พื้นที่ต้นแบบ จังหวัดปลอดบุหรี่ “อุบลราชธานี”

เพราะการใช้พื้นที่เป็นฐาน คือหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการลดปริมาณผู้บริโภคยาสูบลงเพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า โดยเฉพาะปัจจุบันพบว่าผู้สูบบุหรี่ส่วนใหญ่นั้นกระจายในชุมชนต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่เขตเมืองอีกต่อไป


พื้นที่ต้นแบบ จังหวัดปลอดบุหรี่


ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) เป็นอีกหนึ่งแนวทางการทำงานเชิงรุกด้วยการเข้าไปให้ถึงเป้าหมายและขยายพื้นที่สร้างภาคีเครือข่ายใหม่ๆ เพิ่มพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ตามกฎหมายออกไปให้ครอบคลุม โดยเฉพาะการสร้างเป้าหมาย กติการ่วมกันของคนในชุมชนเพื่อคนในชุมชนเอง โดยจากการดำเนินงาน "โครงการจังหวัดปลอดบุหรี่" มาตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน สามารถขยายพื้นที่จังหวัดปลอดบุหรี่ได้แล้วรวม 31 จังหวัด


โครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นหนึ่งตัวอย่างของจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่สะท้อนให้เห็นพลังของการมีส่วนร่วมของภาคีทุกภาคส่วนในพื้นที่ อีกทั้งยังมีรูปแบบการดำเนินงานที่ทำให้เกิดการพัฒนาศักยภาพคนทำงานในพื้นที่ จากการสร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับนโยบาย ไปจนถึงระดับผู้ปฏิบัติที่ควบคุมและดูแลให้เป็นไปตามนโยบายถือเป็นปัจจัยความสำเร็จความสำเร็จของโครงการ เพราะเมื่อมีการกำหนดเป้าหมายให้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้วการทำงานให้เป็นไปตามแผนงานจึงเป็นเรื่องง่ายขึ้น


โดยโครงการฯ เริ่มจากการขับเคลื่อนด้วยการตั้งคณะทำงานด้านการพัฒนาศักยภาพภาคีหรือข่ายสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เป็นแกนหลักในการประสานงาน ซึ่ง สสจ.ได้ออกแบบการดำเนินงานให้คณะทำงานทุกภาคส่วนร่วมกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานพื้นมุ่งสู่จังหวัดอุบลราชธานีปลอดบุหรี


พื้นที่ต้นแบบ จังหวัดปลอดบุหรี่ รวมถึงมีการจัดการเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งระหว่างกลุ่มคณะทำงาน และผู้ดำเนินงานหลักในพื้นที่2เดือนต่อครั้ง เพื่อติดต่อความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานและนำบทเรียนการดำเนินงานมาปรับใช้ในการทำงานร่วมกัน


ต่อเนื่องการขยายงานไปยังสถานศึกษาในพื้นที่ เกิดโรงเรียนปลอดบุหรี่โดยได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและวิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธรจังหวัดอุบลราชธานีเป็นแกนหลัก ด้านมวลชนโครงการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดอุบลราชธานีเข้ามาเป็นภาคีร่วมมือ เพื่อสร้างความตระหนักให้กลุ่มประชาชนและช่วยขยายความร่วมมือให้กว้างขึ้น


นอกจากนี้ การวางแผนรองรับสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญโดยได้ขยายผลการให้บริการของคลินิกฟ้าใส ผ่าน โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ ในการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่อย่างเป็นขึ้นตอนและมีประสิทธิภาพ


นพ.ชัย กฤติยาภิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมยาสูบ อธิบายว่า การสร้างพื้นที่แบบนี้ขึ้นมุ่งหวังให้ประสบผลสำเร็จและยั่งยืน โดยหากคนในชุมชนเห็นความสำคัญและช่วยกันร่างสร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่ขึ้นก็จะเกิดความเข้มแข็งมากกว่า ถือเป็นการใช้ทุนทางสังคมและมาตรการทางสังคมของพื้นที่ ทำให้ชุมชนปลอดบุหรี่


อย่างไรก็ตาม โครงการจังหวัดปลอดบุหรี่ไม่ใช่งานขององค์กรใดองค์กรหนึ่งแต่เป็นหน้าที่ที่ทุกคน ทุกองค์กรในจังหวัดต้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างสังคมไทยให้ไร้ควันบุหรี่ สร้างสุขภาพและสังคมสุขภาวะให้ทุกคนในจังหวัดของตนเอง


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code