มอบรางวัลครูดีไม่มีอบายมุข
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
ภาพประกอบจาก สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
สคล. และภาคีเครือข่าย สสส. ร่วมกับ สพฐ. มอบรางวัลรางวัลครูดีไม่มีอบายมุข และโรงเรียนดีไม่มีอบายมุขอย่างต่อเนื่อง ผู้รับรางวัลร่วมประกาศเจตนารมณ์และยื่นข้อเสนอให้ ศธ. จัดการศึกษาเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ การพนัน และอบายมุข ในทุกระดับชั้นของโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศ ขณะที่ผลสำรวจของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ปี 2560 พบว่าเด็กและเยาวชน อายุ 15-24 ปีที่เป็นกลุ่ม"นักดื่มหน้าใหม่" มีจำนวนกว่า 2.28 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของเยาวชนทั้งหมด ซึ่งอนาคตอาจกลายเป็นนักดื่มประจำและนักดื่มหนักเพิ่มมากขึ้นได้
สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ, เครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน, เครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข ได้คัดเลือกครูและบุคลากรด้านการศึกษา ที่ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตห่างไกลอบายมุข เช่น ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่ การพนัน ฯลฯ พร้อมทั้งทำหน้าที่สอนและช่วยเหลือนักเรียน รวมถึงครอบครัวและชุมชนให้มีสุขภาวะที่ดีในสภาพแวดล้อมที่ปลอดอบายมุข เข้ารับโล่รางวัล "ครูดีไม่มีอบายมุข" และ "โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข" อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ "ครูดีไม่มีอบายมุข (รุ่นที่ 9)" และ "โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข (รุ่นที่ 4)" ประจำปี 2562 โดยภายในงานมีประธานเครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุขทั้ง 4 ภาค ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และยื่นข้อเสนอต่อผู้บริหารระดับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขับเคลื่อนให้มีโรงเรียนดีไม่มีอบายมุขเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ การพนัน และอบายมุขต่าง ๆ ในทุกระดับชั้น มีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อการลด ละ เลิก อบายมุขทุกรูปแบบ พร้อมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเป็นต้นแบบการดำเนินชีวิตปลอดอบายมุขให้ได้รับการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเลื่อนวิทยฐานะที่เหมาะสม
นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า "โครงการครูดีไม่มีอบายมุข และโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นรางวัลที่ไม่ต้องแข่งขันกับใคร แต่เป็นการแข่งกับใจตนเอง นับเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าการดำรงตนอยู่ในศีลธรรม ปลอดอบายมุข เป็นสิ่งสำคัญที่สังคมปรารถนาให้มี โดยเฉพาะผู้เป็นครู ซึ่งทำหน้าที่อบรมบ่มเพาะศิษย์ให้เป็นคนดี กระทรวงศึกษาธิการยินดีร่วมขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ และอบายมุข ตั้งแต่ระดับครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษา ไปจนถึงเยาวชนและครอบครัว ให้ปลอดภัยจากอบายมุขทุกประเภท เพราะอบายมุขสร้างความเสียหายให้กับการศึกษา สังคม ประเทศชาติเป็นอย่างมาก การมีปัญญารู้เท่าทันอบายมุขในทุกมิติที่แฝงมากับโลกการสื่อสารที่เปลี่ยนไป จะทำให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไป"
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่า "ผลสำรวจของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ในปี 2560 พบว่าเด็กและเยาวชน อายุ 15-24 ปี เป็นกลุ่มนักดื่มหน้าใหม่ จำนวน 2,282,523 คน หรือร้อยละ 23.91 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของเยาวชนทั้งหมด ที่ระบุว่าดื่มสุราในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา แม้สถิตินักดื่มประจำและนักดื่มหนักมีสัดส่วนลดลง แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะมีความเสี่ยงของนักดื่มหน้าใหม่ที่จะผันตัวมาเป็นผู้ดื่มประจำได้ ดังนั้นครูผู้เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่ 2 ของนักเรียน ล้วนมีบทบาทสำคัญในการดูแล ป้องกัน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้มีเยาวชนเป็นนักดื่มประจำและนักดื่มหนักเพิ่มขึ้นอีกในวันข้างหน้า สสส. เชื่อมันว่าการพัฒนาและส่งเสริม 'ครูดีไม่มีอบายมุข' และ 'โรงเรียนดีไม่มีอบายมุข' จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเสริมพฤติกรรมนักเรียนที่มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาของประเทศที่ดีขึ้นตามไปด้วย"
ทั้งนี้ ผลสำรวจจำนวนมากระบุว่า การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักนำไปสู่การสูบุหรี่หรือบริโภคยาสูบ รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ เช่นการพนันร่วมด้วย
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า "การจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการค้นหาครูดี และโรงเรียนดีที่ไม่มีอบายมุข เพื่อมาเป็นผู้นำพาคนอื่น ๆ ให้ร่วมกันพัฒนาสู่การเป็นต้นแบบในการปลอดอบายมุขด้วยเช่นกัน โดย สพฐ. หวังให้เครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุขทั้ง 4 ภาคในปี 2562 นี้ ไปขยายเครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุขเพิ่มมากขึ้น อยากเห็นโรงเรียนกว่า 30,000 แห่งในสังกัด สพฐ. เป็นโรงเรียนดีไม่มีอบายมุขในทุกโรงเรียน ผมในฐานะผู้บริหาร สพฐ. พร้อมนำนโยบายและข้อเสนอของเครือข่ายครูเพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมต่อไป"