มาลัยเรียงร้อยเล่าเรื่่องดอกไม้
บ้านไม้สักโบราณสไตล์โคโลเนียลอายุราวร้อยปี ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่ ประดับประดาด้วยดอกกล้วยไม้บานสะพรั่ง ในซอยองครักษ์ 13 เขตดุสิต ปรับโฉมเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ (the museum of flora cuture) ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยมีศิลปินนักจัดดอกไม้ชื่อก้องมากฝีมือสกุลอินทกุล เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ล่าสุดพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้แห่งนี้ เปิดประตูต้อนรับนักปั่นน่องเล็กกว่าร้อยชีวิต ที่ร่วมในโครงการ “ปั่นปันปัญญา ปิดเทอมสร้างสรรค์ ชวนอ่านสร้างสุข” จัดโดยแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร
ชมรมจักรยานปั่นปันปัญญา และ บริษัท แอลเอ ไบซิเคิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด พาเด็กๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจกับ 3 ห้องสมุดกรุงเทพมหานคร โดยแวะเวียนไปเรียนรู้กันที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ด้วย
งานนี้เจ้าบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมชักชวนเด็กๆ ร่วมร้อยมาลัย สัมผัสวิถีชีวิตไทยแต่เก่าก่อนเพียงเข็ม ด้าย และดอกไม้ต่างๆ ทั้งดอกรัก ดอกพุด ดอกกล้วยไม้ และดอกบานไม่รู้โรย ไม่นานดอกไม้ทั้งหมดจากมือเล็กๆ เรียงร้อยเข้ากันด้วยความพิถีพิถัน กลายเป็นมาลัยคล้องคอแบบง่ายๆ ที่เด็กๆ ทั้งเด็กหญิงเด็กชายทำได้ด้วยตัวเอง พร้อมมอบให้คนสำคัญ
จากนั้นเด็กๆ แบ่งกลุ่มกันเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ ห้องแรก “หอภาพดุสิต” จัดแสดงภาพโบราณที่สำเนาจากจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร รวมทั้งภาพถ่ายโบราณวิถีชีวิตของผู้คน และงานสถาปัตยกรรมในอดีตของเขตดุสิต เป็นภาพเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมดอกไม้ในอดีตเมื่อ 120 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้หลายคนตื่นตาตื่นใจไปกับความงามของเครื่องแขวนโบราณ สมัยรัชกาลที่ 5 ประดิษฐ์โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสมรัตนสิริเชษฐ์ พระเชษฐภคินี และภาพถ่ายขบวนรถบุปผชาติขบวนแรกๆ ของไทย
ถัดมาเป็นห้อง “โลกแห่งวัฒนธรรมดอกไม้” บอกเล่าถึงวัฒนธรรมดอกไม้ที่สำคัญจากต่างประเทศอันมีเอกลักษณ์ เช่น อินเดีย จีน ญี่ปุ่น บาหลี ทิเบต ภายในจัดแสดงคัมภีร์ลับแห่งการจัดดอกไม้จากญี่ปุ่น อายุ 256 ปี พร้อมชมภาพถ่ายการจัดดอกไม้แบบจีน ภาพแจกันดอกไม้จีนจากวัดราชโอรสวรวิหาร ไม่ไกลกันจัดแสดงวัสดุอุปกรณ์แบบต่างๆ ในการจัดดอกไม้ แผนที่ขนาดใหญ่บอกเล่าเส้นทางสายดอกไม้
ด้านหลังกระจกบานใหญ่ คือห้อง “อุโบสถแห่งดอกไม้” เล่าถึงความสัมพันธ์ของป่าไม้ สายน้ำ ชุมชนและวัฒนธรรมดอกไม้ของผืนป่าต้นน้ำ วนอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย และชุมชนโดยรอบวัดศรีโพธิ์ชัย บ้านแสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย ที่ยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรมต้นดอกไม้ได้จวบจนปัจจุบัน
ห้องใกล้กันเป็น “หอมรดกแห่งวัฒนธรรมดอกไม้ไทย” จัดแสดงมรดกวัฒนธรรมของชาติซึ่งเป็นที่เปิดเผย ความลับและหัวใจของวัฒนธรรมดอกไม้ กับเรื่องราวเครื่องแขวน พานดอกไม้ บายศรี งานกระทงและงานใบตอง เดินขึ้นชั้น 2 พบกับห้อง “ปากกาและดินสอ” จัดแสดงภาพสเกตช์ ผลงาน สกุล อินทกุล ที่น่าตื่นตาคือภาพสเกตช์งานตกแต่งดอกไม้สดสำหรับงาน พระราชทานเลี้ยงในพระ บรมมหาราชวัง ครั้งเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี รวมถึงผลงานหลายแห่งที่สกุลฝากฝีมือไว้ในหลายประเทศ
สกุล อินทกุล เล่าว่าพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้เป็นแห่งแรกแห่งเดียวที่ยกประเด็นเรื่องนี้มาเล่า เรื่องที่นำมาเล่าผูกพันกับวิถีชีวิตของคน และเป็น พิพิธภัณฑ์เฉพาะทาง อยากให้เด็กๆ ได้มาเรียนรู้ ซาบซึ้งความสวยงาม มองวัฒนธรรมของตนในอีกมุมมองหนึ่ง เพราะดอกไม้ผูก พันกับวิถีชีวิตคนไทย “อยากให้สถานที่แห่งนี้ทำให้เด็กๆ เกิดแรงบันดาลใจ เพราะแรงบันดาลใจแม้นิดเดียวสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แม้ว่าความสนใจของเด็กๆ มีมาก แต่อยากให้เขาได้ผ่านหูผ่านตา สะกิดอยู่ในใจ เกิดความรัก ชอบและหวงแหนธรรมชาติ ดอกไม้ ต้นไม้”
สกุลกล่าวว่า ทุกเสาร์แรกของเดือนไปจนถึงสิ้นปี พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ เรียนรู้เอกลักษณ์แห่งชาติ และให้เยาวชนซาบซึ้งความเป็นไทยผ่านศิลปะการจัดดอกไม้ การประดิษฐ์ดอกไม้สด และวัฒนธรรมดอกไม้ของไทย เช่น การร้อยมาลัย เด็กๆ เคยเห็นแต่ไม่เคยทำ การที่เด็กๆ ได้เห็นดอกไม้ ต้นไม้สวยๆ และได้ร้อยดอกไม้เมื่อกลับไปบ้านเขาอาจอยากปลูกต้นไม้ อยากร้อยมาลัยบูชาพระ
“ทุกวันนี้วัฒนธรรมดอกไม้ยังปรากฏอยู่ในบ้านเรา พ่อแม่คนในครอบครัวสามารถทำร่วมกันได้ วันพระอาจชวนกันทำดอกไม้บูชา ทำมาลัยสาย ให้เด็กๆ มีส่วนร่วม ให้เด็กล่นสนุกและเรียนรู้ไปพร้อมกัน”
ด.ญ.นิธินันท์ ทองอร่าม หรือ น้องเอิร์น อายุ 13 ปี ชั้นม.1 โรง เรียนโยธินบูรณะ เล่าว่ารู้สึกชื่นชมที่ประเทศไทยเรามีพิพิธ ภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับดอกไม้ ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม มีสิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่น เข้าไปแล้วประทับใจ ได้เห็นได้รู้จักประวัติและบุคคลสำคัญที่ทำงานเกี่ยวกับกับดอกไม้ และยังได้ร้อยพวงมาลัยซึ่งไม่เคยทำมาก่อน
“เด็กผู้หญิงชอบดอกไม้ ดอกไม้เป็นตัวแทนความสวยงาม ผู้หญิงก็คู่กับดอกไม้ หนูอยากร้อยมาลัยอีก อยากเรียนรู้วิธีร้อยมาลัยที่หลากหลายมากกว่านี้ อยากทำความรู้จักพวงมาลัยหลายๆ แบบ ได้กลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆ ตื่นต้นและสนใจมาก อยากมาเที่ยวกัน ถ้าโรงเรียนจัดทัศนศึกษาหนูจะแนะนำเพิ่มพิพิธ ภัณฑ์นี้ลงไปด้วย” น้องเอิร์นบอก
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ เปิดให้ชมทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น. บัตรราคา 150 บาท โดยทุกวันเสาร์แรกของเดือน ในเวลา 10.00-12.00 น. มีการจัดกิจกรรมเรียนงานจัดดอกไม้สด และการประดิษฐ์ดอกไม้สดของไทย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดย ปฤษณา กองวงค์