มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 1
อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เป็นความจริงอยู่ทุกยุคทุกสมัย เพราะหากเป็นโรคแล้วไม่เพียงแต่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่การเจ็บป่วยแต่ละครั้งยังทำให้คุณภาพชีวิตในการทำงานลดลง และรายได้จากการทำงานก็ลดลงด้วย
มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายความมั่นคงทางอาหาร เครือข่าย หมอพื้นบ้าน โครงการกินเปลี่ยนโลกและสวนผักคนเมือง จัดงาน "มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 1" ภายใต้แนวคิด "กินเปลี่ยน โลก (โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง" ซึ่งในงานจะมีการเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการกินอาหาร โดยเฉพาะอาหารจากภูมิปัญญาไทย เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและห่างไกลโรค
ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้แทนกรรมการบริหารมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงกิจกรรมภายในงานว่า งานมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทครั้งนี้ ทางอภัยภูเบศรได้นำความรู้เรื่องสมุนไพรมาเผยแพร่เช่นเคย แต่สิ่งที่แตกต่างจากงานอื่นๆก็คือ จะเน้นย้ำให้สังคมกลับไปเห็นประโยชน์ของพืชพรรณใกล้ตัว อาทิ พืชสวนครัว พืชริมรั้ว ที่สามารถนำมาใช้เป็นยาและอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยยึดตามองค์ความรู้ภูมิปัญญาและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ยกตัวอย่างเช่น "กระเทียม" ซึ่งมีสารสำคัญกลิ่นฉุนที่มีองค์ประกอบของกำมะถันคือ อัลลิอิน เมื่อหั่น สับ หรือบดแล้ว จะเปลี่ยนเป็นสารชื่ออัลลิซิน มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าช่วยทำความสะอาดเส้นเลือด ช่วยลดโคเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันโลหิต เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันและรักษาหวัด ป้องกันและรักษามะเร็ง แต่ข้อเสียของสารอัลลิซินคือ ไม่คงตัว สามารถสลายได้ภายในไม่กี่นาที การนำมาใช้ประโยชน์ที่ยังคงคุณค่าไว้ของสารสำคัญทางยาก็คือ การรับประทานสด หรือการใช้สารสกัดเพื่อสกัดเอาตัวยาสำคัญออกมา
แต่อย่างไรก็ตาม การรับประทานสดก็ไม่ง่าย เพราะกระเทียมมีกลิ่นที่ติดในปากยาวนานเป็นวันๆ หรือแม้กระทั่งจะหาผลิตภัณฑ์ที่คงไว้ซึ่งสารสำคัญก็หายาก และมีราคาแพง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในท้องตลาดมักเป็นกระเทียมบดและอบแล้วนำมาใส่แคปซูล ซึ่งจะเหลือสารสำคัญทางยาที่ดีกับหลอดเลือดน้อยมาก แต่ในภูมิปัญญาไทยได้มีการนำกระเทียมมาทำเป็น "กระเทียมดองน้ำผึ้ง" ที่สามารถคงไว้ซึ่งสารสำคัญและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของกระเทียมได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจวิธีการทำกระเทียมดองน้ำผึ้งสามารถมาร่วมเรียนรู้การทำได้ในงาน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสาระและบันเทิงจากภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพอีกมากมาย อาทิ ตลาดนัดอาหารท้องถิ่นและภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพตามวิถีไทย เกษตรและพันธุกรรมยั่งยืน วิธีดูและเลือกอาหารให้ได้คุณภาพในลาน "รู้อยู่ รู้กิน" นิทรรศการ "กินเปลี่ยนโลก (โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง" ชม 5 พันธุ์ข้าวสี ชิม 15 พันธุ์ข้าวหอม การเสวนาวิชาการกินเปลี่ยนโลก, อาหารอินทรีย์วิถีแห่งอนาคต, Country Experience on food for change และกิจกรรมอบรม อาทิ การปลูกผักในบ้าน, ผักดอง
งาน "มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทย ครั้งที่ 1" จัดระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2557 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อาคาร 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามได้ที่โทร.0-3721-1289
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต