“มัลติพ้อยท์” เรียนสนุกได้สุขภาวะ

 “มัลติพ้อยท์” เรียนสนุกได้สุขภาวะ thaihealth


โรงเรียนบ้านแม่อ่างขาง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารเขตพื้นที่ภูเขาสูง ขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้เด็กนักเรียนบนดอยขาดโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องของคอมพิวเตอร์ที่มีจำนวนไม่เพียงพอ


เพื่อลดปัญหาต่างๆ และเพื่อจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ ประกอบกับในโรงเรียนมีปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เนื่องจากนักเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขา ซึ่งมักจะใช้ภาษาชนเผ่าเป็นหลัก จึงนำเอา “เทคโนโลยีมัลติพอยท์” ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว แต่สามารถใช้เมาส์ได้ครั้งละหลายๆ ตัวได้ มาเป็นสื่อการสอนเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน และสามารถจัดการเรียนการสอนสำหรับผู้เรียนได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น


ต่อมาได้ขยายผลไปสู่การเรียนรู้ในเรื่อง “สุขภาวะ”โดยร่วมกับเครือข่ายกลุ่มโรงเรียนสนุกกับการเรียนรู้ร่วมกันด้วยเทคโนโลยีมัลติพอยท์ ที่อำเภออมก๋อย และอำเภอดอยเต่า ที่ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านห่างหลวง โรงเรียนบ้านแม่อ่างขาง โรงเรียนบ้านแอ่นจัดสรร โรงเรียนบ้านบงตัน  และโรงเรียนศูนย์อพยพแปลง 8 จัดทำ “โครงการสนุกกับการเรียนรู้ร่วมกันด้วยเทคโนโลยีมัลติพอยท์ สู่สุขภาวะที่ดี ที่อมก๋อย ดอยเต่า” ภายใต้โครงการ “ต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน” โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ “มัลติพ้อยท์” เรียนสนุกได้สุขภาวะ thaihealthและคุณภาพเยาวชน(สสค.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เพื่อพัฒนาหลักสูตรเทคโนโลยีมัลติพอยท์ที่สอดแทรกเรื่องสุขภาวะที่ดีเข้าไป   


นายสมพงษ์ แสนสำโรง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่อ่างขาง กล่าวว่าการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับนักเรียน ทำให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนรู้ ทำให้เด็กพัฒนาความรู้ความสามารถในการเรียนได้อย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกเบื่อในการเรียนวิชายาก ๆ  เช่น คณิตศาสตร์ และภาษาไทย นอกจากนั้นแล้วยังช่วยให้เกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาด้านการอ่าน การเขียนและการคิดคำนวณ  และมีความรู้สึกมีความสุขและสนุกสนานเพลิดเพลินอยากเรียนรู้ ซึ่งการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีมัลติพอยท์สู่สุขภาวะที่ดี เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสุขภาพในโรงเรียน ที่สอนให้เด็กรู้จักรักษาและปรับปรุงสุขภาพ ดูแลสุขภาวะของตัวเอง 


“ในหลักสูตรจะนำเรื่องสุขภาวะที่นักเรียนสามารถนำไปใช้ได้จริง ๆ ในชีวิตประจำวัน มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน อาทิ การแปรงฟัน การล้างมือ ยาเสพติด การออกกำลังกาย ไอโอดีน การป้องกันโรคต่างๆ  ตลอดจนการป้องกันตนเองให้ห่างไกลยาเสพติด เพื่อให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลแก่ครอบครัวของตนเอง และชุมชน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือเด็กๆ มีพฤติกรรมด้านสุขภาวะที่ดีขึ้นเพราะส่วนใหญ่เด็กๆ จะอยู่กับความเคยชินที่ดำเนินอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อเด็กนักเรียนได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน ก็จะเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และได้รับการปลูกฝังในสิ่งที่ดีงามก็จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อนักเรียน ชุมชน และประเทศชาติ”


 


 


ที่มา : สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.)

Shares:
QR Code :
QR Code