พ่อแม่เป็นแรงบันดาลใจให้ ‘รักการอ่าน’

/data/content/23697/cms/acilruvz1459.jpg

          สสส.เผย ‘เด็กกรุงฯ’ ส่วนใหญ่ชอบอ่านหนังสือ เผยพ่อแม่เป็นแรงบันดาลใจ

          เนื่องในวันหนังสือเด็กนานาชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี และสำหรับประเทศไทย ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงส่งเสริมการอ่าน รัฐบาลจึงประกาศให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติและวันรักการอ่าน

          ในปี 2557 นี้ แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ เครือข่ายเสียงประชาชน (WE VOICE) ได้สำรวจความคิดเห็นของเด็กชาวกรุงเทพและปริมณฑลที่มีอายุระหว่าง 6-13 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2557 จำนวนทั้งสิ้น 1,124 คน พบว่า

          เด็กในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ชอบอ่านหนังสือที่ไม่ใช่หนังสือเรียนถึงร้อยละ 72.8 ในจำนวนนี้ระบุเหตุผลที่ชอบอ่านหนังสือเพราะมีหนังสือที่ชอบมากที่สุด (ร้อยละ 57.1) รองลงมา ระบุว่า ชอบอ่านหนังสือเอง (ร้อยละ18.8) และชอบอ่านหนังสือเพราะมีบุคคลต้นแบบ (ร้อยละ 16.1) ตามลำดับ

          นอกจากนี้ยังสอบถามเด็กที่ระบุว่าชอบอ่านหนังสือเพราะมีหนังสือที่ชอบ โดยเด็กกว่าครึ่งได้ระบุว่าชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมากที่สุด (ร้อยละ 53.4) รองลงมาคือ หนังสือนิทาน (ร้อยละ 21.5) และหนังสือนิยาย/ซีรีย์ ดารา/บันเทิง ใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 10.2 และร้อยละ 10.0)

          สำหรับบุคคลต้นแบบที่เด็กระบุว่าเป็นต้นแบบ ทำให้ตนเองชอบอ่านหนังสือนั้น คือ พ่อแม่ (ร้อยละ 44.0) รองลงมา คือ เพื่อน (ร้อยละ 23.2) และครู (ร้อยละ 15.2)

          ส่วนเหตุผลที่ระบุว่าชอบอ่านหนังสือเพราะมีสถานที่อำนวยความสะดวก พบว่า ร้อยละ 31.7 เท่ากัน เป็นเพราะมีห้องสมุดในโรงเรียน/ใกล้ชุมชน และที่มีบ้านมีหนังสือเยอะ

ขณะที่มีเด็กร้อยละ 27.2 ที่ระบุว่าไม่ชอบอ่านหนังสือ โดยให้เหตุผลที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ เพราะมีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำ (ร้อยละ 31.8) รองลงมาคือ ไม่มีหนังสือที่น่าสนใจ (ร้อยละ 28.4) และอ่านหนังสือไม่ออก (ร้อยละ 16.9) ในกรณีที่พูดถึงการอ่านทั้งหมด ทั้งที่เป็นหนังสือทั่วไปและหนังสือเรียนด้วย

          แหล่งของการอ่านคืออ่านหนังสือจากไหน พบว่า เด็กส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.1 ระบุว่าอ่านหนังสือการ์ตูนมากที่สุด รองลงมาคือ อ่านหนังสือจากสื่อคอมพิวเตอร์/อินเตอร์เน็ต (ร้อยละ 17.1) และอ่านหนังสือจากนิตยสารหรือพ็อกเก็ตบุค (ร้อยละ 12.1)

          สำหรับสถานที่ในการอ่านหนังสือของเด็ก ส่วนใหญ่ร้อยละ 56 ระบุว่า จะอ่านหนังสือที่บ้าน (ร้อยละ 56.0) รองลงมา คือ ห้องสมุดของโรงเรียน (ร้อยละ 29.0) และห้องสมุดชุมชน (ร้อยละ 11.2)

          เมื่อสอบถามถึงระยะเวลาในการอ่าน พบว่า เด็กอ่านหนังสือน้อยกว่า 1 ชั่วโมงมากที่สุด (ร้อยละละ 44.6) รองลงมา คือ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน (ร้อยละ 40.7) และ 3-4 ชั่วโมงต่อวัน (ร้อยละ 12.3)

          ทั้งนี้นาง สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ได้กล่าวเชิญชวนพ่อแม่ร่วมเทิดพระเกียรติ “เจ้าฟ้านักอ่าน” ร่วมกันว่า “เด็กช่วงวัยประถมศึกษา 6-12 ปี เป็นวัยเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา วัยนี้จะมีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา พร้อมจะออกไปสู่สังคมที่ออกไปปกป้องเขาน้อยลง เด็กต้องช่วยตัวเองมากขึ้น การอ่านจึงเป็นเครื่องมือส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญ ผลสำรวจที่พบในครั้งนี้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการที่ คุณพ่อคุณแม่ยังคงมีบทบาทสูงในการเป็นต้นแบบและชี้แนะให้กับลูกได้”

 

 

          ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า

 

Shares:
QR Code :
QR Code