หมด ไม่ต้องรอให้รวยหรือให้ได้ผลกำไรมากๆ ก่อน
รศ.ทองทิพภา กล่าวถึงผลสำเร็จในการดำเนินการทำCSR พอเพียงที่หมู่บ้านซับผุด ต.ยางหลายคนสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ว่า ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดนายอำเภอ หน่วยงานในท้องถิ่น อย่างอบต. และภาคเอกชนที่ให้ความช่วยเหลือบริจาควัตถุดิบต่างๆเพื่อให้ก่อสร้างประปาภูเขาจากน้ำตกซับผุดมาใช้ในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของชาวบ้านเอง โดยเน้นการให้วัตถุดิบเพียงอย่างเดียว ส่วนค่าแรงในการทำงานนั้น ชาวบ้านจะต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นการสอนให้หาเหยื่อเองวิธีการดังกล่าวปรากฎว่าได้ผลเพราะทำให้ชาวบ้านเกิดการรวมกลุ่ม เกิดความสามัคคีและเรียนรู้ที่จะพัฒนาและพึ่งพาตนเอง กระทั่งทุกวันนี้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่นั่นเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่รายจ่ายลดลง และมีเงินเก็บ
“ในการทำCSRพอเพียงจะสำเร็จได้ต้องใช้ความรู้ความรักและความห่วงใยตัวตั้ง ที่สำคัญต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ดังนั้นขอให้มีใจ มีศรัทธาและมีความอดทน ไม่ท้อที่จะทำความดี หลังจากนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากCSRพอเพียงนั่นก็คือ ภาคีเครือข่ายที่จะมีมากขึ้น และในการพัฒนาชุมชนให้ได้ผลจะต้องระเบิดจากข้างในก่อน อีกทั้งต้องให้ชาวบ้านยืนได้ด้วยตัวเอง” รศ.ทองทิพภากล่าว
สุกิจ อุทินทุ รองประธานสายงานCSR Minor International public o กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนาว่า ตอนนี้ในการรับสมัครคนทำงานหลายบริษัทจะสอบถามก่อนว่าในสมัยเรียนเคยทำกิจกรรมเพื่อสังคมอะไรมาบ้าง หากทำมาจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะนักศึกษาที่ผ่านการทำกิจกรรมมาจะสามารถทำงานกับคนได้หลากหลาย ที่ผ่านมาทางพนักงานกลุ่มไมเนอร์ได้รวมตัวกันทำ CSR ในหลากหลายรูปแบบซึ่งเมื่อทำแล้วพนักงานต่างมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากนี้ยังเพิ่มขีดความสามารถของตัวองค์กรได้อีกด้วย อีกทั้งการทำซีเอสอาร์ได้ประโยชน์กับทุกฝ่าย
พฤฒิ เกิดชูชื่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดรี่โฮม จำกัด กล่าวว่าบริษัทได้ทำCSRมา 10 กว่าปีแล้ว พร้อมๆกับการทำออแกนิก โดยนอกจากจะลดต้นทุนทุกอย่างในการผลิตแล้ว ยังต้องเปลี่ยนทัศนคติของคนทำงานและเกษตรกรด้วย นั่นคือ อย่ามุ่งกำไรเป็นตัวตั้งทุกอย่าง ต้องทำให้เกิดความสมดุลไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ การใช้ชีวิต และเรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นความเป็นอิสระมุ่งพึ่งพาตนเอง แทนที่จะพึ่งพาปัจจัยจากภายนอก ทุกวันนี้วัตถุดิบและขั้นตอนการผลิตของบริษัทเป็นออแกนิก และน้ำเสียในโรงงานก็เป็นซีโร่เวสต์ซึ่งในการทำธุรกิจนั้นจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ลูกค้าและพนักงาน
นงค์นาถ ศรีสกุล ห่านวิไล ผช.กก. ผอ.บ.เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการทำCSRของบริษัทต่างๆนั้น มีบางบริษัทเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกินความจริงเป็นการสร้างภาพ ซึ่งไม่ควรจะทำถือเป็นการทำCSRเทียม ความจริงสื่อมวลชนต้องการลงข่าวเผยแพร่กิจกรรมCSRที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอยู่แล้ว และมีพื้นที่ให้เสมอ สื่อมวลชนเน้นการยกย่องคนดี อยากให้นักศึกษาอย่าไปยกย่องนักธุรกิจที่รวยอย่างเดียว เพราะบางคนมีอำนาจมีเงินแต่ไม่มีคุณธรรม อย่างคนที่ไปสมัครทำงานที่กลุ่มเนชั่นหากเคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยมาก่อนก็จะได้รับการพิจารณา ถ้าได้เกรดสูงแต่เป็นคนเห็นแก่ตัวบริษัทก็ไม่รับเข้าทำงาน
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต