มอส. ถ่ายทอดความรักจากแม่ ผ่านกิจกรรม My Idol

มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม เก็บตกเรื่องราวความรักของ 'แม่' จากกิจกรรมวาดภาพ My Idol ในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคนรุ่นใหม่ รุ่น 1 (TOT) ซึ่งสะท้อนถึงพลังของสองแม่ที่มีต่อลูกซึ่งแม้ รูปแบบจะต่างกัน แต่ความรักที่มีนั้นไม่ต่างกันเลย

เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมหินสวยน้ำใส จ.ระยอง แม่หนึ่งที่คอยเป็นห่วง เข้มงวดกับลูก จนลูกอยากหนีห่างสุดชีวิต กับอีกหนึ่งแม่ที่เป็นแม่เลี้ยงใจดีอบอุ่น พลิกชีวิตเป็นแรงบันดาลใจ สร้างพลังให้ลูกในวัยเยาวชนคนหนุ่มสาว ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย กวีวรวัจน์ ขันดวง คนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม รุ่น 1 กล่าวในกิจกรรมวาดภาพ My Idol ในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคนรุ่นใหม่ รุ่น 1 (TOT) จัดโดยมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) ร่วมกับสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สสส. ซึ่งเขาเลือกที่จะวาดภาพ My Idol เป็น "แม่ศรีทอง" แม่ของเขาเอง

"แม่ศรีทองมักคอยเป็นห่วง และเข้มงวดกับผม ทำให้รู้สึกโกรธ และเกลียดชังเป็นภาพฝังใจในส่วนลึกมาตั้งแต่วัยเด็กจนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผมเพิ่งจะเข้าใจในความรักของแม่ที่รักและเป็นห่วงผม เมื่อย้อนไปในอดีตวัยเด็กผมเป็นเด็กที่ดื้อมาก อยากไปดูหนังบ้านเพื่อน ไปเล่นกับเพื่อน แต่แม่จะไม่ให้ไปคอยดุ และตามให้กลับบ้านตลอดเวลา ผมจึงอยากมีบ้านบนต้นไม้จะได้หนีแม่ขึ้นไปหลบอยู่ ไม่อยากอยู่ที่บ้านมันร้อน"

กวีวรวัจน์เล่าว่า หลายครั้งที่ตนหนีไปอยู่วัด จนสมัยเรียนชั้นประถมก็ได้ไปบวชเณร มีอิสระมีความสุข  ขนาดแม่เคยมาเยี่ยม ก็ไม่ออกไปหา ด้วยภาพจำที่ฝังใจคือแม่ถือไม้เรียวรอตี อยู่หน้าบ้าน ทำให้รู้สึกโกรธแค้นอยากหนีออกจากบ้าน ตั้งเป้าหมายรอวันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ทำงานหาเงินเพื่อจะอยู่ด้วยตนเองให้ได้

"จุดเปลี่ยนที่ทำให้เข้าใจความรักของแม่ที่มีต่อผม ต้องขอบคุณป้าคิด (สมคิด มหิศยา) ที่ปรึกษาโครงการฯ ที่คอยให้ธรรมะและคำพูดเตือนสติว่าผมโง่หรือฉลาด ที่คลายปมภาพในอดีตที่มีความโกรธแค้นแม่อยู่ในใจเสมอ คำพูดของป้าคิดไม่บอกให้ผมทำอย่างไร เพราะต้องการให้ผมคิดได้ด้วยตัวเอง อีกคนหนึ่ง พี่ติ๊บ (กรรณิการ์ ควรขจร) อดีตผู้อำนวยการมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ได้เตือนสติผมเช่นกันว่า เราเข้าใจความหมายความรักของแม่ผิดไป ผมจึงได้คิดทบทวนจากที่ผู้ใหญ่ทั้ง 2 คน เตือนผม จึงคิดได้ว่าเรามีอนาคตที่จะต้องเดินต่อไป ทำไมยังต้องเอาอดีตมาคิดทำร้ายฝังใจเราอยู่ตลอดเวลา"

จนในที่สุด กวีวรวัจน์ ก็ได้เข้าใจในความรัก ความหวังดีที่แม่พร่ำสอนให้รู้จักการทำงาน ตั้งใจเรียน โดยวันนี้ เขาวางแผนชีวิตตนเองเพื่อทำตามเป้าหมายชีวิตทำให้พ่อแม่สบายใจที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ด้านน้องตุ๊กตา-กนกวรรณ มีพรหม ก็เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่วาดภาพ 'แม่เลี้ยง' ของเธอในฐานะไอดอล

เธอบอกว่า แวบแรกภาพ My Idol ที่ปรากฏมา ก็คือ แม่ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ชั้น ป.3 ถึงทุกวันนี้ ซึ่งแม่เลี้ยงเป็นแม่ที่ใจดี อบอุ่น เก่ง ขยัน และเป็นกำลังหลักสำคัญในการดูแลธุรกิจของครอบครัวได้อย่างดี ที่สำคัญสามารถทำให้พ่อเปลี่ยนเป็นคนใหม่กลับมาทำหน้าที่ของผู้นำครอบครัวที่ดีของลูกๆ ได้ "หนูสนิทกับแม่เลี้ยงมาก มีปัญหาอะไรก็คุยได้หมดทุกเรื่อง หนูยังคิดว่ายังมีคนแบบนี้อีกหรือ ทั้งอ่อนโยน มีเมตตา ที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่อง

แม่เลี้ยงลูกเลี้ยงเลย ทุกวันนี้หนูจบปริญญาตรี กำลังศึกษาปริญญาโทและทำงานเพื่อสังคมควบคู่ไปด้วย" น้องตุ๊กตากล่าว ไม่ต้องไปหาไอดอลไกลที่ไหน เพราะซูเปอร์ฮีโร่ในบ้านนี่เอง ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความรัก ซึ่งแม้บ้างจะมีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ก็ไม่มีใครหวังดีเท่ากับคน ในบ้าน.

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต