มจร.เปิดตัวโครงการ’ครอบครัวทำบุญ:ลูกบวชพ่อแม่งดเหล้า’

การบวชเรียน ถือได้ว่า เป็นความหวังสูงสุดของพ่อแม่ที่มีต่อลูกผู้ชาย ด้วยความศรัทธาที่ว่า เมื่อลูกบวช พ่อแม่จะพลอยได้บุญครั้งยิ่งใหญ่ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป ณ วันนี้พ่อแม่อาจจะไม่ต้องรอให้ลูกมีอายุถึงเกณฑ์ที่จะบวชได้อีกต่อไปเนื่องจากวัดหลายๆ วัดได้เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาที่ควรจะปลูกฝังให้กับเยาวชนตั้งแต่ยังเล็ก จึงได้มีการจัดบรรพชาให้กับเด็กๆในช่วงภาคดูร้อนกันมาอย่างต่อเนื่อง

มจร.เปิดตัวโครงการ'ครอบครัวทำบุญ:ลูกบวชพ่อแม่งดเหล้า'

แต่สำหรับการบรรพชาสามเณรของ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยแล้ว นอกจากจะให้สามเณรน้อยได้ศึกษาพระธรรมวินัย และยังได้มีส่วนในการสร้างกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการแนะนำให้สามเณรเป็นผู้ชี้แนะทางสว่างให้กับโยมพ่อโยมแม่ที่ติดเหล้า ได้มีโอกาสเลิกเหล้า เนื่องในวาระที่ลูกได้เช้ามาบวชเรียน ตามโครงการ”ครอบครัวทำบุญ: ลูกบวช พ่อแม่งดเหล้า”

“ผมจะบอกทุกคนที่ดื่มเหล้าว่า เหล้าเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง ไม่ควรจะไปดื่ม เพราะเหล้าทำลายสุขภาพ” สิ้นเสียงใสๆ ที่บอกถึงอันตรายของเครื่องดื่มแอลกออฮอล์ของ ด.ช.ธีรวิทย์ สารพล หรือน้องเบสท์ นักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านขวาว จังหวัดร้อยเอ็ด จากเด็กชายวัย 11 ปี ที่มีนิสัยค่อนข้างเรียบร้อย แต่ก็ยังซุกซนไปตามวัย ที่เตรียมตัวเรียมใจจะเข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรในช่วงปิดภาคเรียนนี้

มจร.เปิดตัวโครงการ'ครอบครัวทำบุญ:ลูกบวชพ่อแม่งดเหล้า' น้องเบสท์ เล่าว่า ตนเองได้รู้จักกับโครงการ “ครอบครัวทำบุญ: ลูกบวช พ่อแม่งดเหล้า” จากครูที่โรงเรียน ซึ่งครั้งนี้เป็นการบวชสามเณรเป็นครั้งแรกด้วยที่อยากบวชเพราะ อยากให้พ่อแม่ได้บุญ ถึงแม้ว่าในครอบครัวตนจะไม่มีใครดื่มเหล้าเป็นประจำ แต่ตนจะนำความรู้ที่ได้จากการบวชสามเณรในครั้งนี้ไปบอกต่อยังผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำว่า เหล้าเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งทุกคนไม่ควรดื่ม เพราะเหล้าทำลายสุขภาพ

นางชบาไพร สารพล คุณแม่ของน้องเบสท์ เล่าว่า น้องเบสท์ได้รับการปลูกฝังเรื่องของการเข้าวัด ทำบุญมาจากคุณยาย ตั้งแต่น้องเบสท์ยังเล็ก ส่วนโครงการดังกล่าว ถือได้ว่า เป็นโครงการที่ดี ช่วยให้พ่อแม่ได้บุญส่วนครอบครัวที่ดื่มเหล้า ก็อาจจะงดเหล้าเพื่อลูกที่จะบวชได้เช่นกัน

พระปรีดา ปีติธมฺโม หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า ทุกๆ ปี ทาง มจร. ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมให้คณาจารย์, เจ้าหน้าที่, พระบัณฑิต, นิสิตและนักเรียนของมหาวิทยาลัยออกไปบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาติพระศาสนาระหว่างปิดการศึกษา โดยจัดให้มีโครงการบรรพชาและอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อนในช่วงเดือนเมษา ยนของทุกปี แต่สำหรับปี 2555 นี้มีความพิเศษอยู่ที่ ทางมจร.ได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)ได้จัดการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนภายใต้แนวคิด “ครอบครัวทำบุญ: ลูกบวช พ่อแม่งดเหล้า” มีจำนวนโครงการที่ได้รับการสนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 409 โครงการ มีจำนวนเยาวชนที่ต้องการบรรพชากว่า 32,487 คน รวมทั้งเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่ต้องการเข้ารับการอบรมกว่า 87,031 คน

มจร.เปิดตัวโครงการ'ครอบครัวทำบุญ:ลูกบวชพ่อแม่งดเหล้า' ทั้งนี้ สามเณรที่เข้ารับการบรรพชาแล้ว จะได้รับการอบรมให้ความรู้จากพระอาจารย์ที่ให้การดูแล โดยจะให้ความรู้ในเรื่องของพุทธศาสนา พร้อมทั้งให้ความรู้ในเรื่องของโทษ พิษภัยของเหล้า บุหรี่ และสนับสนุนให้สามเณรมีบทบาทในการชวนพ่อแม่งดเหล้า

“ข้อดีของการได้บรรพชาภายในระยะเวลา 20 วัน คือ นอกจากเด็กๆ จะได้ศึกษาพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นการละลายพฤติกรรมที่ไม่ดีของเด็กให้รู้จักเรื่องของความอดทน รู้จักระเบียบวินัย การอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มาก หลีกเลี่ยงอบายมุข”

พระปรีดา กล่าวว่า สามเณรที่ได้รับการบรรพชาแล้วจะมีส่วนที่จะทำให้พ่อแม่เลิกเหล้าได้อย่างไรนั้น จากความเชื่อที่ว่า เมื่อลูกบวชพ่อแม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ หรือได้บุญมากนั้น เมื่อลูกบวชและขอร้องให้พ่อแม่เลิกเหล้านั้น จะทำให้พ่อแม่เชื่อถือคำพูดของลูกที่บวชมากกว่าลูกในตอนที่ยังไม่ได้บวช ซึ่งถือว่าเป็นกลวิธีทางหนึ่งที่จะช่วยให้พ่อแม่เลิกเหล้าได้เช่นกัน

“ทั้งนี้อาตมาเชื่อว่า ความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จะเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนได้ลด ละ เลิกเหล้าได้” พระปรีดา กล่าว

นายสงกรานต์ ภาคโชคดีด้าน นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่าโดยปกติแล้ว สสส.จะมีกิจกรรมให้เด็กได้ทำตอนปิดภาคเรียนเป็นประจำอยู่แล้วซึ่งโครงการบรรพชาภาคฤดูร้อนจำนวน  3 หมื่นรูปทั่วประเทศก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สสส.ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยจัดขึ้น เพื่อดึงเด็กให้ห่างไกลอบายมุข สิ่งมอมเมาทั้งหลายเช่น เกม พนัน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากจะทำให้เด็กได้ความรู้เกี่ยวพระพุทธศาสนาแล้ว ยังทำให้มีเป้าหมายในชีวิต แม้จะไม่ได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อาจมีคนเข้าใจและนำไปใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตได้ โดยเฉพาะท่าน พระครูพระปรีดา ปีติธมฺโม ท่านเป็นพระนักพัฒนาอยู่แล้วจะมีกิจกรรมต่างๆ และเทคนิคการสอนให้เด็กตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และในระยะยาวอาจนำเด็กเหล่านี้มาเป็นอาสาสมัครช่วยรณรงค์เป็นสายสืบ เหล้าตู้เกม การพนันในโรงเรียนวิถีพุทธของท่านด้วย

“การจัดโครงการนี้ฯ อาจ เป็นวิธีคัดกรองเด็กที่จะเข้ามาเป็น อสม.ทำงานเพื่อสังคมอย่างแท้จริงในอนาคตด้วย”นายสงกรานต์กล่าว

ถึงแม้ในช่วงระยะเวลาเพียง 20 วัน มันอาจจะดูว่าเป็นช่วงเวลาที่น้อยในการเพาะบ่มต้นกล้าน้อยๆที่จะเจริญเติบโตขึ้นไปในอนาคต แต่สำหรับ โครงการ”ครอบครัวทำบุญ: ลูกบวช พ่อแม่งดเหล้า” แล้ว จะไม่เป็นเพียงกิจกรรมที่ให้ความรู้ในเรื่องของพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังจะสอดแทรกความรู้ เรื่องของพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป เพื่อให้สามเณรเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจและร่างกาย และรู้เท่าทันถึงอันตรายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย

Shares:
QR Code :
QR Code